พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,595 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความร้ายแรงของการประพฤติชั่วเพื่อการจ่ายบำนาญตกทอด กรณีวิวาททำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
ต่างฝ่ายต่างสมัครใจทำร้ายกัน ซึ่งปรากฏว่าฝ่ายนายทหารเรือถูกนายเงินกับพวกยิงมีบาดเจ็บหลายแห่งถึงแก่ความตายฝ่ายนายเงินกับพวกไม่มีบาดเจ็บอย่างไรเลยที่เกิดเหตุเป็นที่สาธารณะตามพฤติการณ์เช่นนี้ยังไม่ถือว่านายทหารเรือผู้นั้นประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามความในมาตรา 48 พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญฯ พ.ศ.2494 เพราะรูปเรื่องเหตุที่จะเกิดเนื่องจากการโต้เถียงท้าทายกันอันไม่ปรากฏว่าเป็นความผิดของฝ่ายนายทหารเรือ ทำให้เกิดบันดาลโทสะขึ้นโดยปัจจุบัน ไม่ทันยั้งคิด ซึ่งย่อมอาจจะมีได้แก่สามัญชนทั่วๆ ไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลาและการฟ้องขับไล่
การเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลาผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2500 อันเป็นระยะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่าของเดือนที่ล่วงแล้ว และยังฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 11 มีนาคม2500 ถือว่าได้บอกเลิกสัญญาครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา การฟ้องขับไล่ และระยะเวลาบอกเลิกสัญญา
การเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลา ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2500 อันเป็นระยะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่าของเดือนที่ล่วงแล้ว และยังฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2500 ถือว่า ได้บอกเลิกสัญญาครบถ้วนตาม ป.พ.พ. มาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน & การโอนกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วน – ศาลมีอำนาจพิพากษาได้หากไม่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโต้แย้ง
สัญญามีข้อความว่า ผู้ขาย (จำเลย) สัญญาว่าจะส่งมอบทรัพย์ที่ขายนี้ให้แก่ผู้ซื้อ (โจทก์) ซึ่งผู้ขายได้รับราคาทรัพย์ที่ขายไปครบถ้วนแล้ว ซึ่งหมายความว่า ขณะทำสัญญายังหาได้มอบทรัพย์ที่ขายกันไม่ เพราะต้องทำการโอนให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วยและตามฟ้องของโจทก์ก็ว่า การซื้อขายนี้ได้ทำสัญญากันว่า เมื่อโจทก์ (ผู้ซื้อ) ประสงค์จะให้จำเลย (ผู้ขาย) โอนกรรมสิทธิ์เมื่อใดจำเลย (ผู้ขาย) จะทำการโอนทันที จำเลยไม่ได้ปฏิเสธหรือกล่าวแก้อย่างใด ถือว่าจำเลยรับตามฟ้อง ดังนี้ สัญญาดังกล่าวจึงถือว่า เป็นสัญญาจะซื้อขาย
ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินที่จำเลยขายให้เป็นส่วนสัดแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน เฉพาะส่วนของจำเลยให้โจทก์ได้ เพราะผู้ที่มีกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยไม่ได้เข้ามาโต้แย้งอย่างใด
ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินที่จำเลยขายให้เป็นส่วนสัดแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน เฉพาะส่วนของจำเลยให้โจทก์ได้ เพราะผู้ที่มีกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยไม่ได้เข้ามาโต้แย้งอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายและผลของการเข้าครอบครองที่ดินเฉพาะส่วน ศาลมีอำนาจพิพากษาให้โอนกรรมสิทธิ์ได้
สัญญามีข้อความว่า ผู้ขาย (จำเลย) สัญญาว่าจะส่งมอบทรัพย์ที่ขายนี้ให้แก่ผู้ซื้อ(โจทก์)ซึ่งผู้ขายได้รับราคาทรัพย์ที่ขายไปครบถ้วนแล้วซึ่งหมายความว่า ขณะทำสัญญายังหาได้มอบทรัพย์ที่ขายกันไม่เพราะต้องทำการโอนให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วยและตามฟ้องของโจทก์ก็ว่าการซื้อขายนี้ได้ทำสัญญากันว่าเมื่อโจทก์(ผู้ซื้อ)ประสงค์จะให้จำเลย(ผู้ขาย)โอนกรรมสิทธิ์เมื่อใด จำเลย(ผู้ขาย)จะทำการโอนทันทีจำเลยไม่ได้ปฏิเสธหรือกล่าวแก้อย่างใดถือว่าจำเลยรับตามฟ้องดังนี้ สัญญาดังกล่าวจึงถือว่าเป็นสัญญาจะซื้อขาย
ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินที่จำเลยขายให้เป็นส่วนสัดแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยให้โจทก์ได้เพราะผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยไม่ได้เข้ามาโต้แย้งอย่างใด
ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินที่จำเลยขายให้เป็นส่วนสัดแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยให้โจทก์ได้เพราะผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยไม่ได้เข้ามาโต้แย้งอย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของมีค่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 620: สินค้าธรรมดาไม่ใช่ของมีค่าพิเศษ
สินค้าผ้าเป็นสิ่งของธรรมดาสามัญทั่ว ๆ ไป เมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นของมีค่าพิเศษอย่างไร จะถือว่าเป็นของมีค่าตามความหมายแห่ง ม. 620 ยังไม่ได้
ของมีค่าอย่างอื่น ๆตามที่ ป.พ.พ. มาตรา 620 บัญญัติไว้นั้น น่าจะหมายถึงสิ่งของมีค่าทำนองเดียวกับของตามที่ระบุไว้ในบทมาตรานี้
ของมีค่าอย่างอื่น ๆตามที่ ป.พ.พ. มาตรา 620 บัญญัติไว้นั้น น่าจะหมายถึงสิ่งของมีค่าทำนองเดียวกับของตามที่ระบุไว้ในบทมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งของมีค่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 620: สินค้าธรรมดาไม่ถือเป็นของมีค่า
สินค้าผ้าเป็นสิ่งของธรรมดาสามัญทั่วๆ ไปเมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นของมีค่าพิเศษอย่างไร จะถือว่าเป็นของมีค่าตามความหมายแห่ง มาตรา620 ยังไม่ได้
ของมีค่าอย่างอื่นๆ ตามที่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 620 บัญญัติไว้นั้น น่าจะหมายถึงสิ่งของมีค่าทำนองเดียวกับของตามที่ระบุไว้ในบทมาตรานี้
ของมีค่าอย่างอื่นๆ ตามที่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 620 บัญญัติไว้นั้น น่าจะหมายถึงสิ่งของมีค่าทำนองเดียวกับของตามที่ระบุไว้ในบทมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นหลังคืนที่ดินตามคำพิพากษาเดิม ศาลไม่ถือว่าฟ้องขัดแย้งกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทตีใช้หนี้ให้โจทก์แล้ว ต่อมาจำเลยได้กลับเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลย ขอให้รับชำระหนี้ที่บิดาจำเลยกู้มา และคืนที่พิพาทที่มอบไว้ให้ทำประโยชน์ ศาลตัดสินให้โจทก์คืนที่พิพาท โดยวินิจฉัยว่ายังเป็นของจำเลยอยู่โจทก์จึงเรียกค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นเพราะที่โจทก์ได้ทำการปลูกมะพร้าวและผลอาสินลงในที่พิพาทดังนี้ คำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวข้อเท็จจริงขัดกันอย่างไรศาลรับวินิจฉัยคำฟ้องของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าที่ดินเพิ่มขึ้นหลังคืนที่ดินตามคำพิพากษาเดิม ไม่ขัดแย้งต่อข้อเท็จจริงเดิม ศาลรับวินิจฉัยได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทตีใช้หนี้ให้โจทก์แล้ว ต่อมาจำเลยได้กลับเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลย ขอให้รับชำระหนี้ที่บิดาจำเลยกู้มา และคืนที่พิพาทที่มอบไว้ให้ทำประโยชน์ ศาลตัดสินให้โจทก์คืนที่พิพาท โดยวินิจฉัยว่ายังเป็นของจำเลยอยู่ โจทก์จึงเรียกค่าที่ดินเพิ่มขึ้นเพราะที่โจทก์ได้ทำการปลูกมะพร้าวและผลอาสินลงในที่พิพาท ดังนี้ คำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวข้อเท็จจริงขัดกันอย่างไร ศาลรับวินิจฉัยคำฟ้องของโจทก์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญา ยักยอกทรัพย์ หลังทำสัญญาประนีประนอมนอกศาล
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยในคดีความผิดต่อส่วนตัวฐานยักยอกจำเลยฎีการะหว่างฎีกาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องโดยอ้างว่าจำเลยทำสัญญายอมใช้เงินให้โจทก์นอกศาลแล้ว จำเลยไม่คัดค้านศาลฎีกาสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องได้และให้จำหน่ายคดี