คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยทัณฑ์ชนาณัติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,595 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาจำเลยในคดีอาญา: การไต่สวนมูลฟ้องใหม่เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องกันเอง ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายก คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องต่อไปแล้ว มีคำสั่งหรือพิพากษาใหม่นั้น จำเลยยังไม่ มีสิทธิฎีกา เพราะเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษอาญาโดยศาลอุทธรณ์และการฎีกาของโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปีตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 142-268,270 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ผิดแต่เพียงมาตรา 268-270 เท่านั้นไม่ผิดมาตรา 142ด้วยและแก้โทษมาเป็นจำคุก 1 ปี และให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้มาก ฎีกาข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาแก้โทษอาญา: การลดโทษจากจำคุกเป็นรอการลงอาญา และการเปลี่ยนแปลงบทมาตราที่ถูกลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปีตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 142 - 268, 270 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ว่า ผิดแต่เพียงมาตรา 268 - 270 เท่านั้น ไม่ผิดมาตรา 142 ด้วย และแก้โทษมาเป็นจำคุก 1 ปี และให้รอการลง
อาญาไว้ ดังนี้ ถือว่าเป็นการแก้มาก ฎีกาข้อเท็จจริงได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายไม่ถึงขั้นทุพพลภาพหรือวิกลจริต ความผิดตามมาตรา 338(3) เท่านั้น
เตะเขาล้มลงสิ้นสติไปชั่วครู่นั้น ยังไม่ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ หรือวิกลจริตดังที่บัญญัติไว้ใน กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 จึงมีผิดฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บตามมาตรา338(3) เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายไม่ถึงขั้นทุพพลภาพหรือวิกลจริต: ความรับผิดตามมาตรา 338 เท่านั้น
เตะเขาล้มลงสิ้นสติไปชั่วครู่นั้น ยังไม่ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ หรือวิกลจริตดังที่บัญญัติไว้ใน ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254 จึงมีผิดฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บตามมาตรา 338(3) เท่านั้น.
(ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งแยกโฉนดและสิทธิทางเดิน ต้องทำเป็นหนังสือจึงมีผลผูกพันบังคับได้
เจ้าของร่วมตกลงแบ่งแยกโฉนดกัน ตกลงกำหนดลงไปว่าใครได้ตรงไหนแน่ เช่นนี้ ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาท อันจะมีขึ้นให้เสร็จไป จึงเข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 850.
ข้อตกลงที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งยอมให้ เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งผ่านที่ ที่คนได้รับในการแบ่งแยกนั้น ก็ย่อมเป็นส่วน หนึ่งของการตกลงแบ่งแยกโฉนดดังกล่าว เมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ ก็ย่อมจำนำมาฟ้องร้องให้บังคับหาได้ไม่./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งแยกโฉนดและการระงับข้อพิพาท: สัญญาประนีประนอมยอมความต้องทำเป็นหนังสือ
เจ้าของร่วมตกลงแบ่งแยกโฉนดกัน ตกลงกำหนดลงไปว่าใครได้ตรงไหนแน่ เช่นนี้ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นให้เสร็จไปจึงเข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา850
ข้อตกลงที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งยอมให้ เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งผ่านที่ ที่ตนได้รับในการแบ่งแยกนั้น ก็ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของการตกลงแบ่งแยกโฉนดดังกล่าวเมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ ก็ย่อมจะนำมาฟ้องร้องให้บังคับหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรังวัดที่ดินโดยกำนันนอกกระบวนการตามกฎหมาย และการเรียกเก็บค่าบริการ ไม่เป็นความผิดตามก.ม.ลักษณะอาญา
กฎกระทรวงเกษตราธิการออกตามความใน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 6) พ.ศ. 2479 วางระเบียบในเรื่องการขอจับจองที่ดินไว้ว่า ให้ผู้ขอจับจองยื่นเรื่องราวขอจับจองตามแบบฟอร์ม เมื่อกรมการอำเภอได้รับคำขอแล้วให้นายอำเภอ หรือผู้แทนจะเป็นกำนันหรือเจ้าหน้าที่อื่นก็ได้ ไปทำการชัณสูตร
ยังที่ดินพร้อมด้วยผู้ขอฉะนั้นถ้าราษฎรผู้ขอจับจองได้ตรงไปให้กำนันรังวัดที่ดินและออกหนังสือรับรองเสียก่อน แล้ว จึงมายื่นคำขอจับจองต่ออำเภอในภายหลัง ทั้งหนังสือรับรองของกำนันก็มิได้เขียนลงในแบบฟอร์มตามกฎกระทรวง เช่นนี้ ต้องถือว่ากำนันทำขึ้นเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ทำตามหน้าที่ ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมาย ฉะนั้นแม้กำนันจะ
เรียกร้องเอาเงินจากราษฎรผู้ขอ เป็นค่าช่วยการของตนคิดตามราคาเนื้อที่ดินรังวัดก็ดี กำนันนั้นก็ยังไม่มีผิด ตาม
ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 137./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำนันรังวัดที่ดินนอกหน้าที่โดยไม่ได้รับมอบหมาย ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมาย ไม่ผิดตามมาตรา 137
กฎกระทรวงเกษตราธิการออกตามความใน พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 วางระเบียบในเรื่องการขอจับจองที่ดินไว้ว่าให้ผู้ขอจับจองยื่นเรื่องราวขอจับจองตามแบบฟอร์มเมื่อกรมการอำเภอได้รับคำขอแล้วให้นายอำเภอหรือผู้แทนจะเป็นกำนันหรือเจ้าหน้าที่อื่นก็ได้ ไปทำการชันสูตรยังที่ดินพร้อมด้วยผู้ขอฉะนั้นถ้าราษฎรผู้ขอจับจองได้ตรงไปให้กำนันรังวัดที่ดินและออกหนังสือรับรองเสียก่อนแล้วจึงมายื่นคำขอจับจองต่ออำเภอในภายหลังทั้งหนังสือรับรองของกำนันก็มิได้เขียนลงในแบบฟอร์มตามกฎกระทรวงเช่นนี้ ต้องถือว่ากำนันทำขึ้นเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ทำตามหน้าที่ ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมายฉะนั้นแม้กำนันจะเรียกร้องเอาเงินจากราษฎรผู้ขอ เป็นค่าป่วยการของตนคิดตามราคาเนื้อที่ดินรังวัดก็ดีกำนันนั้นก็ยังไม่มีผิด ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 137

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงระงับข้อพิพาท (สัญญาประนีประนอมยอมความ) กรณีเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินของคนไทยมีกำหนด 5 ปี เช่าแล้วได้ปลูกอาคารโรงเรือนขึ้นบนที่เช่า ต่อมาผู้เช่าตกเป็น
บุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบ คุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส. จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500
บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไป สิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส. แต่ขอร้องให้ ก.ท.ส. ให้โอกาศรับซื้อก่อนคนอื่น
เมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตาม ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา 850 แล้ว ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ./
of 260