พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19016/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์ อำนาจศาลอุทธรณ์ และการฟ้องคดีอาญาแม้มีการชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ซึ่งมิใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้จำเลยจะยินยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วม ก็หาทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปไม่
ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม อำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาที่แบ่งตามประเภทคดีคงมีแต่เฉพาะในศาลชั้นต้นเท่านั้น ส่วนในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาคซึ่งมีเขตอำนาจย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีในศาลชั้นต้นในเขตอำนาจทุกประเภททั้งที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวงและศาลจังหวัดที่อุทธรณ์มาได้ เมื่อคดีนี้อยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีเขตอำนาจศาล ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้
ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม อำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาที่แบ่งตามประเภทคดีคงมีแต่เฉพาะในศาลชั้นต้นเท่านั้น ส่วนในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาคซึ่งมีเขตอำนาจย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีในศาลชั้นต้นในเขตอำนาจทุกประเภททั้งที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวงและศาลจังหวัดที่อุทธรณ์มาได้ เมื่อคดีนี้อยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีเขตอำนาจศาล ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลทหารและการอุทธรณ์คำพิพากษาภายใต้คำสั่งคณะปฏิรูปฯ
จำเลยที่ 2 ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลทหาร ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 29ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2519 ข้อ 1 จำเลยที่ 2 จึงอุทธรณ์มิได้ประการหนึ่งอีกประการหนึ่งศาลอุทธรณ์เป็นศาลยุติธรรมพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา 2 ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษาคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิคำพิพากษาของศาลทหารต่อศาลอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลและข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหารภายใต้คำสั่ง คปท.
จำเลยที่ 2 ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลทหาร ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 29 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2519 ข้อ 1 จำเลยที่ 2 จึงอุทธรณ์มิได้ประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งศาลอุทธรณ์เป็นศาลยุติธรรมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 2 ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษาคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลทหารต่อศาลอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2771/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมพิจารณาคดีต่างศาล: ศาลพลเรือนไม่มีอำนาจพิจารณารวมกับคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร
ศาลพลเรือนประทับฟ้องแล้วสั่งให้พิจารณารวมกับคดีของศาลทหาร และพิพากษารวมกันมา โดยมีตุลาการศาลทหารและผู้พิพากษาศาลพลเรือนชุดเดียวกันรวมสามนายเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษา เป็นการไม่ชอบตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมว่าด้วยอำนาจศาลและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 25เพราะคดีต่างศาลกันจะพิจารณารวมกันไม่ได้ เป็นเรื่องศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา ต้องถือว่าคดีนี้ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาของศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์จึงยังไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาต้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ให้เป็นการถูกต้องเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2771/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมพิจารณาคดีระหว่างศาลพลเรือนและศาลทหารที่ไม่ชอบตามกฎหมาย และผลกระทบต่ออำนาจศาลอุทธรณ์
ศาลพลเรือนประทับฟ้องแล้วสั่งให้พิจารณารวมกับคดีของศาลทหาร และพิพากษารวมกันมา โดยมีตุลาการศาลทหารและผู้พิพากษาศาลพลเรือนชุดเดียวกันรวมสามนายเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษา เป็นการไม่ชอบตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมว่าด้วยอำนาจศาลและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 25 เพราะคดีต่างศาลกันจะพิจารณารวมกันไม่ได้ เป็นเรื่องศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาต้องถือว่าคดีนี้ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาของศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์จึงยังไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาต้องให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ให้เป็นการถูกต้องเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1155/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาล: ศาลอาญาไม่มีอำนาจสั่งปล่อยตัวผู้ถูกขังโดยหมายศาลทหาร แม้เป็นคดีที่โต้แย้งถึงอำนาจศาล
ศาลยุติธรรมตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม และศาลทหารตามพระราชบัญญัติพระธรรมนูญศาลทหารต่างมีฐานะเป็นศาลที่ใช้อำนาจตุลาการตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน จึงต่างไม่มีอำนาจเหมือนกัน ศาลต่อศาลจะมีอำนาจเหนือกันได้ก็แต่เฉพาะที่มีบัญญัติไว้ในกฎหมาย ฉะนั้น ศาลอาญาจึงไม่อยู่ในฐานะที่จะมีอำนาจสั่งให้ปล่อยตัวบุคคลที่ศาลทหารในเวลาไม่ปกติได้ออกหมายขังไว้ได้
บุคคลที่ลงชื่อในหมายขังของศาลหาใช่กระทำเป็นส่วนตัวไม่ แต่กระทำในนามของศาลและในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ตามกฎหมาย จึงต้องถือว่าศาลนั้นเป็นผู้ก่อให้เกิดการขังนั้นขึ้น
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 นั้น ให้ศาลหมายเรียกเจ้าพนักงานหรือบุคคลอื่นซึ่งก่อให้เกิดการควบคุม ขับ หรือจำคุก ฯ มาได้เท่านั้น จะขยายความออกไปให้ศาลหมายเรียกศาลด้วยกันมาหาได้ไม่
บุคคลที่ลงชื่อในหมายขังของศาลหาใช่กระทำเป็นส่วนตัวไม่ แต่กระทำในนามของศาลและในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ตามกฎหมาย จึงต้องถือว่าศาลนั้นเป็นผู้ก่อให้เกิดการขังนั้นขึ้น
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 นั้น ให้ศาลหมายเรียกเจ้าพนักงานหรือบุคคลอื่นซึ่งก่อให้เกิดการควบคุม ขับ หรือจำคุก ฯ มาได้เท่านั้น จะขยายความออกไปให้ศาลหมายเรียกศาลด้วยกันมาหาได้ไม่