พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,595 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปกปิดข้อมูลอาชีพและประวัติการประกัน ถือเป็นเหตุบอกล้างสัญญาประกันชีวิตได้
การปกปิดข้อความจริงในเรื่องอาชีพของผู้เอาประกันชีวิต ในเรื่องการชำระเบี้ยประกันของผู้เอาประกัน หรือแม้ในเรื่องที่ผู้เอาประกันชีวิตได้เอาประกันชีวิตไว้ก่อนแล้ว ถือว่าเป็นการปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งถ้าบริษัทรับประกันชีวิตทราบความจริงแล้วย่อมจะบอกปัดไม่รับประกัน สัญญาประกันชีวิตเช่นว่านี้เป็นโมฆียะ
การบอกล้างโมฆียะกรรมดังกล่าว กฎหมายไม่ได้บังคับว่าให้บอกล้างกับผู้เอาประกันโดยตรง เมื่อบริษัทผู้รับประกันทราบถึงมูลอันจะบอกล้างได้ ก็ย่อมบอกล้างแก่ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชนในการประกันจากบริษัทผู้รับประกันได้.
การบอกล้างโมฆียะกรรมดังกล่าว กฎหมายไม่ได้บังคับว่าให้บอกล้างกับผู้เอาประกันโดยตรง เมื่อบริษัทผู้รับประกันทราบถึงมูลอันจะบอกล้างได้ ก็ย่อมบอกล้างแก่ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชนในการประกันจากบริษัทผู้รับประกันได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปกปิดข้อมูลอาชีพและประวัติการประกันภัยถือเป็นสาระสำคัญ ทำให้สัญญาประกันเป็นโมฆียะ
การปกปิดข้อความจริงในเรื่องอาชีพของผู้เอาประกันชีวิตในเรื่องการชำระเบี้ยประกันของผู้เอาประกัน หรือแม้ในเรื่องที่ผู้เอาประกันชีวิตได้เอาประกันชีวิตไว้ก่อนแล้ว ถือว่าเป็นการปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งถ้าบริษัทรับประกันชีวิตทราบความจริงแล้วย่อมจะบอกปัดไม่รับประกัน สัญญาประกันชีวิตเช่นว่านี้เป็นโมฆียะ
การบอกล้างโมฆียะกรรมดังกล่าว กฎหมายไม่ได้บังคับว่าให้บอกล้างกับผู้เอาประกันโดยตรง เมื่อบริษัทผู้รับประกันทราบถึงมูลอันจะบอกล้างได้ ก็ย่อมบอกล้างแก่ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชน์ในการประกันจากบริษัทผู้รับประกันได้
การบอกล้างโมฆียะกรรมดังกล่าว กฎหมายไม่ได้บังคับว่าให้บอกล้างกับผู้เอาประกันโดยตรง เมื่อบริษัทผู้รับประกันทราบถึงมูลอันจะบอกล้างได้ ก็ย่อมบอกล้างแก่ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชน์ในการประกันจากบริษัทผู้รับประกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะ 'บริวาร' ผู้เช่า ไม่มีสิทธิคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า เมื่อไม่มีนิติสัมพันธ์โดยตรงกับเจ้าของที่ดิน
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันคุ้มครองแต่ผู้เช่าเท่านั้น เมื่อฟังว่าผู้ร้องเป็นแต่บริวารของจำเลยซึ่งยินยอมว่าจะออกไปจากที่ของโจทก์ ผู้ร้องก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บริวารผู้เช่าไม่ได้รับความคุ้มครองจากพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าเมื่อไม่มีนิติสัมพันธ์กับเจ้าของที่ดินโดยตรง
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันคุ้มครองแต่ผู้เช่าเท่านั้น เมื่อฟังว่าผู้ร้องเป็นแต่บริวารของจำเลยซึ่งยินยอมว่าจะออกไปจากที่ของโจทก์ ผู้ร้องก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความคลาดเคลื่อนสถานที่เกิดเหตุกับการลงโทษทางอาญา ศาลฎีกาพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ได้ความจริง
ฟ้องโจทก์ว่าเหตุเกิดที่ตำบลบ้านบาตร อำเภอป้อมปราบ แต่ความจริงเหตุเกิดที่ตำบลป้อมปราบ อำเภอป้อมปราบ แต่ในการนำสืบก็รับกันอยู่แล้วว่าจำเลยถูกจับในบ้านที่เกิดเหตุนั้นจริง และอยู่ในอำเภอป้อมปราบนั้นเอง ข้อแตกต่างนั้นจึงมิใช่ในข้อสาระสำคัญ และทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างของตำบลที่เกิดเหตุในคำฟ้อง ไม่เป็นเหตุให้ศาลยกฟ้อง หากจำเลยไม่หลงต่อสู้
ฟ้องโจทก์ว่าเหตุเกิดที่ตำบลบ้านบาตรอำเภอป้อมปราบ แต่ความจริงเหตุเกิดที่ตำบลป้อมปราบอำเภอป้อมปราบ แต่ในการนำสืบก็รับกันอยู่แล้วว่าจำเลยถูกจับในบ้านที่เกิดเหตุนั้นจริง และอยู่ในอำเภอป้อมปราบนั้นเอง ข้อแตกต่างนั้นจึงมิใช่ในข้อสาระสำคัญและทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่สมบูรณ์: รายการต่อท้ายพินัยกรรมที่ลงชื่อต่อเนื่องกัน ถือเป็นส่วนหนึ่งของพินัยกรรม
รายการต่อท้ายตัวพินัยกรรมซึ่งผู้ทำพินัยกรรมและพยานลงชื่อไว้ และรายการต่อท้ายนั้นเขียนต่อท้ายไว้หลังลายมือชื่อที่ผู้ทำพินัยกรรมและพยานเซ็นไว้ และไม่มีชื่อผู้ทำพินัยกรรมและพยานเซ็นกำกับรายการอีกทีหนึ่ง ก็นับว่าใช้ได้เพราะมันติดต่อเนื่องกับตัวพินัยกรรมแท้ สืบเนื่องเป็นฉบับเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมต่อท้าย: รายการต่อเนื่องใช้ได้ แม้ไม่มีลายมือชื่อกำกับ
รายการต่อท้ายตัวพินัยกรรมซึ่งผู้ทำพินัยกรรมและพยานลงชื่อไว้ และรายการต่อท้ายนั้นเขียนต่อท้ายไว้หลังลายมือชื่อที่ผู้ทำพินัยกรรมและพยานที่เซ็นไว้ และไม่มีชื่อผู้ทำพินัยกรรมและพยายเซ็นกำกับรายการอีกทีหนึ่งก็นับว่าใช้ได้เพราะมันติดต่อเนื่องกับตัวพินัยกรรมแท้ สืบเนื่องเป็นฉบับเดียวกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1544/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำสัญญาค้ำประกันยังไม่สมบูรณ์ สัญญาค้ำประกันจึงไม่เกิดขึ้น
จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อให้มั่นคงยิ่งขึ้นโจทก์ให้จำเลยที่ 3 ค้ำประกันหนี้รายนี้ด้วย โดยโจทก์จำเลยที่ 3 มุ่งเอาสัญญาขายฝากบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 เป็นสัญญาค้ำประกันหนี้รายนี้ จำเลยที่ 3 จึงทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จะไปทำสัญญาขายฝากอีกทีหนึ่ง และได้มอบหนังสือมอบอำนาจนี้กับเอกสารสำหรับบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 ที่จะขายฝากไว้กับโจทก์ เพียงเท่านี้หาใช่สัญญาค้ำประกันที่จะบังคับจำเลยที่ 3 ตามที่โจทก์ฎีกาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1544/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำสัญญาค้ำประกันยังไม่สมบูรณ์ การมอบอำนาจและเอกสารยังไม่ถือเป็นสัญญาค้ำประกัน
จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อให้มั่นคงยิ่งขึ้นโจทก์ให้จำเลยที่ 3 ค้ำประกันหนี้รายนี้ด้วย โดยโจทก์จำเลยที่ 3 มุ่งเอาสัญญาขายฝากบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 เป็นสัญญาค้ำประกันหนี้รายนี้ จำเลยที่ 3 จึงทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จะไปทำสัญญาขายฝากอีกทีหนึ่ง และได้มอบหนังสือมอบอำนาจนี้กับเอกสารสำหรับบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 ที่จะขายฝากไว้กับโจทก์ เพียงเท่านี้หาใช่สัญญาค้ำประกันที่จะบังคับจำเลยที่ 3 ตามที่โจทก์ฎีกาได้ไม่