พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,595 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคำพิพากษาผูกพันผู้สืบสิทธิ: การแบ่งแยกที่ดินตามการครอบครองจริง แม้โฉนดระบุสิทธิแตกต่าง
ผู้มีชื่อในโฉนดได้เป็นความฟ้องขอแบ่งแยกโฉนดจากกันและกันโดยฝ่ายโจทก์อ้างว่าตนมีสิทธิในที่ดิน 2 ใน 3 ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่า มีสิทธิคนละครึ่ง ศาลพิพากษาว่าต่างปกครองเป็นส่วนสัดกันมาฝ่ายละครึ่ง 30 ปีเศษแล้ว จึงขอให้แบ่งโฉนดตามที่ปกครองมา คดีถึงที่สุด ดังนี้
ครั้นที่ดินตามโฉนดดังกล่าวตกได้แก่ผู้อื่นต่อมาทั้งสองฝ่ายแม้ผู้อื่นนั้นจะไม่ได้เป็นคู่ความในคดีก่อนก็เป็นผู้สืบสิทธิ มาจากคู่ความในคดีก่อน คำพิพากษาคดีก่อนจึงผูกมัดผู้นั้นด้วย ฉะนั้น ผู้ได้รับที่ดินตามโฉนดดังกล่าวจะมาฟ้องร้องตั้งข้อพิพาทว่ามีส่วนในที่ดินตามโฉนดนั้นผิดไปจากคำพิพากษาในคดีเดิมย่อมไม่ได้
ครั้นที่ดินตามโฉนดดังกล่าวตกได้แก่ผู้อื่นต่อมาทั้งสองฝ่ายแม้ผู้อื่นนั้นจะไม่ได้เป็นคู่ความในคดีก่อนก็เป็นผู้สืบสิทธิ มาจากคู่ความในคดีก่อน คำพิพากษาคดีก่อนจึงผูกมัดผู้นั้นด้วย ฉะนั้น ผู้ได้รับที่ดินตามโฉนดดังกล่าวจะมาฟ้องร้องตั้งข้อพิพาทว่ามีส่วนในที่ดินตามโฉนดนั้นผิดไปจากคำพิพากษาในคดีเดิมย่อมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งแยกที่ดินตามการครอบครองจริง แม้มีการเปลี่ยนแปลงผู้สืบสิทธิ คำพิพากษาเดิมผูกพัน
ผู้มีชื่อในโฉนดได้เป็นความฟ้องขอแบ่งแยกโฉนดจากกันและกัน โดยฝ่ายโจทก์อ้างว่าตนมีสิทธิในที่ดิน 2 ใน 3 ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่า มีสิทธิคนละครึ่ง ศาลพิพากษาว่าต่างปกครองเป็นส่วนสัดกันมาฝ่ายละครึ่ง 30 ปี เศษแล้ว จึงขอให้ แบ่งโฉนดตามที่ปกครองมา คดีถึงที่สุด ดังนี้
ครั้นที่ดินตามโฉนดดังกล่าวตกได้แก่ผู้อื่นต่อมาทั้งสองฝ่าย แม้ผู้อื่นนั้นจะไม่ได้เป็นคู่ความในคดีก่อนก็เป็นผู้สืบ สิทธิ มาจากคู่ความในคดีก่อนคำพิพากษาคดีก่อนจึงผูกมัดผู้นั้นด้วย ฉะนั้น ผู้ได้รับที่ดินตามโฉนดดังกล่าวจะมา ฟ้องร้องตั้งข้อพิพาทว่ามีส่วนในที่ดินตามโฉนดนั้นผิดไปจากคำพิพากษาในคดีเดิมย่อมไม่ได้./
ครั้นที่ดินตามโฉนดดังกล่าวตกได้แก่ผู้อื่นต่อมาทั้งสองฝ่าย แม้ผู้อื่นนั้นจะไม่ได้เป็นคู่ความในคดีก่อนก็เป็นผู้สืบ สิทธิ มาจากคู่ความในคดีก่อนคำพิพากษาคดีก่อนจึงผูกมัดผู้นั้นด้วย ฉะนั้น ผู้ได้รับที่ดินตามโฉนดดังกล่าวจะมา ฟ้องร้องตั้งข้อพิพาทว่ามีส่วนในที่ดินตามโฉนดนั้นผิดไปจากคำพิพากษาในคดีเดิมย่อมไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าการค้าหมดอายุ แม้มีที่อยู่อาศัยรวมด้วย ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าตึกทำการค้าในทำเลการค้า แม้จะอยู่อาศัยด้วยก็ไม่เป็นเคหะอันจะได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ
ผู้ให้เช่าเรียกค่าเช่าสูงขึ้น ผู้เช่าไม่ยอมให้ผู้ให้เช่าจึงมาฟ้องเลิกสัญญาเช่า ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
ผู้ให้เช่าเรียกค่าเช่าสูงขึ้น ผู้เช่าไม่ยอมให้ผู้ให้เช่าจึงมาฟ้องเลิกสัญญาเช่า ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 904/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องอาญาเคลือบคลุม: การระบุข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรที่ไม่ชัดเจน ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา
ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ จับจำเลยได้พร้อมด้วยของกลางซึ่งจำเลยลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าได้มาจากการกระทำผิด เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินมรดก: คำสั่งศาลแสดงสิทธิครอบครองไม่ตัดสิทธิทายาท
ไปร้องต่อศาลขอให้แสดงสิทธิครอบครองในที่ดินมีโฉนดอ้างว่าเจ้าของที่ดินขายให้คนนั้นแม้ศาลจะมีคำสั่งแสดง ว่าผู้นั้นได้สิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ก็ตามเมื่อความจริงปรากฎว่า เจ้าจองที่ดินนั้นมิได้ขาย เป็นแต่ให้เช่าดังนี้ คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิเจ้าของที่ดินหรือทายาทที่จะฟ้องเรียกร้องเอาที่ดินนั้นคืนมา./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินที่ได้มาจากการอ้างซื้อ เมื่อความจริงเป็นสัญญาเช่า สิทธิครอบครองย่อมไม่สมบูรณ์
ไปร้องต่อศาลขอให้แสดงสิทธิครอบครองในที่ดินมีโฉนดอ้างว่าเจ้าของที่ดินขายให้ตนนั้น แม้ศาลจะมีคำสั่งแสดงว่าผู้นั้นได้สิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ก็ตาม เมื่อความจริงปรากฏว่าเจ้าของที่ดินนั้นมิได้ขาย เป็นแต่ให้เช่า ดังนี้ คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิเจ้าของที่ดินหรือทายาทที่จะฟ้องเรียกร้องเอาที่ดินนั้นคืนมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับคำพิพากษาเดิม หากผิดสัญญาอีกฝ่ายไม่ต้องผูกพัน
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล เอาที่ดินพิพาทประมูลระหว่างกันเอง ถ้าไม่ตกลงให้เอาขายทอดตลาด ต่อมาโจทก์จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ไม่สามารถจะตกลงกันในวิธีการประมูลได้ทั้งสองฝ่ายจึงขอให้ขายทอดตลาด ศาลได้เรียกคู่ความมาสอบถาม ทั้งสองฝ่ายขอให้ศาลถือข้อตกลงใหม่แทนการที่จะประมูลหรือบังคับคดี แต่ฝ่ายโจทก์กลับเป็นฝ่ายผิดข้อตกลงตามที่ได้ตกลงกันใหม่นั้น จำเลยจึงไม่จำเป็นจะต้องปฏิบัติการตามข้อตกลงใหม่นั้น แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาท้ายยอม คือให้ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันตามคำพิพากษาท้ายยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความและการผิดสัญญาใหม่: ศาลยังคงบังคับตามคำพิพากษาเดิม
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล เอาที่ดินพิพาทประมูลระหว่างกันเอง ถ้าไม่ตกลงให้เอา ขายทอดตลาด ต่อมาโจทก์จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ไม่สามารถจะตกลงกันในวิธีการประมูลได้ทั้งสองฝ่ายจึงขอให้ ขายทอดตลาด ศาลได้เรียกคู่ความมาสอบถาม ทั้งสองฝ่ายขอให้ศาลถือข้อตกลงใหม่แทนการที่จะประมูลหรือบังคับ คดี แต่ฝ่ายโจทก์กลับเป็นฝ่ายผิดข้อตกลงตามที่ได้ตกลงกันใหม่นั้น จำเลยจึงไม่จำเป็นจะต้องปฏิบัติการตามข้อตก ลงใหม่นั้น แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาท้ายยอม คือให้ขายทอดตลาดเอางเงินมาแบ่งกันตามคำพิพากษาท้าย ยอม./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามกำหนดเวลาส่งสำเนาฎีกา ทำให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบ
โจทก์ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ไม่นำส่งสำเนาฎีกาให้จำเลย จนเวลาล่วงเลยเกินกำหนดที่ศาลสั่งไว้ ศาลฎีกาย่อมสั่งให้จำหน่ายฎีกาของโจทก์ออกจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายจากประวัติอาชญากรรมซ้ำ
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาคดีอาญาฐานลักทรัพย์มา 3 ครั้งแต่เวลานั้นจำเลยมีอายุน้อย ศาลเรียกประกันทัณฑ์บนบ้างต้องขังมาพอแก่โทษบ้าง ส่งโรงเรียนดัดสันดานบ้าง ต่อมาจำเลยมากระทำผิดฐานลักทรัพย์ต้องจำคุก 4 เดือน ครั้ง 1 และต้องโทษฐานรับของโจรจำคุก 2 เดือนอีกครั้งหนึ่ง และในครั้งหลังจำเลยมากระทำผิดฐานชิงทรัพย์อีก ดังนี้ ย่อมเป็นการแสดงโดยชัดแจ้งว่า จำเลยเป็นผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ต้องเพิ่มโทษกักกันตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย 2479