คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ดุลยทัณฑ์ชนาณัติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,595 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทจากการจุดไฟเผาไร่ใกล้เคียง ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย
จำเลยบอกคนข้างเคียงว่าจะจุดไฟสุมไร่เพื่อประโยชน์แก่การเกษตรกรรมเช่นเคย ให้ดูแลห้างของคนข้างเคียงไว้เมื่อไฟลุกลามไปไหม้ทรัพย์สินของคนข้างเคียงในลักษณะที่อาจช่วยกันดับได้ทันและไม่ปรากฎว่าจำเลยได้ระมัดระวังหรือจัดการอย่างใด ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 201

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยประมาทหรือไม่เจตนาจนช้างป่าตาย ไม่ถือเป็นความผิดฐานฆ่าช้างป่าตาม พ.ร.บ.รักษาช้างป่า
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้จับช้างป่าแล้วไม่ชักลาก เป็นเหตุให้ช้างเหยียบย่ำทำร้ายกันเองจนตายจำเลยต่อสู้ว่าไม่มีเจตนาฆ่าช้างตายเพราะทำการจับช้างไม่ทันท่วงทีโดยคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าไม่ถูก โจทก์ไม่สืบพยานขอให้วินิจฉัยว่าตามพฤติการณ์เช่นว่านี้จำเลยมีความผิดหรือไม่
พฤติการณ์เช่นว่านี้ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าหรืออาจแลเห็นผลแห่งการกระทำนั้นได้ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานฆ่าช้างป่าโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าช้างป่า: การพิสูจน์ความผิดฐานฆ่าต้องแสดงเจตนาหรือความสามารถในการคาดการณ์ผล
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้จับช้างป่าแล้วไม่ชักลาก เป็นเหตุให้ช้างเหยียบย่ำทำร้ายกันเองจนตาย จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีเจตนาฆ่า ช้างตายเพถราะทำการจับช้างไม่ทันท่วงทีโดยคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าไม่ถูก โจทก์ไม่สืบพยานขอให้วินิจฉัยว่าพฤติการณ์เช่นว่านี้จำเลยมีความผิดหรือไม่
พฤติการณ์เช่นว่านี้ยังไม่ปรากฎว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าหรืออาจแลเห็นผลแห่งการกระทำนั้นได้จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานฆ่าช้างป่าโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษตามฐานความผิดที่ถูกต้อง แม้โจทก์อ้างมาตราผิด ศาลมีอำนาจลงโทษตามมาตราที่ถูกต้องได้
ถ้าศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องนั้น โจทก์สืบสม แต่โจทก์อ้างฐานความผิดหรือมาตราผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองเกินกว่า 0.20 เมตรลูกบาศก์ โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่โจทก์ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม. 48,71 ไม่ได้อ้าง ม.73 มาดังนี้ เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์อ้างมาตราผิดไป ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยตาม ม. 73 อันเป็นฐานความผิดที่ถูกได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการลงโทษตามฐานความผิดที่ถูกต้อง แม้โจทก์ฟ้องผิดมาตรา
ถ้าศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องนั้น โจทก์สืบสมแต่โจทก์อ้างฐานความผิดหรือมาตราผิดศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองเกินกว่า 0.20เมตรลูกบาศก์ โดยไม่ได้รับอนุญาตแต่โจทก์ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,71 ไม่ได้อ้าง มาตรา 73 มาดังนี้เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์อ้างมาตราผิดไป ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยตาม มาตรา73 อันเป็นฐานความผิดที่ถูกได้(เนื้อฎีกาที่ 1285/92)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2108/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมโดยอายุความ: การฟ้องรอนสิทธิ & ประเด็นสุจริตของผู้ซื้อ
เมื่อโจทก์ใช้สิทธิทางเดินผ่านที่ดินของจำเลยมากว่า 10 ปีโจทก์ย่อมได้ทรัพย์สินอย่างหนึ่งเรียกว่า "ภาระจำยอม" บนที่ดินของจำเลยโดยทางอายุความ เมื่อยังไม่จดทะเบียนจึงเข้าข่ายบังคับของ ม.1294 วรรค 2 เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ทรงทรัพย์สิทธิภาระจำยอมและถูกจำเลยรอบสิทธิเพียงเท่านี้ก็เป็นฟ้องที่ครบบริบูรณ์ตาม ป. วิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว ข้อจำเลยได้รับโอนมาโดยสุจริตหรือไม่ ๆ จำเป็นต้องกล่าวเพราะเป็นประเด็นอีกข้อหนึ่งเพิ่มเติมจากข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าว ต่อเมื่อจำเลยกล่าวอ้างขึ้นก็เป็นประเด็นที่จะต้องนำสืบกันต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2108/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การฟ้องรอนสิทธิและการพิสูจน์ความสุจริตของผู้รับโอน
เมื่อโจทก์ใช้สิทธิทางเดินผ่านที่ดินของจำเลยมากว่า30 ปี โจทก์ย่อมได้ทรัพยสิทธิอย่างหนึ่งเรียกว่า"ภาระจำยอม" บนที่ดินของจำเลยโดยทางอายุความ เมื่อยังไม่จดทะเบียนจึงเข้าข่ายบังคับของ มาตรา 1299 วรรคสองเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ทรงทรัพยสิทธิภาระจำยอมและถูกจำเลยรอนสิทธิ เพียงเท่านี้ก็เป็นฟ้องที่ครบบริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา172แล้ว ข้อจำเลยได้รับโอนมาโดยสุจริตหรือไม่ไม่จำเป็นต้องกล่าวเพราะเป็นประเด็นอีกข้อหนึ่งเพิ่มเติมจากข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าว ต่อเมื่อจำเลยกล่าวอ้างขึ้นก็เป็นประเด็นที่จะต้องนำสืบกันต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักย้ายสินค้าควบคุมเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจตราและการค้ากำไรเกินควร ต้องมีเจตนาเพื่อทำให้เจ้าพนักงานไม่สามารถควบคุมได้
การห้ามยักย้ายตามประกาศของคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งออกประกาศโดยอาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 8 แห่ง พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 นั้น หมายถึงการห้ามยักย้ายภายในเขตอำเภอเดียวกันด้วย เพราะการนำเข้ามาในเขตท้องที่อำเภอก็ดี การนำออกจากเขตท้องที่อำเภอก็ดีได้ประกาศห้ามอยู่แล้ว
การยักย้ายในที่นี้มิได้หมายความแต่เพียงการพาเคลื่อนที่ แต่หมายถึงการยักย้ายถ่ายเทเพื่อไม่ให้เจ้าพนักงานได้ตรวจตราควบคุมเกี่ยวกับการป้องกันการค้ากำไรเกินควร เช่นเจ้าพนักงานบังคับให้แจ้งปริมาณหรือสถานที่เก็บไว้แล้วหรือรู้อยู่ว่าจะถูกบังคับเช่นว่านั้นแล้วย้ายของนั้นไปเสียดังนี้เป็นต้น
เมื่อไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาเช่นนั้นและเมื่อพาของเหล่านั้นไปยังตำบลที่อยู่ในประเทศ(ดอยมะอ่างขาง) แล้วเจ้าพนักงานก็ยังอาจตรวจตราควบคุมได้อยู่นั่นเอง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นผิดฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักย้ายน้ำมันก๊าสเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจตรา เจ้าพนักงานยังสามารถควบคุมได้ ไม่เป็นความผิด
การห้ามยักย้ายตามประกาศของคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งออกประกาศโดยอาศัยอำนาจตามความใน ม.8 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 นั้นหมายถึงการห้ามยักย้ายภายในเขตอำเภอเดียวกันด้วย เพราะการนำเข้ามาในเขตห้องที่อำเภอก็ดี การนำออกจากเขตท้องที่อำเภอก็ดี ได้ประกาศห้ามอยู่แล้ว
การยักย้ายในที่นี้มิได้หมายความแต่เพียงการพาเคลื่อนที่แต่หมายถึงการยักย้ายถ่ายเทเพื่อไม่ให้เจ้าพนักงานได้ตรวจตราควบคุมเกี่ยวกับการป้องกันการค้ากำไรเกินควร เช่นเจ้าพนักงานบังคับให้แจ้งปริมาณหรือสถานที่เก็บไว้แล้วหรือรู้อยู่ว่าจะถูกบังคับเช่นว่านั้นแล้วย้ายของนั้นไปเสียดังนี้เป็นต้น
เมื่อไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาเช่นนั้นและเมื่อพาของเหล่านั้นไปยังตำบลที่อยู่ในประเทศ(ดอยมะอ่างขาง) แล้วเจ้าพนักงานก็ยังอาจตรวจตราควบคุมได้อยู่นั่นเองการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นผิดฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2101/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความหมายของ 'ข้าว' ใน พ.ร.บ.สำรวจกักกันข้าว: ข้าวสารเหนียวไม่อยู่ในข่าย
ข้าวสารเหนียว ไม่รวมอยู่ในความหมายของคำว่า "ข้าว"ตาม พระราชบัญญัติสำรวจกักกันข้าว (อ้างฎีกาที่ 72/2492)
of 260