คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยทัณฑ์ชนาณัติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,595 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหลบหนีระหว่างควบคุมตัว: การควบคุมตัวต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ผู้ใหญ่บ้านไปจับจำเลยในคดีที่หาว่าจำเลยเบิกความเท็จแล้วพาตัวไปอำเภอแต่ความปรากฏว่าระหว่างทางผู้ใหญ่บ้านให้จำเลยข้ามคลองไปก่อนและจำเลยว่าจะไปคอยข้างหน้าผู้ใหญ่บ้านอนุญาตดังนี้การที่จำเลยไปแล้วกลับหลบหลีกไม่ไปอำเภอเช่นนี้จะฟังว่าจำเลยหลบหนีในระหว่างคุมขังตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 163 ยังไม่ได้เพราะในระหว่างนั้นจำเลยไม่ได้อยู่ในความควบคุมหรือคุมขังของผู้ใหญ่บ้านได้ความดังนี้แล้วปัญหาอื่นเรื่องผู้ใหญ่บ้านจะมีอำนาจจับกุมและการจับกุมจะต้องมีหมายจับหรือไม่ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูปยังไม่ประกอบเป็นสิ่งก่อสร้าง: เจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมาย
ไม้ที่ตีทำนอง เป็นฝาแต่ตีผิดธรรมดา กล่าวคือตีตะปูหัวกระดานและท้ายกระดานข้างละ 1 ตัวไม้ที่ตีก็เหลื่อมยาวออกนอกเสาข้างละศอกเศษ บางด้านทำเป็นฝาซ้อน ฝาก็ตีไม่ชิดหรือซ้อนกัน(ทับเกล็ด) ตีห่างเป็นช่องเล็กบ้างใหญ่บ้างไม่เท่ากันทั้งเป็นไม้ที่ยังใหม่และยังไม่ไสกบเช่นนี้เป็นการกระทำขึ้นชั่วคราวไม่มีเจตนาจะประกอบเป็นสิ่งก่อสร้างจริงจังแต่อย่างใดหากแต่ทำพรางไว้เพื่อเลี่ยงกฎหมายจะฟังว่าเป็นไม้ที่ประกอบอยู่เป็นสิ่งก่อสร้างยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้แปรรูปเพื่อพรางการก่อสร้าง ไม่ถือเป็นสิ่งก่อสร้างตามกฎหมายป่าไม้
ไม้ที่ตีทำนองเป็นฝาแต่ตีผิดธรรมดา กล่าวคือตีตะปูหัวกระดานและท้ายกระดานข้างละ 1 ตัว ไม้ที่ตีก็เหลื่อมยาวออกนอกเสาข้างละศอกเศษ บางด้านทำเป็นฝาซ้อน ฝาก็ตีไม่ชิดหรือซ้อนกัน (ทับเกล็ด) ตีห่างเป็นช่องเล็ก บ้างใหญ่บ้างไม่เท่ากัน ทั้งเป็นไม้ที่ยังใหม่ และยังไม่ไสกบเช่นนี้เป็นการกระทำขึ้นชั่วคราวไม่มีเจตนาจะประกอบเป็นสิ่งก่อสร้างจริงจังแต่อย่างใด หากแต่ทำพรางไว้เลี่ยงกฎหมายจะฟังว่าไม้ที่ประกอบอยู่เป็นสิ่งก่อสร้างยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการรับของโจร: การพิสูจน์ความรู้ว่าเป็นของร้าย และการปิดบังแหล่งที่มา
เจตนาของผู้กระทำผิดฐานรับของโจรนั้นต้องดูตามพฤติการณ์ทั่วๆ ไปประกอบกัน
เดิมรถจักรยานสองล้อของกลางที่จับได้จากจำเลยมีเลขทะเบียนเมื่อค้นได้ไม่มีแต่หมายเลขใต้อานปรากฏว่าตรงกันกับใบทะเบียนของเจ้าทรัพย์ ข้อนี้ทำให้ข้อนำสืบของจำเลยที่ว่าซื้อมาจากผู้มีชื่อก่อนเกิดเหตุสองปีมาแล้วฟังไม่ได้ก็ตาม โจทก์มีหน้าที่นำสืบว่าจำเลยรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้ายแต่พยานโจทก์ว่าเมื่อไปค้นบ้านนั้นรถคันนี้อยู่ในที่เปิดเผย กรณีจึงอาจเป็นว่าจำเลยรับไว้โดยซื่อแต่จงใจปิดบังผู้โอนรถให้มาโดยเกรงว่าจะสูญเสียกรรมสิทธิ์ในรถนี้ก็ได้เมื่อพยานโจทก์และเหตุผล(พฤติการณ์)ในคดีล้วงไปไม่ถือว่าจำเลยได้รับรถมาโดยรู้ว่าเป็นของร้ายเช่นนี้ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาผู้รับของโจร: การพิสูจน์ความรู้ว่าเป็นของร้าย และพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้น
เจตนาของผู้กระทำผิดฐานรับของโจรนั้นต้องดูตามพฤติการณ์ทั่ว ๆ ไปประกอบกัน
เดิมรถจักรยานสองล้อของกลางที่จับได้จากจำเลยมีเลขทะเบียนเมื่อค้นได้ไม่มี แต่หมายเลขใต้อานปรากฎว่าตรงกันกับในทะเบียนของเจ้าทรัพย์ ข้อนี้ทำให้ข้อนำสืบของจำเลยที่ว่าซื้อมาจากผู้มีชื่อก่อนเกิดเหตุสองปีมาแล้วฟังไม่ได้ก็ตาม โจทก์มีหน้าที่นำสืบว่าจำเลยรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้ายแต่พะยานโจทก์ว่าเมื่อไปค้นบ้านนั้นรถคันนี้อยู่ในที่เปิดเผย กรณีจึงอาจเป็นว่าจำเลยรับไว้โดยชื่อแต่จงใจปิดบังผู้โอนรถให้หาโดยเกรงว่าจะศูนย์เสียกรรมสิทธิ์ในรถนี้ก็ได้ เมื่อพะยานโจทก์และเหตุผล(พฤติการณ์) ในคดีล้วงไปไม่ถึงว่าจำเลยได้รับรถมาโดยรุ้ว่าเป็นของร้ายเช่นนี้ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งห้ามประกอบการค้าระหว่างการดำเนินคดีอาญา: ต้องมีมูลความผิดอาญาเสียก่อน จึงจะออกคำสั่งห้ามได้
จำเลยประกอบการเลื่อยไม้อันเป็นการค้าประเภทต้องควบคุมตามประกาศใช้เทศบัญญัติฯโดยไม่ได้รับอนุญาตดังนี้ โจทก์จะฟ้องทางแพ่งขอให้ศาลสั่งห้าม โดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 68 โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยทำผิดรับโทษทางอาญาตามมาตรานี้อย่างใดดังนี้เท่ากับขอให้สั่งห้ามไปก่อนโดยลำพัง(โดยไม่ปรากฏความผิด) เช่นนี้เป็นคำขอที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งห้ามประกอบการค้าระหว่างการดำเนินคดีอาญา: ต้องมีมูลความผิดทางอาญาเสียก่อน
จำเลยประกอบการเลื่อยไม้อันเป็นการค้าประเภทต้องควบคุมตามประกาศใช้เทศบัญญัติ ฯโดยไม่ได้รับอนุญาตดังนี้ โจทก์จะฟ้องทางแพ่งขอให้ศาลสั่งห้ามโดยอาศัยอำนาจความในพ.ร.บ.สาธารณะสุข พ.ศ.2484 มาตรา 68 โดยไม่ปรากฎว่าจำเลยทำผิดรับโทษทางอาญาความมาตรานี้อย่างใดดังนี้เท่ากับขอให้สั่งห้ามไปก่อนโดยลำพัง (โดยไม่ปรากฎความผิด)เช่นนี้ เป็นคำขอที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพราง: สิทธิในการนำสืบหลักฐานสัญญาฝากเมื่อมีการอ้างสัญญาซื้อขาย
โจทก์บรรยายฟ้องเป็นในความว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงหนึ่ง ได้ขายให้แก่จเลยบางส่วน แต่ได้โอนชื่อทางทะเบียนเป็นชื่อจำเลยเป็นเจ้าของทั้งแปลง ส่วนของโจทก์ที่ยังเหลือโจทก์ฝากจำเลยไว้ เพราะการแบ่งแยกโฉนดไม่สดวก ดังนี้ถือได้ว่าโจทก์บรรยายฟ้องได้ความขัดแล้วว่าเป็นเรื่องนิติกรรมอำพราง เป็นเรื่องทำสัญญาขายอำพรางสัญญาฝาก โจทก์จึงมีสิทธินำสืบถึงนิติกรรมที่อำพรางไว้ได้ ไม่ต้องห้ามตาม วิ.แพ่ง ป.ช.ญครั้งที่ 4/2498

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางสัญญาฝาก: ศาลอนุญาตให้โจทก์สืบพยานเพื่อพิสูจน์นิติกรรมที่ซ่อนเร้นได้
โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงหนึ่งได้ขายให้แก่จำเลยบางส่วนแต่ได้โอนชื่อทางทะเบียนเป็นชื่อจำเลยเป็นเจ้าของทั้งแปลงส่วนของโจทก์ที่ยังเหลือโจทก์ฝากจำเลยไว้ เพราะการแบ่งแยกโฉนดไม่สะดวก ดังนี้ถือได้ว่าโจทก์บรรยายฟ้องได้ความชัดแล้วว่าเป็นเรื่องนิติกรรมอำพราง เป็นเรื่องทำสัญญาขายอำพรางสัญญาฝาก โจทก์จึงมีสิทธินำสืบถึงนิติกรรมที่อำพรางไว้ได้ ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะบทลงโทษโดยคงโทษเดิม ทำให้ฎีกาต้องห้ามในข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษว่าจำเลย ผิดก.ม.อาญา ม. 251,59 จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิด ม.249,47,59 แต่คงลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี6 เดือน เท่าเดิม คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
of 260