พบผลลัพธ์ทั้งหมด 136 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5354/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนซื้อขายหุ้น ค้ำประกัน และการพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
จำเลยที่ 1 ตั้งโจทก์เป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของโจทก์กับจำเลยที่ 1อยู่ที่การประกอบกิจการ ซื้อและขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรจากราคาหุ้นที่ขึ้นลงเป็นครั้งคราวมากกว่า ประสงค์ให้มีการโอนหุ้น แม้การซื้อขายหุ้นเช่นนี้จะไม่มีการโอนหุ้น ตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129ก็หาเป็นโมฆะไม่ เมื่อโจทก์ออกเงินทดรองซื้อหุ้นให้จำเลยที่ 1 อันเป็นกิจการที่จำเลยที่ 1 มอบหมาย โจทก์ในฐานะตัวแทนย่อมเรียกให้จำเลยที่ 1 ผู้เป็นตัวการและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิด อย่างลูกหนี้ร่วมชดใช้เงินที่ได้ออกทดรอง รวมทั้งดอกเบี้ยและค่าใช้จ่าย อย่างอื่นตามสัญญาได้ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยทั้งสองตกเป็น ลูกหนี้โจทก์อันอาจกำหนดจำนวนได้แน่นอนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า30,000 บาท(ตามกฎหมายเดิม) และไม่ปรากฏว่ามีทรัพย์สิน อย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ ศาลก็มีอำนาจสั่ง พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจำเลยทั้งสองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5354/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนซื้อขายหุ้น ค้ำประกัน และการล้มละลาย: สิทธิเรียกร้องหนี้และการพิทักษ์ทรัพย์
จำเลยที่ 1 ตั้งโจทก์เป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของโจทก์กับจำเลยที่ 1 อยู่ที่การประกอบกิจการ ซื้อและขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรจากราคาหุ้นที่ขึ้นลงเป็นครั้งคราวมากกว่า ประสงค์ให้มีการโอนหุ้น แม้การซื้อขายหุ้นเช่นนี้จะไม่มีการโอนหุ้นตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 ก็หาเป็นโมฆะไม่ เมื่อโจทก์ออกเงินทดรองซื้อหุ้นให้จำเลยที่ 1 อันเป็นกิจการที่จำเลยที่ 1 มอบหมาย โจทก์ในฐานะตัวแทนย่อมเรียกให้จำเลยที่ 1 ผู้เป็นตัวการและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิด อย่างลูกหนี้ร่วมชดใช้เงินที่ได้ออกทดรอง รวมทั้งดอกเบี้ยและค่าใช้จ่าย อย่างอื่นตามสัญญาได้ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยทั้งสองตกเป็น ลูกหนี้โจทก์อันอาจกำหนดจำนวนได้แน่นอนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 30,000 บาท (ตามกฎหมายเดิม) และไม่ปรากฏว่ามีทรัพย์สิน อย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ ศาลก็มีอำนาจสั่ง พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจำเลยทั้งสองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3732-3733/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับโอนหุ้นโดยชอบด้วยกฎหมายและอำนาจฟ้องกรรมการบริษัทให้แก้ชื่อผู้ถือหุ้น
โจทก์รับโอนหุ้นบริษัทมาโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นกรรมการบริษัทให้แก้ชื่อผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นจากผู้ถือหุ้น เดิมเป็นชื่อโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3732-3733/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนหุ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถือหุ้นเดิมมีอำนาจฟ้องบังคับให้แก้ชื่อในทะเบียนผู้ถือหุ้น
โจทก์รับโอนหุ้นบริษัทมาโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นกรรมการบริษัทให้แก้ชื่อผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมเป็นชื่อโจทก์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2919/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์: การซื้อขายโดยไม่ส่งมอบใบหุ้นและการคิดดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยต้องรับผิดชำระค่าหุ้นพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์หรือไม่เพียงใด เป็นการกำหนดไว้อย่างกว้าง ๆ ประเด็นที่กำหนดไว้จะมีความหมายอย่างไร ต้องเป็นไปตามคำฟ้องและคำให้การโจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าหุ้นที่ซื้อแทนจำเลยพร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่า โจทก์ยังมิได้จัดให้จำเลยได้รับใบหุ้น ไม่ทราบว่าโจทก์จัดการซื้อหุ้นให้จำเลยจริงหรือไม่หรือหากซื้อหุ้นให้จำเลยได้ การซื้อขายหุ้นซึ่งมิได้ออกใบหุ้นที่ระบุชื่อผู้ถือเป็นโมฆะจำเลยไม่ต้องรับผิดค่าหุ้นคดีจึงไม่มีประเด็นว่า โจทก์นำหุ้นของจำเลยไปขายกับรับเงินปันผลไว้แทนจำเลยหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกประเด็นดังกล่าวขึ้นวินิจฉัย จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยให้โจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อซื้อมาแล้วถ้าราคาหุ้นสูงขึ้นก็จะสั่งขายทันที โดยหุ้นที่ซื้อมาจะให้โจทก์เก็บรักษาไว้เพื่อความสะดวกในการสั่งขาย ดังนี้ หุ้นที่โจทก์ซื้อตามคำสั่งของจำเลยเป็นหลักทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษที่บัญญัติเพื่อกิจการนี้โดยเฉพาะ และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของจำเลยเป็นการเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคาหุ้นมากกว่าประสงค์ให้มีการโอนใบหุ้นใส่ชื่อผู้ซื้อ การซื้อขายหุ้นจึงไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129.
จำเลยให้โจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อซื้อมาแล้วถ้าราคาหุ้นสูงขึ้นก็จะสั่งขายทันที โดยหุ้นที่ซื้อมาจะให้โจทก์เก็บรักษาไว้เพื่อความสะดวกในการสั่งขาย ดังนี้ หุ้นที่โจทก์ซื้อตามคำสั่งของจำเลยเป็นหลักทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษที่บัญญัติเพื่อกิจการนี้โดยเฉพาะ และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของจำเลยเป็นการเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคาหุ้นมากกว่าประสงค์ให้มีการโอนใบหุ้นใส่ชื่อผู้ซื้อ การซื้อขายหุ้นจึงไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2919/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ซื้อขายหุ้นโดยไม่ได้รับใบหุ้น การซื้อขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายพิเศษ และดอกเบี้ยเกินอัตรา
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยต้องรับผิดชำระค่าหุ้นพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์หรือไม่เพียงใด เป็นการกำหนดไว้อย่างกว้าง ๆ ประเด็นที่กำหนดไว้จะมีความหมายอย่างไร ต้องเป็นไปตามคำฟ้องและคำให้การโจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าหุ้นที่ซื้อแทนจำเลยพร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่า โจทก์ยังมิได้จัดให้จำเลยได้รับใบหุ้น ไม่ทราบว่าโจทก์จัดการซื้อหุ้นให้จำเลยจริงหรือไม่หรือหากซื้อหุ้นให้จำเลยได้ การซื้อขายหุ้นซึ่งมิได้ออกใบหุ้นที่ระบุชื่อผู้ถือเป็นโมฆะจำเลยไม่ต้องรับผิดค่าหุ้นคดีจึงไม่มีประเด็นว่า โจทก์นำหุ้นของจำเลยไปขายกับรับเงินปันผลไว้แทนจำเลยหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกประเด็นดังกล่าวขึ้นวินิจฉัย จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยให้โจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อซื้อมาแล้วถ้าราคาหุ้นสูงขึ้นก็จะสั่งขายทันที โดยหุ้นที่ซื้อมาจะให้โจทก์เก็บรักษาไว้เพื่อความสะดวกในการสั่งขาย ดังนี้ หุ้นที่โจทก์ซื้อตามคำสั่งของจำเลยเป็นหลักทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษที่บัญญัติเพื่อกิจการนี้โดยเฉพาะ และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของจำเลยเป็นการเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคาหุ้นมากกว่าประสงค์ให้มีการโอนใบหุ้นใส่ชื่อผู้ซื้อ การซื้อขายหุ้นจึงไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129.
จำเลยให้โจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อซื้อมาแล้วถ้าราคาหุ้นสูงขึ้นก็จะสั่งขายทันที โดยหุ้นที่ซื้อมาจะให้โจทก์เก็บรักษาไว้เพื่อความสะดวกในการสั่งขาย ดังนี้ หุ้นที่โจทก์ซื้อตามคำสั่งของจำเลยเป็นหลักทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษที่บัญญัติเพื่อกิจการนี้โดยเฉพาะ และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของจำเลยเป็นการเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคาหุ้นมากกว่าประสงค์ให้มีการโอนใบหุ้นใส่ชื่อผู้ซื้อ การซื้อขายหุ้นจึงไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2181/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านหนี้ในคดีล้มละลายและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับหุ้น กรณีไม่แจ้งการโอนหุ้น
แม้ผู้ร้องไม่ไปให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนตามกำหนดนัดเมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการยืนยันหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาล ตามมาตรา 119 วรรคสาม ศาลมีอำนาจพิจารณาว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้(จำเลย) หรือไม่ ผู้ร้องจึงมีสิทธิยกขึ้นเป็นข้ออ้างข้อต่อสู้ในชั้นศาล และนำพยานหลักฐานเข้าสืบได้ ไม่ถือว่าการนำสืบพยานหลักฐานเป็นอันยุติไปตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ทำการสอบสวนแต่อย่างใด
การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อระหว่างผู้ร้องกับ น. และ ธ. ยังมิได้จดแจ้งการโอนลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น ผู้ร้องจึงไม่อาจอ้างเหตุผลใด ๆ มาเป็นข้อยกเว้นบทบัญญัติของ มาตรา 1129วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นไปจากความรับผิดในค่าหุ้นที่ค้างได้ เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แล้ว พระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 22(2) ให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวในการเก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่บริษัทลูกหนี้ (จำเลย) หรือซึ่งบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น ฉะนั้นเมื่อผู้ร้องต้องห้ามมิให้ยกการโอนหุ้นขึ้นยันบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องก็ย่อมไม่อาจยกการโอนหุ้นขึ้นยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เช่นเดียวกัน.
การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อระหว่างผู้ร้องกับ น. และ ธ. ยังมิได้จดแจ้งการโอนลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น ผู้ร้องจึงไม่อาจอ้างเหตุผลใด ๆ มาเป็นข้อยกเว้นบทบัญญัติของ มาตรา 1129วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นไปจากความรับผิดในค่าหุ้นที่ค้างได้ เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แล้ว พระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 22(2) ให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวในการเก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่บริษัทลูกหนี้ (จำเลย) หรือซึ่งบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น ฉะนั้นเมื่อผู้ร้องต้องห้ามมิให้ยกการโอนหุ้นขึ้นยันบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องก็ย่อมไม่อาจยกการโอนหุ้นขึ้นยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เช่นเดียวกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2181/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนหุ้นที่ยังมิได้จดแจ้งผลกระทบต่อหนี้ค่าหุ้นในคดีล้มละลาย ผู้โอนยังคงเป็นหนี้อยู่
ผู้ร้องมีหนังสือปฏิเสธหนี้ค่าหุ้นซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งว่าผู้ร้องยังค้างชำระต่อบริษัทลูกหนี้(จำเลย) โดยส่งสำเนาภาพถ่ายหนังสือโอนหุ้นเป็นพยานต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปแล้ว แม้ในชั้นสอบสวนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะได้ออกหมายนัดให้ผู้ร้องไปให้การเพื่อสอบสวนโดยระบุว่า ถ้า ไม่ไป ถือว่าไม่ติดใจให้สอบสวนก็ตามผู้ร้องก็ยังมีสิทธิยกข้ออ้างเกี่ยวกับการที่ผู้ร้องโอนหุ้นให้แก่ผู้มีชื่อ ขึ้นต่อสู้ในชั้นศาลและนำพยานหลักฐานเข้าสืบได้ ไม่ถือว่าการนำพยานหลักฐานดังกล่าวเป็นอันยุติไปตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ทำการสอบสวนไว้ ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นชนิดระบุชื่อ ผู้ถือหุ้นของบริษัทลูกหนี้(จำเลย) การโอนหุ้นจึงต้องจดแจ้งการโอนทั้งชื่อ และสำนักงานผู้รับโอนลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1129 วรรค 3มิฉะนั้นจะอ้างเพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากความรับผิดในหนี้ที่ค้างชำระหุ้นมิได้ ดังนั้น เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกให้ผู้ร้องชำระค่าหุ้นที่ยังค้างชำระต่อบริษัทลูกหนี้ ผู้ร้องจึงไม่อาจยกเอาการโอนหุ้นซึ่งยังมิได้จดแจ้งการโอนหุ้นขึ้นยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2181/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืนยันหนี้ค่าหุ้นในคดีล้มละลาย ผู้ถือหุ้นต้องแจ้งการโอนหุ้นเพื่อหลุดพ้นความรับผิด
แม้ผู้ร้องไม่ไปให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนตามกำหนดนัดเมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการยืนยันหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาล ตามมาตรา 119 วรรคสาม ศาลมีอำนาจพิจารณาว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) หรือไม่ ผู้ร้องจึงมีสิทธิยกขึ้นเป็นข้ออ้างข้อต่อสู้ในชั้นศาล และนำพยานหลักฐานเข้าสืบได้ ไม่ถือว่าการนำสืบพยานหลักฐานเป็นอันยุติไปตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ทำการสอบสวนแต่อย่างใด
การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อระหว่างผู้ร้องกับ น. และ ธ. ยังมิได้จดแจ้งการโอนลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น ผู้ร้องจึงไม่อาจอ้างเหตุผลใด ๆ มาเป็นข้อยกเว้นบทบัญญัติของ มาตรา 1129 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นไปจากความรับผิดในค่าหุ้นที่ค้างได้ เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แล้ว พระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 22 (2) ให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวในการเก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่บริษัทลูกหนี้ (จำเลย) หรือซึ่งบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น ฉะนั้น เมื่อผู้ร้องต้องห้ามมิให้ยกการโอนหุ้นขึ้นยันบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องก็ย่อมไม่อาจยกการโอนหุ้นขึ้นยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เช่นเดียวกัน
การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อระหว่างผู้ร้องกับ น. และ ธ. ยังมิได้จดแจ้งการโอนลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น ผู้ร้องจึงไม่อาจอ้างเหตุผลใด ๆ มาเป็นข้อยกเว้นบทบัญญัติของ มาตรา 1129 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นไปจากความรับผิดในค่าหุ้นที่ค้างได้ เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แล้ว พระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 22 (2) ให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวในการเก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่บริษัทลูกหนี้ (จำเลย) หรือซึ่งบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น ฉะนั้น เมื่อผู้ร้องต้องห้ามมิให้ยกการโอนหุ้นขึ้นยันบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องก็ย่อมไม่อาจยกการโอนหุ้นขึ้นยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1180/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายหุ้นผ่านตัวแทน: สัญญา, อายุความ, และการโอนหุ้นพิเศษ
จำเลยแต่งตั้งให้โจทก์เป็นนายหน้าและตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นเป็นกรณีพิเศษ มิใช่การซื้อขายหุ้นตามปกติจึงไม่ต้องปฏิบัติตามแบบของการโอนหุ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 วรรคสอง
เมื่อโจทก์ทำการซื้อหุ้นตามคำสั่งของจำเลยจากสมาชิกผู้ขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยไม่มีชื่อผู้รับโอน เป็นการโอนลอยแล้ว เมื่อบริษัทเจ้าของหุ้นประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น โจทก์จดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือหุ้น ก็เพื่อสิทธิในการขอรับเงินปันผล มิฉะนั้น บริษัทเจ้าของหุ้นจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และโจทก์จะใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้ถือหุ้นก็ไม่ได้ เพราะจำเลยยังไม่ได้ชำระค่าหุ้นที่โจทก์ออกทดรองไป การกระทำของโจทก์เป็นการรักษาผลประโยชน์ของจำเลย มิใช่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
สัญญาซื้อขายหลักทรัพย์ ในตลาดหลักทรัพย์ กระทำได้เฉพาะสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น จำเลยซึ่งมิได้เป็นสมาชิกจะลงชื่อเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขายในสัญญาดังกล่าวไม่ได้
โจทก์ซึ่งเป็นตัวแทน ฟ้องเรียกเงินทดรองจากจำเลยซึ่งเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 816 กฎหมายมิได้กำหนดระยะเวลาให้ใช้สิทธิเรียกร้องไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164.(ที่มา-เนติฯ)
เมื่อโจทก์ทำการซื้อหุ้นตามคำสั่งของจำเลยจากสมาชิกผู้ขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยไม่มีชื่อผู้รับโอน เป็นการโอนลอยแล้ว เมื่อบริษัทเจ้าของหุ้นประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น โจทก์จดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือหุ้น ก็เพื่อสิทธิในการขอรับเงินปันผล มิฉะนั้น บริษัทเจ้าของหุ้นจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และโจทก์จะใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้ถือหุ้นก็ไม่ได้ เพราะจำเลยยังไม่ได้ชำระค่าหุ้นที่โจทก์ออกทดรองไป การกระทำของโจทก์เป็นการรักษาผลประโยชน์ของจำเลย มิใช่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
สัญญาซื้อขายหลักทรัพย์ ในตลาดหลักทรัพย์ กระทำได้เฉพาะสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น จำเลยซึ่งมิได้เป็นสมาชิกจะลงชื่อเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขายในสัญญาดังกล่าวไม่ได้
โจทก์ซึ่งเป็นตัวแทน ฟ้องเรียกเงินทดรองจากจำเลยซึ่งเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 816 กฎหมายมิได้กำหนดระยะเวลาให้ใช้สิทธิเรียกร้องไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164.(ที่มา-เนติฯ)