พบผลลัพธ์ทั้งหมด 49 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 607/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงิน ดอกเบี้ยเกินสัญญา และการพิสูจน์การชำระหนี้
ตกลงกู้เงินกัน 4,000 บาทคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 10 เดือน เป็นเงิน 2,000 บาท เอารวมไว้เป็นเงินกู้ด้วย เมื่อกรณีเป็นที่พึงสันนิษฐานได้ว่า คู่สัญญามีเจตนาที่จะแยกการกู้เงินและเรียกดอกเบี้ยออกต่างหากจากกันแล้ว ส่วนดอกเบี้ยที่เรียกเกินอัตราก็ตกเป็นโมฆะแต่ต้นเงินกู้หาเป็นโมฆะด้วยไม่
การใช้เงินกู้ยืมที่มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดงหรือได้เวนคืนเอกสาร หรือได้แทงเพิกถอนลงไว้แล้วเท่านั้น ทั้งนี้จะเป็นตัวผู้กู้ชำระเองหรือบุคคลที่ 3 เป็นผู้ชำระก็เช่นเดียวกันเพราะมาตรา 653 มิได้บัญญัติยกเว้นถึงตัวบุคคลผู้ชำระหนี้ไว้เลย
การใช้เงินกู้ยืมที่มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดงหรือได้เวนคืนเอกสาร หรือได้แทงเพิกถอนลงไว้แล้วเท่านั้น ทั้งนี้จะเป็นตัวผู้กู้ชำระเองหรือบุคคลที่ 3 เป็นผู้ชำระก็เช่นเดียวกันเพราะมาตรา 653 มิได้บัญญัติยกเว้นถึงตัวบุคคลผู้ชำระหนี้ไว้เลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับในสัญญา: การบังคับใช้และการลดจำนวนค่าปรับโดยศาล
การที่คู่สัญญาตกลงกันไว้ล่วงหน้าว่า ถ้าฝ่ายใดผิดสัญญายอมรับผิดใช้ค่าเสียหายให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นรายวันวันละเท่านั้นบาท ดังนี้ถือว่าเป็นเบี้ยปรับ
เมื่อเป็นเบี้ยปรับแล้วฝ่ายผิดสัญญาต้องรับผิดโดยไม่ต้องพิจาณาว่า อีกฝ่ายเสียหายไปเท่าใด แต่ศาลอาจลดเบี้ยปรับลงได้
การกำหนดเบี้ยงปรับไม่ใช่เรื่องคู่สัญญาตั้งใจจะเสียดอกเบี้ยแก่กัน จึงไม่ใช่เรื่องดอกเบี้ยเกินอัตรา
เมื่อเป็นเบี้ยปรับแล้วฝ่ายผิดสัญญาต้องรับผิดโดยไม่ต้องพิจาณาว่า อีกฝ่ายเสียหายไปเท่าใด แต่ศาลอาจลดเบี้ยปรับลงได้
การกำหนดเบี้ยงปรับไม่ใช่เรื่องคู่สัญญาตั้งใจจะเสียดอกเบี้ยแก่กัน จึงไม่ใช่เรื่องดอกเบี้ยเกินอัตรา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับในสัญญา: ศาลยืนตามข้อตกลงเบี้ยปรับรายวัน แม้จะสูงกว่าความเสียหายจริง
การที่คู่สัญญาตกลงกันไว้ล่วงหน้าว่า ถ้าฝ่ายใดผิดสัญญายอมรับผิดใช้ค่าเสียหายให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นรายวันวันละเท่านั้นบาท ดังนี้ถือว่าเป็นเบี้ยปรับ
เมื่อเป็นเบี้ยปรับแล้วฝ่ายผิดสัญญาต้องรับผิดโดยไม่ต้องพิจารณาว่า อีกฝ่ายเสียหายไปเท่าใด แต่ศาลอาจลดเบี้ยปรับลงได้
การกำหนดเบี้ยปรับสำหรับการไม่ชำระเงินไม่ใช่เรื่องคู่สัญญาตั้งใจจะเสียดอกเบี้ยแก่กัน จึงไม่ใช่เรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
เมื่อเป็นเบี้ยปรับแล้วฝ่ายผิดสัญญาต้องรับผิดโดยไม่ต้องพิจารณาว่า อีกฝ่ายเสียหายไปเท่าใด แต่ศาลอาจลดเบี้ยปรับลงได้
การกำหนดเบี้ยปรับสำหรับการไม่ชำระเงินไม่ใช่เรื่องคู่สัญญาตั้งใจจะเสียดอกเบี้ยแก่กัน จึงไม่ใช่เรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีตั๋วสัญญาใช้เงินโมฆะ จำเลยมีสิทธิยกข้อต่อสู้และนำสืบหักล้างได้
ฟ้องเรียกเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงิน จำเลยต่อสู้ว่าตั๋วสัญญาเป็นโมฆะตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา เพราะจำเลยรับเงินไปไม่เท่าจำนวนเงินในตั๋วสัญญาใช้เงิน ดังนี้ จำเลยย่อมขอนำสืบหักล้างได้ตามข้อต่อสู้