คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยทัณฑ์ชนาณัติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,595 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สัญชาติหลังแสดงตนเป็นคนต่างด้าว: ไม่มีสิทธิร้องขอตามกฎหมาย
คนเข้าเมืองซึ่งยอมแสดงตนเป็นคนต่างด้าวและทำใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไปแล้ว ต่อมาภายหลังจะร้องขอให้ศาลพิสูจน์สัญชาติตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองอีกไม่ได้เพราะไม่มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองแต่อย่างใดถ้าหากประสงค์จะขอให้ศาลแสดงสัญชาติก็ชอบที่จะฟ้องผู้โต้แย้งสิทธิเป็นคดีมีข้อพิพาท(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การร่วมกันของจำเลยทั้งสอง ถือเป็นคำให้การของจำเลยทุกคน
จำเลยสองคนร่วมให้การในฉบับเดียวกันถือได้ว่าคำให้การทั้งหมดเป็นคำให้การของจำเลยทั้งสองร่วมกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมให้การถือเป็นคำให้การร่วมกันของผู้ค้ำประกัน และผลของการต่อสู้เรื่องหนี้
จำเลยสองคนร่วมให้การในฉบับเดียวกัน ถือได้ว่าคำให้การทั้งหมดเป็นคำให้การของจำเลยทั้งสองร่วมกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษโดยปราณี: เหตุความดีเดิมของผู้กระทำผิดเป็นเหตุที่ชอบด้วยกฎหมาย
เหตุปราณีที่ว่าจำเลยเป็นคนมีความประพฤติเรียบร้อยไม่เคยกระทำผิดมาแต่ก่อน. ก็เป็นเหตุทำนองเดียวกับ มาตรา 59บัญญัติว่า 'ผู้กระทำผิดเป็นผู้ที่มีความดีมาแต่ก่อน'นั่นเอง
การที่จะปราณีลดโทษแก่ผู้กระทำความผิดหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ดุลยพินิจลดโทษจากประวัติผู้ต้องหาและการพิจารณาเหตุปราณีตามกฎหมาย
เหตุปราณีที่ว่าจำเลยเป็นคนมีความประพฤติเรียบร้อยไม่เคยกระทำผิดมาก่อนก็เป็นเหตุทำนองเดียวกับ ม. 59 บัญญัติว่า "ผู้กระทำผิดเป็นผู้ที่มีความดีมาแต่ก่อน"นั่นเอง
การที่จะปราณีลดโทษแก่ผู้กระทำความผิดหรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611-612/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินของวัดและธรณีสงฆ์ห้ามโอนโดยมิชอบ โฉนดที่ได้มาจึงใช้ต่อสู้วัดไม่ได้
ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์นั้นผู้ใดจะยกเอาโฉนดมาต่อสู้ถือกรรมสิทธิมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611-612/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินวัดและธรณีสงฆ์ ห้ามโอนกรรมสิทธิ์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โฉนดที่ได้มาจากการแย่งชิงถือเป็นโมฆะ
ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์นั้นผู้ใดจะยกเอาโฉนดมาต่อสู้ถือกรรมสิทธิมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601-603/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดินป่าแสม: พระราชวินิจฉัยมิใช่การมอบกรรมสิทธิ์ ต้องมีการบุกเบิกเพื่อประโยชน์ใช้สอย
ราษฎรสองพวกแก่งแย่งกันเป็นเจ้าของที่ป่าแสม พวกหนึ่งได้ร้องถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสั่งให้กระทรวงเกษตราธิการจัดการไต่สวน กรรมการพิเศษที่กระทรวงเกษตราธิการตั้งออกไปทำการไต่สวนรายงานความเห็นว่า ควรแบ่งที่ป่าพื้นซึ่งวิวาทกันให้แก่ฝ่านที่ร้องถวายฎีกาตามแผนที่หมายสีเหลือง อีกพวกหนึ่งควรได้ตามแผนที่หมายสีเขียว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยให้เป็นไปตามความเห็นของกรรมการพิเศษนั้น ดังนี้พระบรมราชวินิจฉัยไม่ใช่พระราชทานกรรมสิทธิ เพราะขณะนั้นที่ดินยังเป็นป่าแสมทั้งตำบลเนื้อที่มากมาย มูลกรณีเดิมก็เป็นเรื่องจะแย่งกันหวงป่าไว้หาประโยชน์ทางตัดฟืน พระราชทานบรมราชวินิจฉัยให้แบ่งกันตามเส้นสีก็เพื่อจะระงับข้อพิพาทแบ่งแยกออกไปสองฝ่ายสองพวกมิให้ปะทะแก่งแย่งต่อกันและกัน แต่ที่จะได้สิทธิครอบครองหรือกรรมสิทธ์ต่อไปนั้นจะต้องไปทำการบุกเบิกป่าให้เป็นประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยที่ดินต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่ออยู่อาศัยกับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้มีการค้าประกอบด้วย
การเช่าที่จะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมเช่าหรือไม่นั้น ข้อสำคัญอยู่ที่เช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือไม่ เป็นหลัก
หากเช่าเป็นที่อยูอาศัยแล้ว จะใช้เป็นที่ประกอบการค้าด้วยหรือไม่ก็ตาม ก็ได้รับความคุ้มครองกลับกันหากว่าไม่ใช่เช่าเพื่ออยู่อาศัยหากแต่เช่าเพื่อการค้าดังนี้แม้จะอาศัยอยู่ด้วยก็ไม่ได้รับความคุ้มครอง
จำเลยและครอบครัวได้เข้าอยู่ในห้องเช่ามาช้านานถึง 10 ปีเศษและได้ใช้ห้องนี้เป็นที่อยู่อาศัยของจำเลยและครอบครัวตลอดมาพฤติการณ์ส่อแสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยเช่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยโดยแท้ แม้ต่อมาจำเลยจะได้จดทะเบียนพาณิชย์ทำการค้าในห้องพิพาทตลอดจนได้เสียภาษีป้ายและภาษีโรงค้า ก็เป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อพฤติการณ์ยังไม่พอฟังว่าการเช่าห้องรายนี้ได้เปลี่ยนสภาพหรือเจตนาเป็นเช่าเพื่อพิพาทของจำเลยก็ย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าเพื่ออยู่อาศัยกับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้มีค้าขายประกอบก็ยังคุ้มครอง
การเช่าที่จะได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าหรือไม่นั้นข้อสำคัญอยู่ที่เช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือไม่ เป็นหลัก
หากเช่าเป็นที่อยู่อาศัยแล้วจะใช้เป็นที่ประกอบการค้าด้วยหรือไม่ก็ตามก็ได้รับความคุ้มครองเช่นกันหากว่าไม่ใช่เช่าเพื่ออยู่อาศัยหากแต่เช่าเพื่อการค้าดังนี้แม้จะอาศัยอยู่ด้วยก็ไม่ได้รับความคุ้มครอง
จำเลยและครอบครัวได้เข้าอยู่ในห้องเช่ามาช้านานถึง10 ปีเศษจะได้ใช้ห้องนี้เป็นที่อยู่อาศัยของจำเลยและครอบครัวตลอดมาพฤติการณ์ส่อแสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยเช่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยโดยแท้แม้ต่อมาจำเลยจะได้จดทะเบียนพาณิชย์ทำการค้าในห้องพิพาทตลอดจนได้เสียภาษีป้ายและภาษีโรงค้าก็เป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเมื่อพฤติการณ์ยังไม่พอฟังว่าการเช่าห้องรายนี้ได้เปลี่ยนสภาพหรือเจตนาเป็นเช่าเพื่อธุระกิจการค้าแล้วการเช่าห้องพิพาทของจำเลยก็ย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ
of 260