พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,595 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดลักทรัพย์/พยายามลักทรัพย์ ถือเป็นเหตุร้ายตาม พ.ร.บ.กักกันผู้กระทำผิด
ความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จหรือพยายาม ก็ถือว่าลงมือกระทำความผิดแล้ว เป็นเหตุร้ายตามพระราชบัญญัติกักกัน ผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายดุจกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดลักทรัพย์/พยายามลักทรัพย์ ถือเป็นเหตุร้ายตาม พ.ร.บ.กักกันผู้ร้าย
ความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จหรือพยายาม ก็ถือว่าลงมือกระทำความผิดแล้ว เป็นเหตุร้ายตามพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายดุจกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาจากความขัดแย้งในครอบครัว ศาลลดโทษจากพฤติการณ์และคำรับสารภาพ
ภรรยาประพฤติตัวไม่ดี ชอบเล่นการพนัน และไปค้างตามโรงแรม สามีว่ากล่าวตักเตือน ก็ไม่เชื่อฟัง กลับทุบตีวิวาทกับสามีสามีจึงใช้มีดฟันภรรยามีบาดแผล 11 แห่ง ภรรยาถึงแก่ความตายและจำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนมีประโยชน์แก่การพิจารณา ดังนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยสมควรได้รับความปรานี ลดโทษตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่ง
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟันพฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟันพฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายภรรยาถึงแก่ความตาย ศาลลดโทษจากพฤติการณ์ภรรยาและคำรับสารภาพ
ภรรยาประพฤติตัวไม่ดี ชอบเล่นการพะนัน และไปค้างตามโรงแรม,สามีว่ากล่าวตักเตือน ก็ไม่เชื่อฟัง กลับทุบตีวิ วาทกับสามี ๆ จึงใช้มีดฟันภรรยามีบาดแผล 11 แห่ง ภรรยาถึงแต่ความตายและจำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนมีประ โยชน์แก่การพิจารณา ดังนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยสมควรได้รับความปราณี ลดโทษตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่ง.
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟัน พฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทษะไม่
ได้./
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟัน พฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทษะไม่
ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 836/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนเป็นอันตรายสาหัส: บาดแผลลึกต้องรักษาต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อการทำงาน
ใช้มีดหรือขวานไม่ปรากฎชัดฟันเขาถูกที่หน้าผากเป็นบาดแผลกว้าง 2 ซ.ม. ยาว 7 ซ.ม. ลึก 1 ซ.ม. แพทย์ลงความ เห็นว่าอาการสาหัสรักษาเกินกว่า 20 วัน ผู้เสียหายเบิกความว่า ต้องรักษาอยู่ประมาณ 60 วันจึงหาย ระหว่างรักษา ทำงานการไม่ได้เพราะเสียวเดี๋ยวนี้งานเบาทำได้ งานหนักทำไม่ได้ แม้แพทย์ผู้รักษาจะเบิกความว่า บาดแผลผู้ เสียหายรักษา 10 วัน หายก็ดี แต่ก็ว่าบาดแผลข้างในยังไม่หาย ต้องทำการรักษากันอยู่ตลอดมา เพราะเกี่ยวกับเส้น ประสทอีกด้วย ดังนี้ วินิจฉัยว่า เป็นบาดแผลถึงสาหัสตามกฎหมาย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 836/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนเป็นบาดเจ็บสาหัส และการพิจารณาความรุนแรงของบาดแผล
ใช้มีดหรือขวานไม่ปรากฏชัดฟันเขาถูกที่หน้าผากเป็นบาดแผลกว้าง 2 ซ.ม. ยาว 7 ซ.ม. ลึก 1 ซ.ม. แพทย์ลงความเห็นว่าอาการสาหัสรักษาเกินกว่า 20 วัน ผู้เสียหายเบิกความว่า ต้องรักษาอยู่ประมาณ 60 วันจึงหายระหว่างรักษาทำงานการไม่ได้เพราะเสียวเดี๋ยวนี้งานเบาทำได้ งานหนักทำไม่ได้ แม้แพทย์ผู้รักษาจะเบิกความว่าบาดแผลผู้เสียหายรักษา 10 วันหายก็ดี แต่ก็ว่าบาดแผลข้างในยังไม่หาย ต้องทำการรักษากันอยู่ตลอดมา เพราะเกี่ยวกับเส้นประสาทอีกด้วย ดังนี้ วินิจฉัยว่า เป็นบาดแผลถึงสาหัสตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'อาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม' เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้น-อุทธรณ์วินิจฉัยต่างกัน ฎีกาต้องห้าม
พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 ไม่ได้ให้บทวิเคราะห์ศัพท์คำว่า 'อาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม' ไว้ ฉะนั้นอาวุธปืนใดเป็นอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามหรือไม่ จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีอาวุธปืนธรรมดาไว้ในครอบครองผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7,72 ปรับ 225 บาท ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าปืนของกลางเป็นอาวุธปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 55,78 ให้จำคุก 1 เดือนปรับ 1,000 บาทเพิ่มโทษและลดแล้ว คงจำคุก 22 วัน ปรับ 666 บาท 66สตางค์ โทษจำคุกให้ยกเสีย ดังนี้จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีอาวุธปืนธรรมดาไว้ในครอบครองผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7,72 ปรับ 225 บาท ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าปืนของกลางเป็นอาวุธปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามมาตรา 55,78 ให้จำคุก 1 เดือนปรับ 1,000 บาทเพิ่มโทษและลดแล้ว คงจำคุก 22 วัน ปรับ 666 บาท 66สตางค์ โทษจำคุกให้ยกเสีย ดังนี้จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความ 'อาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม' เป็นข้อเท็จจริง ห้ามฎีกา
พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 ไม่ได้ให้บทวิเคราะห์ศัพท์คำว่า "อาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม" ไว้ ฉะนั้นอาวุธปืนใดเป็นอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามหรือไม่ จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีอาวุธปืนธรรมดาไว้ในครอบครองผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ มาตรา 7, 72 ปรับ 225 บาท ฯลฯล
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าปืนของกลางเป็นอาวุธปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 55, 78 ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 1000 บาท เพิ่มโทษและลดแล้ว คงจำคุก 22 วัน ปรับ 666 บาท 66 สตางค์ โทษจำ คุกให้ยกเสีย ดังนี้ จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 220./
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีอาวุธปืนธรรมดาไว้ในครอบครองผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯลฯ มาตรา 7, 72 ปรับ 225 บาท ฯลฯล
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าปืนของกลางเป็นอาวุธปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 55, 78 ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 1000 บาท เพิ่มโทษและลดแล้ว คงจำคุก 22 วัน ปรับ 666 บาท 66 สตางค์ โทษจำ คุกให้ยกเสีย ดังนี้ จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 220./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสัญญาเช่า การตีความสัญญาประนีประนอมยอมความ และการใช้สิทธิเช่าเพื่อประกอบการค้า
ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่าแล้วคู่ความทำสัญญายอมความกันว่า ผู้เช่ายอมออกจากห้องเช่านั้นไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวผู้ให้เช่าจะจัดสร้างห้องรายนี้ใหม่โดยผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้1 ห้องและเมื่อชำระเสร็จแล้ว ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่าเช่าอยู่ต่อไปอีก 1 ห้อง เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปีนั้นจะให้หมายความเพียงว่าเช่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยเท่านั้นหาได้ไม่อาจเป็นการเช่าอยู่เพื่อประกอบการค้าหรือธุรกิจอะไรอย่างใดก็ได้ เมื่อตามข้อสัญญาไม่ได้กล่าวให้ชัดก็จำต้องพิจารณาถึงเจตนาของคู่กรณีในเรื่องนี้ต่อไป
เดิมห้องเช่าพิพาทเป็นร้านจำหน่ายน้ำมันที่หน้าร้านมีปั๊มน้ำมันตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงและห้องติดต่อกันเป็นร้านค้าขายแสดงว่าห้องเช่าพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ประกอบกับผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้ผู้ให้เช่าเป็นจำนวนมากย่อมบ่งชี้ให้เห็นว่าที่ยอมให้ผู้เช่า เช่าอยู่ต่อไปอีกนั้น เป็นการให้เช่าอยู่เพื่อทำการค้าน้ำมันตามเดิมนั้นเอง
เดิมห้องเช่าพิพาทเป็นร้านจำหน่ายน้ำมันที่หน้าร้านมีปั๊มน้ำมันตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงและห้องติดต่อกันเป็นร้านค้าขายแสดงว่าห้องเช่าพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ประกอบกับผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้ผู้ให้เช่าเป็นจำนวนมากย่อมบ่งชี้ให้เห็นว่าที่ยอมให้ผู้เช่า เช่าอยู่ต่อไปอีกนั้น เป็นการให้เช่าอยู่เพื่อทำการค้าน้ำมันตามเดิมนั้นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการเช่าเพื่อค้าขาย: ตีความสัญญาตามเจตนาคู่กรณีและพฤติการณ์แวดล้อม
ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่า แล้วคู่ความทำสัญญายอมควมกันว่า ผู้เช่ายอมออกจากห้องเช่านั้นไปอยู่ ที่อื่นชั่วคราว ผู้ให้เช่าจะจัดสร้างห้องรายนี้ใหม่ โดยผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้ 1 ห้องและเมื่อชำระเสร็จแล้ว ผู้ให้เช่าย่อมให้ผู้เช่าเช่าอยู่ต่อไปอีก 1 ห้อง เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปีนั้น จะให้หมายความเพียงว่าเช่าเพื่อใช้เป็น ที่อยู่อาศัยเท่านั้นหาได้ไม่อาจเป็นการเช่าอยู่เพื่อประกอบการค้าหรือธุรกิจอะไรอย่างใด ก็ได้ เมื่อตามข้อสัญญาไม่ ได้กล่าวให้ชัด ก็จำต้องพิจารณาถึงเจตนาของคู่กรณีในเรื่องนี้ต่อไป.
เดิมห้องเช่าพิพาทเป็นร้านจำหน่ายน้ำมันที่หน้าร้านมี ปั๊มน้ำมันตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงและห้องติดต่อกันเป็นร้าน ค้าขาย แสดงว่าห้องเช่าพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ประกอบกับผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้ผู้ให้เช่าเป็นจำนวน มาก ย่อมบ่งชี้ให้เห็นว่าที่ยอมให้ผู้เช่า เช่าอยู่ต่อไปอีกนั้น เป็นการให้เช่าอยู่เพื่อทำการค้าน้ำมันตามเดิมนั้นเอง./
เดิมห้องเช่าพิพาทเป็นร้านจำหน่ายน้ำมันที่หน้าร้านมี ปั๊มน้ำมันตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงและห้องติดต่อกันเป็นร้าน ค้าขาย แสดงว่าห้องเช่าพิพาทอยู่ในทำเลการค้า ประกอบกับผู้เช่ายอมออกเงินค่าก่อสร้างให้ผู้ให้เช่าเป็นจำนวน มาก ย่อมบ่งชี้ให้เห็นว่าที่ยอมให้ผู้เช่า เช่าอยู่ต่อไปอีกนั้น เป็นการให้เช่าอยู่เพื่อทำการค้าน้ำมันตามเดิมนั้นเอง./