คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยทัณฑ์ชนาณัติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,595 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1292/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กฎหมายอาญาที่แตกต่างกันตามช่วงเวลา และหลักการใช้กฎหมายที่เอื้อประโยชน์แก่จำเลย
การใช้กฎหมายส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 3 นั้น ต้องพิจารณาทั้งโทษสูงและโทษต่ำ เช่น ถ้าจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ถ้าจะลงโทษจำคุกเกิน 7 ปี ซึ่งจะลงได้ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.297 เช่นนี้ ต้องใช้ ม.256 เพราะลงโทษจำคุกได้ ไม่เกิน 7 ปี แต่ถ้าจะลงโทษต่ำกว่า 2 ปี ลงมา (ถึง 6 เดือน) ต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญา ม.297 เพราะบัญญัติให้ทำได้
แต่ถ้าการวางโทษอยู่ในระดับที่ใช้กฎหมายลักษณะอาญาก็ได้ หรือใช้ประมวลกฎหมายอาญาก็ได้ เช่นนี้ควรใช้กฎหมายลักษณะอาญา อันเป็นกฎหมายในขณะทำผิด
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2500 )

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1290/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเฉพาะตัวจำเลย ไม่กระทบความรับผิดของจำเลยอื่น
ในคดีความผิดต่อส่วนตัวจำเลยทำสัญญายอมจะใช้เงินแก่ผู้เสียหาย แล้วก็ไม่ชำระตามกำหนดนัด ผู้เสียหายย่อมร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีอาญาต่อไปได้
จำเลยบางคนทำสัญญายอมจะใช้เงินทั้งหมดแก่ผู้เสียหายคดีจะระงับหรือไม่ ก็เกี่ยวกับจำเลยเช่นว่านั้นโดยเฉพาะตัวเท่านั้นไม่พลอยไปถึงจำเลยอื่นๆ แม้อยู่ในคดีเดียวกันนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1290/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความกับการดำเนินคดีอาญา ความรับผิดชอบของจำเลยแต่ละคน
ในคดีความผิดต่อส่วนตัวจำเลยทำสัญญายอมจะใช้เงินแก่ผู้เสียหาย แล้วก็ไม่ชำระตามกำหนดนัด ผู้เสียหายย่อมร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีอาญาต่อไปได้
จำเลยบางคนทำสัญญายอมจะใช้เงินทั้งหมดแก่ผู้เสียหาย คดีจะระงับหรือไม่ ก็เกี่ยวกับจำเลย เช่นว่านั้นโดยเฉพาะตัวเท่านั้น ไม่พลอยไปถึงจำเลยอื่น ๆ แม้อยู่ในคดีเดียวกันนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฟ้องแย้ง: ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม หากไม่เกี่ยวเนื่องต้องฟ้องเป็นคดีต่างหาก
ฟ้องแย้งจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำฟ้องเดิม หากไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมแล้วก็จะต้องฟ้องเป็นคดีต่างหาก
คำขอในท้ายคำให้การฟ้องแย้งบางข้อเป็นแต่ขอให้ยกฟ้องซึ่งเป็นเรื่องให้การแก้คดี ไม่ได้ฟ้องแย้งเอาอะไรจากโจทก์ บางข้อก็เป็นเรื่องขอบังคับเอาแก่คนภายนอก (ที่จำเลยขอให้เรียกเข้ามาเป็นคู่ความ) โดยเฉพาะไม่ได้ขอบังคับแก่โจทก์อย่างใด จึงชอบที่จำเลยจะไปฟ้องเป็นคดีต่างหากศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง คงรับแต่เป็นคำให้การแก้คดีเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฟ้องแย้ง: ต้องเกี่ยวข้องกับประเด็นในคำฟ้องเดิม หากไม่เกี่ยวถือเป็นคดีต่างหาก
ฟ้องแย้งจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำฟ้องเดิม หากไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมแล้วก็จะต้องฟ้องเป็นคดีต่างหาก
คำขอในท้ายคำให้การฟ้องแย้งบางข้อเป็นแต่ขอให้ยกฟ้องซึ่งเป็นเรื่องให้การแก้คดี ไม่ได้ฟ้องแย้งเอาอะไรจากโจทก์บางข้อก็เป็นเรื่องขอบังคับเอาแก่คนภายนอก (ที่จำเลยขอให้เรียกเข้ามาเป็นคู่ความ) โดยเฉพาะไม่ได้ขอบังคับแก่โจทก์อย่างใดจึงชอบที่จำเลยจะไปฟ้องเป็นคดีต่างหาก ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง คงรับแต่เป็นคำให้การแก้คดีเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษตามความผิดอื่นเมื่อไม่พบผิดตามฟ้องเดิม แต่ยังอยู่ในหมวดความผิดเดียวกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 276 ซึ่งอยู่ในหมวดฐานกระทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพ เมื่อฟังว่าจำเลยไม่มีผิดตาม มาตรา 276 หากแต่ผิด ตาม มาตรา 270 อันเป็นความผิดอยู่ในหมวดเดียวกัน เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพอยู่ในตัว ศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยตาม มาตรา 270 ซึ่งมีโทษเบากว่าได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษตามความผิดที่เบากว่าในหมวดเดียวกัน แม้โจทก์ฟ้องฐานความผิดหนักกว่า
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.276 ซึ่งอยู่ในหมวดฐานกระทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ เมื่อฟังว่าจำเลยไม่มีผิดตาม ม.276 หากแต่ผิดตาม ม.270 อันเป็นความผิดอยู่ในหมวดเดียวกัน เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพอยู่ในตัวศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยตาม ม.270 ซึ่งมีโทษเบากว่าได้ ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิด พ.ร.บ.สัญจรโรค: เงินค่าจ้างจากการค้าบริการทางเพศ ไม่ใช่ทรัพย์ที่ได้จากการกระทำผิด
การที่หญิงรับจ้างให้ชายกระทำชำเราสำส่อนนั้นยังไม่เป็นความผิด ความผิดเกิดขึ้นเพราะไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าพนักงานเสียก่อน เท่านั้น เงินค่าจ้างที่จำเลยได้รับมาจากการให้ชายทำชำเรา จึงไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำผิดตามความในกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 27(2) จะริบเงินนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำชำเราสำส่อนที่ไม่ผิดกฎหมาย และการริบเงินค่าจ้าง
การที่หญิงรับจ้างให้ชายกระทำชำเราสำส่อนนั้นยังไม่เป็นความผิด ความผิดเกิดขึ้นเพราะไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าพนักงานเสียก่อนเท่านั้น เงินค่าจ้างที่จำเลยได้รับมาจากการให้ชายทำชำเรา จึงไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำผิด ตามความในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 27(2) จะริบเงินนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1205/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบร่วมกันพยายามฆ่า: การกระทำต่อเนื่องและการติดตามหลังการทำร้าย
ผู้เสียหายถูกขว้าง จึงได้พูดขึ้นว่าถูกหมาลอบกัดจำเลยกับพวกเข้าทำร้ายผู้เสียหายโดยจำเลยเข้าไปชกและใช้มีดแทงผู้เสียหายผู้เสียหายหนี จำเลยก็ขับไล่ไปจนพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้ปืนยิงผู้เสียหายยิงแล้วจำเลยยังติดตามไปอีกดังนี้ถือว่าจำเลยสมคบเป็นตัวการในความผิดฐานพยายามฆ่าคน
of 260