พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,595 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2006/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เกณฑ์การพิจารณาความผิดฐานพยายามส่งสินค้าต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักร: ระยะทางไม่ใช่ข้อชี้ขาด
ความผิดฐานลักลอบนำของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อใดการกระทำจะพ้นขั้นตระเตรียมเข้าสู่ขั้นพยายามกระทำความผิดแล้วหรือไม่ ย่อมจะต้องพิเคราะห์ดูว่า ขณะถูกจับนั้นการกระทำอยู่ในลักษณะที่ใกล้ชิดความผิดจวนจะสำเร็จลงแล้วหรือยัง จะถือเอาระยะทางใกล้ไกลจากพรมแดนเท่าใดเป็นเกณฑ์วินิจฉัยไม่ได้
การจ่ายเงินค่าสินบนค่ารางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง(ฉบับที่ 3) มาตรา 3 นั้น ถ้าหากศาลใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกสถานเดียวตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 23 ศาลก็ย่อมยกคำขอนั้นเสีย
การจ่ายเงินค่าสินบนค่ารางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง(ฉบับที่ 3) มาตรา 3 นั้น ถ้าหากศาลใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกสถานเดียวตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 23 ศาลก็ย่อมยกคำขอนั้นเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2006/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เกณฑ์การพิจารณา 'พยายาม' ส่งของออกนอกราชอาณาจักร: ระยะทางจากชายแดนไม่ใช่ข้อชี้ขาด
ความผิดฐานลักลอบนำของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อใดการกระทำจะพ้นชั้นตระเตรียมเข้าสู่ชั้นพยายามกระทำความผิดแล้วหรือไม่ย่อมจะต้องพิเคราะห์ดูว่า ขณะถูกจับนั้นการกระทำอยู่ในลักษณะที่ใกล้ชิดความผิดจวนจะสำเร็จลงแล้วหรือยัง จะถือเอาระยะทางใกล้ไกลจากพรมแดนเท่าใดเป็นเกณฑ์วินิจฉัยไม่ได้
การจ่ายเงินค่าสินบลค่ารางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับตาม พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง(ฉบับที่ 3) มาตรา 3 นั้น ถ้าหากศาลใช้ดุลยพินิจลงโทษจำคุกสถานเดียวตามกฎหมายอาญา ม.23 ศาลก็ย่อมยกคำขอนั้นเสีย
การจ่ายเงินค่าสินบลค่ารางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับตาม พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง(ฉบับที่ 3) มาตรา 3 นั้น ถ้าหากศาลใช้ดุลยพินิจลงโทษจำคุกสถานเดียวตามกฎหมายอาญา ม.23 ศาลก็ย่อมยกคำขอนั้นเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1976/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนเกิดบาดเจ็บทางกายภาพ แม้ไม่สาหัส แต่ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
ถูกทุบตบต่อยถีบหลายครั้ง ถึงเจ็บหน้าอกและปอดช้ำควรพักรักษาตัว 15 วัน เป็นบาดเจ็บ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญา: เจ้าของรถไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
โจทก์เป็นเจ้าของรถโดยสารจำเลยขับรถชนรถโจทก์ขณะลูกจ้างโจทก์เป็นคนขับดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 336(15) และตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกได้โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญา: เจ้าของรถไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
โจทก์เป็นเจ้าของรถโดยสาร จำเลยขับรถชนรถโจทก์ขณะลูกจ้างโจทก์เป็นคนขับดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 336(15) และตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกได้ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กำหนด ทำให้เกิดอุบัติเหตุถึงแก่ความตาย
มีเหล็กกั้นถนนขวางออกมาเกะกะอยู่ รถที่จำเลยขับมาโดยเร็วเกินควรจึงชนเหล็กนั้นเป็นเหตุให้คนตาย ถ้าปรากฏว่าหากจำเลยขับไม่เร็วกว่าที่ควร จำเลยก็จะขับรถหลบพ้นไปได้ ดังนี้ ได้ชื่อว่าความตายเป็นผลโดยตรงจากการกระทำโดยประมาทของจำเลย เป็นความผิดตาม มาตรา 252
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1967/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมสถานที่เกิดเหตุในฟ้องอาญา: ศาลอนุญาตได้หากจำเลยไม่หลงต่อสู้และมีเหตุผลสมควร
โจทก์ขอเพิ่มเติมที่เกิดเหตุในฟ้อง เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้วเพราะพิมพ์ฟ้องตกไป จำเลยรับอยู่ว่าจับของกลางได้จากจำเลย มิได้หลงต่อสู้ในเรื่องสถานที่เกิดเหตุ ศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1867/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับอุทธรณ์ไม่ใช่การรับรองการวินิจฉัยข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ว่า "รับเป็นอุทธรณ์"นั้นจะถือว่าได้รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงในคดีมโนสาเร่ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1867/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับอุทธรณ์ไม่ถือเป็นการรับรองการอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ "รับเป็นอุทธรณ์" นั้นจะถือว่าได้รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงในคดีมโนสาเร่ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1808/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด: การพิจารณาบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยใช้มียาวทั้งตัวทั้งด้ามคืนเศษ ฉะเพาะตัวมีดยาวราว 6 นิ้วฟุต แทงผู้ตายที่สบักซ้ายเหนือกระดูกไหปลาร้าแผลยาว 1 นิ้วลึก 5 นิ้ว คนมีดตัดเส้นโลหิตใหญ่ที่ขั้วหัวใจผู้ตายขาดใจตายเกือบทันที ควรฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าให้ตาย