คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1697

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 33 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 339/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมฉบับหลังมีผลเพิกถอนพินัยกรรมฉบับแรก ผู้ไม่มีส่วนได้เสียไม่มีสิทธิเป็นผู้จัดการมรดก
อ. ทำพินัยกรรมไว้ 2 ฉบับ ฉบับแรกตั้งผู้ร้องทั้งสองและผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดก ฉบับหลังตั้งผู้คัดค้านทั้งสองกับผู้ร้องที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดก เมื่อพินัยกรรมฉบับหลังสมบูรณ์ย่อมมีผลเป็นการเพิกถอนพินัยกรรมฉบับแรกที่ตั้งผู้ร้องที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดก ทั้งผู้ร้องที่ 2 มิได้เป็นทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของ อ. ผู้ร้องที่ 2 จึงไม่มีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของ อ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของพินัยกรรม การเพิกถอนพินัยกรรมฉบับก่อนด้วยพินัยกรรมฉบับหลัง และการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้มีข้อความและลักษณะครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656 และ มาตรา 1671ทุกประการ เป็นแต่ ป. ผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้เขียนและพยานในพินัยกรรมจะเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมไม่ได้เท่านั้นเพราะเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 1653 และ มาตรา 1705 ส่วนข้อกำหนดพินัยกรรมในส่วนอื่นยังสมบูรณ์อยู่ ดังนั้น แม้ผู้ตายจะได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกทั้งหมด ให้ผู้ร้องแต่ ผู้เดียวตามพินัยกรรมฉบับลงวันที่ 12 มกราคม 2523 ต่อมาผู้ตายทำพินัยกรรมฉบับลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2523 ยกทรัพย์มรดกทั้งหมด ให้แก่บุตรทุกคนคือผู้ร้องและผู้คัดค้านทั้งเจ็ด พินัยกรรมฉบับก่อน เป็นอันเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับหลัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2163/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งผู้จัดการมรดก: สิทธิตามพินัยกรรม, ผลสัญญาประนีประนอม, และคุณสมบัติของผู้จัดการมรดก
เมื่อเจ้ามรดกตาย ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งให้จำเลยที่ 1 กับพวก เป็นผู้จัดการมรดกในคดีหนึ่งแล้ว ต่อมา อ. ยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้อีกจำเลยที่ 1 กับพวกคัดค้านในที่สุดมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ อ. เป็นผู้จัดการมรดกโดยศาลพิพากษาให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น การเป็นผู้จัดการมรดกของจำเลยที่ 1 กับพวกจึงสิ้นสุดลงตามสัญญาดังกล่าวนั้นแล้วดังนั้นเมื่อ อ. ถึงแก่กรรมโจทก์กับพวกซึ่งตามพินัยกรรมเจ้ามรดกระบุให้เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับ อ. ย่อมร้องขอต่อศาลให้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดกในคดีนี้ได้ไม่เป็นร้องซ้ำ
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมฉบับแรกระบุให้โจทก์กับพวกเป็นผู้จัดการมรดกต่อมาได้ทำพินัยกรรมอีกฉบับหนึ่งซึ่งมิได้กล่าวถึงการเป็นผู้จัดการมรดกและไม่ได้ระบุไว้ให้ยกเลิกหรือเพิกถอนพินัยกรรมฉบับที่ทำขึ้นก่อนแต่ประการใด ฉะนั้นโจทก์จึงยังมีสิทธิเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมฉบับแรก
แม้โจทก์เคยสละสิทธิเพื่อให้ อ. เป็นผู้จัดการมรดกแต่เมื่อ อ. ถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ทั้งสองก็มีสิทธิขอเป็นผู้จัดการมรดกได้เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ที่ไม่เหมาะสม ศาลก็ตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ได้ และแม้โจทก์ที่ 1 จะมีส่วนได้รับทรัพย์มรดกน้อยกว่าจำเลยที่ 2 โจทก์ที่ 1 ก็เป็นทายาทและมีส่วนได้เสียส่วนโจทก์ที่ 2 แม้จะไม่ได้เป็นทายาทและไม่มีสิทธิรับมรดกแต่ก็เป็นผู้ที่เจ้ามรดกระบุไว้ในพินัยกรรมให้เป็นผู้จัดการมรดกด้วยผู้หนึ่ง จึงมีสิทธิเป็นผู้จัดการมรดกได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1712 และ มาตรา 1713

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1960/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเป็นผู้จัดการมรดก: ทายาทตามพินัยกรรมและทายาทโดยธรรม vs ผู้รับพินัยกรรมที่ถูกเพิกถอน
ผู้ร้องมิใช่ทายาทของ ส.แม้ส.จะทำพินัยกรรมยกที่ดินอันเป็นทรัพย์มรดกให้แก่ผู้ร้อง แต่ต่อมา ส.ก็ทำพินัยกรรมฉบับหลังยกทรัพย์ดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น พินัยกรรมฉบับก่อนจึงเป็นอันเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับหลังตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1697 ผู้ร้องจึงหมดสิทธิรับมรดกของ ส. และไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของ ส. ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกรายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1960/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกสงวนไว้สำหรับทายาทและผู้มีส่วนได้เสีย พินัยกรรมฉบับหลังมีผลเหนือกว่า
ผู้ร้องมิใช่ทายาทของ ส. แม้ ส.จะทำพินัยกรรมยกที่ดินอันเป็นทรัพย์มรดกให้แก่ผู้ร้อง แต่ต่อมา ส.ก็ทำพินัยกรรมหลักยกทรัพย์ดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น พินัยกรรม ฉบับก่อนจึงเป็นอันเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับหลังตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1697 ผู้ร้องจึงหมดสิทธิรับมรดกของ ส.และไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก ของ ส. ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกรายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2826/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมกำหนดผู้จัดการมรดกแล้ว ทายาทอื่นไม่มีสิทธิขอเป็นผู้จัดการ
เมื่อผู้ตายทำพินัยกรรมไว้ และมีข้อกำหนดในพินัยกรรมให้ อ.เป็นผู้จัดการมรดก ทั้งไม่ปรากฏว่าข้อกำหนดพินัยกรรมซึ่งตั้งผู้จัดการมรดกดังกล่าวไม่มีผลบังคับด้วยประการใด ๆประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 วรรคท้ายบัญญัติให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกตามข้อกำหนดพินัยกรรม ดังนั้นแม้ผู้ร้องเป็นทายาทของผู้ตายหรือเป็นผู้มีส่วนได้เสียในมรดกของผู้ตาย ก็ไม่มีเหตุที่ผู้ร้องจะขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2826/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมกำหนดผู้จัดการมรดกแล้ว ทายาทอื่นไม่มีสิทธิขอเป็นผู้จัดการมรดก
เมื่อผู้ตายทำพินัยกรรมไว้ และมีข้อกำหนดในพินัยกรรมให้ อ.เป็นผู้จัดการมรดก ทั้งไม่ปรากฏว่าข้อกำหนดพินัยกรรมซึ่งตั้งผู้จัดการมรดกดังกล่าวไม่มีผลบังคับด้วยประการใด ๆประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 วรรคท้าย บัญญัติให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกตามข้อกำหนดพินัยกรรม ดังนั้น แม้ผู้ร้องเป็นทายาทของผู้ตายหรือเป็นผู้มีส่วนได้เสียในมรดกของผู้ตาย ก็ไม่มีเหตุที่ผู้ร้องจะขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1771/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง: การเขียนวันที่เพิ่มเติมไม่ถือตกเติม/เปลี่ยนแปลง หากระบุผู้รับทรัพย์ชัดเจน
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองซึ่งมีข้อความอื่นเป็นตัวพิมพ์ทั้งสิ้นแต่เว้นช่องวันที่ที่ทำพินัยกรรมว่างไว้ และมีการเขียนเลข 16ซึ่งเป็นวันที่ที่ทำพินัยกรรมลงไป ดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นการตกเติมหรือเปลี่ยนแปลงซึ่งพินัยกรรม จึงไม่จำต้องมีผู้ทำพินัยกรรม พยานและกรมการอำเภอลงลายมือชื่อกำกับเลข 16 ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 วรรคท้าย
ข้อความในพินัยกรรมข้อ 1 ระบุว่ายกทรัพย์ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมให้แก่ผู้ที่ได้ระบุชื่อไว้ในพินัยกรรมและข้อ 2 ระบุว่าขอมอบพินัยกรรมฉบับนี้แก่จำเลย ดังนี้ ถือได้ว่าพินัยกรรมได้กำหนดบุคคลที่ทราบตัวแน่นอนให้ไว้แล้ว ว่าให้จำเลยเป็นผู้รับพินัยกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1771/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองสมบูรณ์ แม้มีช่องวันที่ว่างและมีการเขียนวันที่ลงไปภายหลัง หากเจตนาทำพินัยกรรมชัดเจนและระบุผู้รับประโยชน์
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองซึ่งมีข้อความอื่นเป็นตัวพิมพ์ทั้งสิ้นแต่เว้นช่องวันที่ที่ทำพินัยกรรมว่างไว้ และมีการเขียนเลข 16 ซึ่งเป็นวันที่ที่ทำพินัยกรรมลงไป ดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นการตก เติม หรือเปลี่ยนแปลงซึ่งพินัยกรรม จึงไม่จำต้องมีผู้ทำพินัยกรรม พยาน และกรมการอำเภอลงลายมือชื่อกำกับเลข 16 ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 วรรคท้าย
ข้อความในพินัยกรรมข้อ 1 ระบุว่ายกทรัพย์ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมให้แก่ผู้ที่ได้ระบุชื่อไว้ในพินัยกรรมและข้อ 2 ระบุว่าขอมอบพินัยกรรมฉบับนี้แก่จำเลย ดังนี้ ถือได้ว่าพินัยกรรมได้กำหนดบุคคลที่ทราบตัวแน่นอนให้ไว้แล้ว ว่าให้จำเลยเป็นผู้รับพินัยกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1624/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับเวลาพินัยกรรมสำคัญ: พินัยกรรมที่ลงวันเดือนปีเดียวกัน แต่มีการแก้ไขภายหลัง ทำให้พินัยกรรมฉบับหลังมีผลเพิกถอนพินัยกรรมเดิม
พินัยกรรมทั้งฉบับของโจทก์และจำเลยต่างลงวันเดือนปีที่ทำตรงกันคือ วันที่ 12 มกราคม 2502 ของจำเลยนั้น.ผู้ทำพินัยกรรมเขียนชื่อผู้รับไว้เรียบร้อยครบถ้วนแล้วแต่วันที่ลงในพินัยกรรม. จึงถือเป็นอันสมบูรณ์แต่วันนั้นส่วนพินัยกรรมของโจทก์ปรากฏว่าชื่อผู้รับพินัยกรรมเว้นว่างไว้. เจ้ามรดกเพิ่งกรอกชื่อโจทก์เป็นผู้รับเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2506. จึงถือได้ว่าพินัยกรรมฉบับของโจทก์ได้ทำเสร็จเป็นพินัยกรรมเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2506 อันเป็นวันภายหลังจากพินัยกรรมจำเลย. พินัยกรรมของโจทก์จึงเป็นพินัยกรรมฉบับหลังซึ่งมีผลเพิกถอนพินัยกรรมฉบับของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1697.
พินัยกรรมฉบับของโจทก์ได้เว้นชื่อผู้รับพินัยกรรมว่างไว้. เจ้ามรดกเพิ่งกรอกชื่อโจทก์เป็นผู้รับภายหลัง. กรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการขูดลบตกเติมหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงพินัยกรรม. จึงหาจำเป็นต้องเซ็นชื่อกำกับไว้ไม่.
เพียงแต่ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายจำเลยแสดงความเห็นไม่สมตามความประสงค์ของจำเลย. ไม่เป็นเหตุพอที่จะให้ผู้อื่นตรวจเอกสารหรือเรียกตัวผู้เชี่ยวชาญของจำเลยมาเบิกความในข้อที่ได้แสดงความเห็นไว้ชัดเจนแล้วนั้นอีก.
of 4