คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 84

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 161 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดทางอาญา แม้ผู้อื่นไม่ลงมือทำ ผู้ใช้ก็มีความผิดตามกฎหมาย
ขณะที่ตำรวจเข้าจับกุมและแย่งปืนกับจำเลยที่ 1 อยู่นั้น จำเลยที่ 2 เข้าช่วยแย่งปืนจากตำรวจ เมื่อตำรวจจับจำเลยที่ 2 ได้จำเลยที่ 2 ได้ร้องบอกให้จำเลยที่ 1 ขว้างระเบิดมือใส่ตำรวจ ดังนี้ จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานกระทงหนึ่ง และใช้ให้ฆ่าเจ้าพนักงานอีกกระทงหนึ่ง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 บอกให้จำเลยที่ 1 เอาลูกระเบิดมือขว้างเจ้าพนักงาน ก็เท่ากับโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ใช้ให้จำเลยที่ 1 เอาลูกระเบิดขว้างเจ้าพนักงานเพื่อจะฆ่าให้ตาย (แม้โจทก์จะไม่ได้อ้างมาตรา 84 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม) ถือได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้ใช้แล้ว
จำเลยที่ 2 ให้จำเลยที่ 1 ฆ่าเจ้าพนักงาน แต่จำเลยที่ 1 ไม่กระทำตามจำเลยที่ 2 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 ประกอบด้วยมาตรา 84 วรรค 2 ซึ่งต้องระวางโทษ 1 ใน 3 ของโทษประหารชีวิต กฎหมายไม่ได้บัญญัติโทษ 1 ใน 3 ของโทษประหารชีวิตไว้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 52 (1) มาใช้เป็นหลักฐานในการกำหนดโทษ กล่าวคือ ให้ลดโทษประหารชีวิตเสีย 1 ใน 3 ก่อน คงเหลือโทษเพียง 2 ใน 3 โดยให้จำคุกขั้นต่ำ 16 ปี แล้วคำนวณเอาเพียงครึ่งหนึ่งของอัตราโทษ 2 ใน 3 ผลลัพธ์ก็คือ ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 8 ปี
โจทก์ไม่ได้ฎีกาในทำนองขอให้เพิ่มโทษ ศาลฎีกาจะพิพากษาเพิ่มโทษจำเลยให้หนักขึ้นหาได้ไม่
ศาลล่างปรับบทกฎหมายไม่ถูกต้อง แม้โจทก์จะไม่ได้ฎีกาขึ้นมาก็ตาม ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องในคดีอาญา: ผู้เสียหายต้องเสียหายโดยตรงจากการกระทำผิด
โจทก์กับนางหน่วงผู้ตายมิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันปลอมลายพิมพ์นิ้วมือนางหน่วงลงในสัญญากู้ แล้วนำสัญญากู้เอกสารสิทธิปลอมไปยื่นฟ้องต่อศาล ไม่ใช่จำเลยสมคบกันปลอมลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ในสัญญากู้นั้น โจทก์จึงไม่เป็นบุคคลได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง การที่โจทก์ถูกยึดทรัพย์เพราะการกระทำของจำเลย โจทก์ก็ชอบที่จะไปดำเนินคดีในทางแพ่งได้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 (4) จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องอาญา: ผู้เสียหายต้องเสียหายโดยตรงจากการกระทำผิด และไม่ใช่ความเสียหายทางอ้อมที่สามารถแก้ไขได้ในทางแพ่ง
โจทก์กับนางหน่วงผู้ตายมิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันปลอมลายพิมพ์นิ้วมือนางหน่วงลงในสัญญากู้ แล้วนำสัญญากู้เอกสารสิทธิปลอมไปยื่นฟ้องต่อศาล ไม่ใช่จำเลยสมคบกันปลอมลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ในสัญญากู้นั้น โจทก์จึงไม่เป็นบุคคลได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง การที่โจทก์ถูกยึดทรัพย์เพราะการกระทำของจำเลย โจทก์ก็ชอบที่จะไปดำเนินคดีในทางแพ่งได้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการกระทำผิดอาญา: การร้องบอกให้ผู้อื่นยิงเป็นการร่วมกระทำผิด
ขณะที่จำเลยที่ 1 กำลังยื้อแย่งปืนกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 ได้ร้องบอกจำเลยที่ 2 ว่า เทยิง ๆ นายเทจำเลยที่ 2 ก็ได้ใช้ปืนยิงผู้ตาย การที่จำเลยที่ 1 ร้องบอกให้จำเลยที่ 2 ยิงผู้ตายเช่นนี้เป็นการร้องบอกให้ช่วยกันทำร้ายผู้ตายตามมูลกรณีที่จำเลยที่ 1 มีต่อผู้ตาย การที่จำเลยที่ 2 ได้ใช้ปืนยิงผู้ตายก็เป็นการแสดงว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสองจึงเป็นตัวการด้วยกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการร่วมกระทำผิด: การร้องบอกให้ผู้อื่นยิงถือเป็นเจตนาในการร่วมกระทำความผิดด้วย
ขณะที่จำเลยที่ 1 กำลังยื้อแย่งปืนกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 ได้ร้องบอกจำเลยที่ 2 ว่า เทยิงๆ นายเทจำเลยที่ 2 ก็ได้ใช้ปืนยิงผู้ตาย การที่จำเลยที่ 1 ร้องบอกให้จำเลยที่ 2 ยิงผู้ตายเช่นนี้ เป็นการร้องบอกให้ช่วยกันทำร้ายผู้ตายตามมูลกรณีที่จำเลยที่ 1 มีต่อผู้ตาย การที่จำเลยที่ 2 ได้ใช้ปืนยิงผู้ตายก็เป็นการแสดงว่า จำเลยที่ 2 มีเจตนาร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสองจึงเป็นตัวการด้วยกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์: ผู้สนับสนุนต้องรับโทษสองในสามของความผิด
จำเลยพาพวกปล้นมารู้จักบ้านผู้เสียหายแล้วแยกทางไปโดยไม่ได้ร่วมปล้นด้วย จำเลยมีความผิดเพียงเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86
จำเลยสนับสนุนตัวการให้ปล้นทรัพย์ตัวการได้กระทำการเพียงพยามยามปล้น จำเลยจึงต้องรับโทษสองในสามของความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการปล้นทรัพย์: ผู้สนับสนุนต้องรับโทษสองในสามของความผิดฐานพยายามปล้น
จำเลยพาพวกปล้นมารู้จักบ้านผู้เสียหายแล้วแยกทางไปโดยไม่ได้ร่วมปล้นด้วย จำเลยมีความผิดเพียงเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
จำเลยสนับสนุนตัวการให้ปล้นทรัพย์ ตัวการได้กระทำการเพียงพยายามปล้นจำเลยจึงต้องรับโทษสองในสามของความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จ้างวานฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ได้จ้างจำเลยที่ 2 ให้ยิงผู้ตาย และจำเลยที่ 2 ได้ยิงผู้ตายตายดังที่ตนได้รับจ้างมา และข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 23 เมษายน 2507 จำเลยมาดื่มเบียร์ที่ร้านผู้ตาย จำเลยที่ 1 ยังได้พูดเปรยๆ ว่า ผู้ตายตายเสียคนหนึ่งร้านนี้ก็น่าดู ถ้าผู้ตายมาจะยิงเสีย 3 นัด ดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าผู้อื่นโดยจ้างวานและไตร่ตรองไว้ก่อน ศาลฎีกาพิพากษากลับตามศาลชั้นต้น
พฤติการณ์ที่แสดงว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 971/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฉ้อโกงของผู้เสียหาย และสิทธิในการดำเนินคดีอาญาแผ่นดินต่อจำเลย
บุตรผู้เสียหายต้องหาว่าลักทรัพย์บุคคลอื่น จำเลยซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านรับจะช่วยเหลือให้หลุดพ้นแต่ต้องให้เงินแก่จำเลยเพื่อเอาไปให้พนักงานสอบสวน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงให้เงินแก่จำเลย โดยประสงค์ที่จะให้บุตรของตนไม่ต้องรับโทษนั้น เข้าลักษณะเป็นการที่ผู้เสียหายใช้ให้จำเลยไปกระทำผิด จึงมิใช่ผู้เสียหายที่จะมีสิทธิร้องทุกข์ ให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวในความผิดฐานฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวได้
แต่พนักงานอัยการย่อมมีสิทธิดำเนินคดีขอให้ลงโทษจำเลยฐานเรียกเอาเงินเพื่อจะเอาไปจูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของจำเลยเพื่อไม่ให้กระทำการอันเป็นโทษแก่บุตรผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 อันเป็นความผิดต่ออาญาแผ่นดิน
of 17