พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองประกันหนี้รวม เจ้าหนี้มีสิทธิบอกปัดการชำระหนี้เฉพาะส่วน หากหนี้รวมยังไม่ครบ
โจทก์จำนองที่ดินเป็นประกันหนี้ใด ๆ ที่โจทก์หรือ จ.บิดาโจทก์ มีต่อจำเลยในขณะนั้นหรือในภายหน้า โจทก์จะขอไถ่ถอนจำนองโดยชำระหนี้ครบถ้วนเฉพาะหนี้ส่วนของตนซึ่งไม่ครบวงเงินตามสัญญาจำนอง ในขณะที่ จ. ยังคงเป็นหนี้จำเลยอยู่อีกจำนวนหนึ่งไม่ได้ จำเลยจึงชอบที่จะบอกปัดไม่รับชำระหนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 320
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3713/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจำนองครอบคลุมดอกเบี้ยค้างชำระ โจทก์ไม่ชำระดอกเบี้ยจำเลยมีสิทธิปฏิเสธไถ่ถอน
ข้อตกลงในสัญญาจำนองมีว่า นอกจากโจทก์ต้องรับผิดในเงิน390,000 บาทแล้ว ยังต้องรับผิดสำหรับดอกเบี้ยซึ่งลูกหนี้ผิดนัดด้วย ดังนั้น การที่โจทก์ขอไถ่ถอนจำนองในจำนวนเงิน390,000 บาท โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์เสนอขอชำระดอกเบี้ยด้วยจำเลยย่อมปฏิเสธการรับชำระหนี้และไม่ยอมให้ไถ่ถอนจำนองได้ การนำสืบพยานเอกสารตามประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบพยานภายหลัง แม้ไม่ได้นำเอกสารดังกล่าวถามค้านพยานโจทก์ไว้จำเลยก็มีสิทธิอ้างส่งเอกสารดังกล่าวได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทำผลงาน: การปฏิเสธงานต้องมีเหตุผลอันสมควรและข้อบกพร่องต้องเป็นสาระสำคัญ
จำเลยอ้างเหตุปฏิเสธไม่ยอมรับงานที่จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้สร้าง และจัดทำภาพยนต์ โฆษณาทาง โทรทัศน์ เพื่อโฆษณาถุงน่องสตรี เพราะโจทก์ผิดสัญญาในสาระสำคัญ 2 ประการ คือ ประการแรกเกี่ยวกับใบหน้าของนางแบบ โจทก์หานางแบบชาวต่างประเทศไม่ได้ จำเลยจึงยอมรับนางแบบคนไทยเพราะโจทก์รับรองว่าจะใช้เทคนิคในการแต่งหน้าและการถ่าย ทำให้ดู เป็นปริศนาว่าเป็นชาวต่างประเทศ และจำเลยต้องการให้เห็นหน้าเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ผลการถ่ายทำภาพยนตร์ของโจทก์เห็นใบหน้าของนางแบบชัดเจน รู้ได้ว่าเป็นคนไทย คุ้นหน้าแก่บุคคลทั่วไปเคยแสดงแบบในนิตยสารมาก่อน ประการที่สองฉากภาพยนตร์ซึ่งแสดงความสนใจที่ นายแบบมีต่อนางแบบ ภาพสะท้อนจากเลนส์ แว่นตา ของนายแบบคือช่วงขาของนางแบบซึ่งสวมถุงน่องอันเป็นสินค้าที่โฆษณา ปรากฏว่าขาของนางแบบโค้งงอ ไม่น่าดู ดังนี้ ตามธรรมดาถ้าใบหน้านางแบบสวย น่าดู เป็นผู้มีชื่อ เสียง เคยแสดงแบบในนิตยสารเป็นที่คุ้น หน้าแก่บุคคลทั่วไป ก็น่าจะทำให้การโฆษณาสินค้าของจำเลยดีกว่านางแบบที่คนไม่เคยรู้จักหน้า ทั้งจำเลยเป็นผู้เลือกนางแบบเองด้วย ไม่ปรากฏว่าการเห็นใบหน้านางแบบชัดเจนจะทำให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด จึงไม่ใช่สาระสำคัญ ส่วนข้อที่ว่าภาพขานางแบบโค้งงอ ไม่น่าดูปรากฏว่าฉาก ขานางแบบซึ่งปรากฏในเลนส์ แว่นตา ของนางแบบระยะเวลาสั้นมากทำให้ผู้ดู มองไม่ออกว่าขานางแบบโค้งงอ แสดงว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขแล้ว แม้จะเห็นในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ดีกว่าถ่าย ทำใหม่ให้เห็นในระยะเวลานานแต่สิ้นค่าใช้จ่ายสูง ถือได้ว่าเป็นข้อบกพร่องเล็กน้อยเท่านั้น โจทก์มิได้ผิดสัญญาจำเลยจะปฏิเสธไม่รับงานและไม่ชำระสินจ้างไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทำผลงาน ภาพยนตร์โฆษณา ความผิดสัญญา สาระสำคัญ การปฏิเสธงาน
จำเลยอ้างเหตุปฏิเสธไม่ยอมรับงานที่จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้สร้างและจัดทำภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์เพื่อโฆษณาถุงน่องสตรีเพราะโจทก์ผิดสัญญาในสาระสำคัญ 2 ประการคือประการแรกเกี่ยวกับใบหน้าของนางแบบ โจทก์หานางแบบชาวต่างประเทศไม่ได้ จำเลยจึงยอมรับนางแบบคนไทยเพราะโจทก์รับรองว่าจะใช้เทคนิคในการแต่งหน้าและการถ่ายทำให้ดูเป็นปริศนาว่าเป็นชาวต่างประเทศ และจำเลยต้องการให้เห็นหน้าเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ผลการถ่ายทำภาพยนตร์ของโจทก์เห็นใบหน้าของนางแบบชัดเจน รู้ได้ว่าเป็นคนไทยคุ้นหน้าแก่บุคคลทั่วไป เคยแสดงแบบในนิตยสารมาก่อน ประการที่สองฉากภาพยนตร์ซึ่งแสดงความสนใจที่นายแบบมีต่อนางแบบ ภาพสะท้อนจากเลนซ์แว่นตาของนายแบบคือช่วงขาของนางแบบซึ่งสวมถุงน่องอันเป็นสินค้าที่โฆษณา ปรากฏว่าขาของนางแบบโค้งงอไม่น่าดู ดังนี้ ตามธรรมดาถ้าใบหน้านางแบบสวยน่าดู เป็นผู้มีชื่อเสียง เคยแสดงแบบในนิตยสารเป็นที่คุ้นหน้าแก่บุคคลทั่วไป ก็น่าจะทำให้การโฆษณาสินค้าของจำเลยดีกว่านางแบบที่คนไม่เคยรู้จักหน้า ทั้งจำเลยเป็นผู้เลือกนางแบบเองด้วย ไม่ปรากฏว่าการเห็นใบหน้านางแบบชัดเจนจะทำให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด จึงไม่ใช่ข้อสาระสำคัญ ส่วนข้อที่ว่าภาพขานางแบบโค้งงอไม่น่าดู ปรากฏว่าฉากขานางแบบซึ่งปรากฏในเลนซ์แว่นตาของนายแบบระยะเวลาสั้นมาก ทำให้ผู้ดูมองไม่ออกว่าขานางแบบโค้งงอ แสดงว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขแล้ว แม้จะเห็นในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ดีกว่าถ่ายทำใหม่ให้เห็นในระยะเวลานานแต่สิ้นค่าใช้จ่ายสูง ถือได้ว่าเป็นข้อบกพร่องเล็กน้อยเท่านั้น โจทก์มิได้ผิดสัญญา จำเลยจะปฏิเสธไม่รับงานและไม่ชำระสินจ้างไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญญาจ้างสร้างภาพยนตร์โฆษณา การปฏิเสธงานต้องมีเหตุผลอันสมควร หากไม่มีความเสียหายชัดเจน ผู้รับจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้าง
จำเลยอ้างเหตุปฏิเสธไม่ยอมรับงานที่จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้สร้างและจัดทำภาพยนตร์โฆษณาทาง โทรทัศน์ เพื่อโฆษณาถุงน่องสตรีเพราะโจทก์ผิดสัญญาในสาระสำคัญ 2 ประการ คือประการแรกเกี่ยวกับใบหน้าของนางแบบ โจทก์หานางแบบชาวต่างประเทศไม่ได้ จำเลยจึงยอมรับนางแบบคนไทยเพราะโจทก์รับรองว่าจะใช้เทคนิคในการแต่งหน้าและการถ่ายทำให้ดูเป็นปริศนาว่าเป็นชาวต่างประเทศ และจำเลยต้องการให้เห็นหน้าเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ผลการถ่ายทำภาพยนตร์ของโจทก์เห็นใบหน้าของนางแบบชัดเจน รู้ได้ว่าเป็นคนไทยคุ้น หน้าแก่บุคคลทั่วไปเคยแสดงแบบในนิตยสารมาก่อน ประการที่สองฉาก ภาพยนตร์ซึ่งแสดงความสนใจที่ นาย แบบมีต่อนางแบบ ภาพสะท้อนจากเลนซ์ แว่นตา ของนายแบบคือช่วงขาของนางแบบซึ่งสวมถุงน่องอันเป็นสินค้าที่โฆษณา ปรากฏว่าขาของนางแบบโค้งงอ ไม่น่าดู ดังนี้ ตามธรรมดาถ้าใบหน้านางแบบสวย น่าดูเป็นผู้มีชื่อเสียง เคยแสดงแบบในนิตยสารเป็นที่คุ้น หน้าแก่บุคคลทั่วไป ก็น่าจะทำให้การโฆษณาสินค้าของจำเลยดีกว่านางแบบที่คนไม่เคยรู้จักหน้า ทั้งจำเลยเป็นผู้เลือกนางแบบเองด้วยไม่ปรากฏว่าการเห็นใบหน้านางแบบชัดเจนจะทำให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด จึงไม่ใช่ข้อสาระสำคัญ ส่วนข้อที่ว่าภาพขานางแบบโค้งงอไม่น่าดู ปรากฏว่าฉาก ขานางแบบซึ่งปรากฏในเลนซ์ แว่นตา ของนายแบบระยะเวลาสั้นมาก ทำให้ผู้ดูมองไม่ออกว่าขานางแบบโค้งงอ แสดงว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขแล้ว แม้จะเห็นในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ดีกว่าถ่ายทำใหม่ให้เห็นในระยะเวลานานแต่สิ้นค่าใช้จ่ายสูง ถือได้ว่าเป็นข้อบกพร่องเล็กน้อยเท่านั้น โจทก์มิได้ผิดสัญญา จำเลยจะปฏิเสธไม่รับงานและไม่ชำระสินจ้างไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5952/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้บางส่วนและการคิดดอกเบี้ย: โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยแม้จำเลยเสนอชำระหนี้บางส่วนไม่ได้
จำเลยทั้งสองค้างชำระค่าสินค้าแก่โจทก์ 161,973.60 บาท หนี้ครบกำหนดชำระแล้ว จำเลยที่ 1 จะบังคับให้โจทก์รับชำระหนี้แต่เพียงบางส่วน 65,331 บาท ไม่ได้ การที่โจทก์ไม่ยอมรับชำระจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ผิดนัด โจทก์คงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในต้น เงิน 65,331บาท จากจำเลยทั้งสองได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5952/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้บางส่วนไม่ครบถ้วนและการคิดดอกเบี้ย: โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากยอดหนี้ทั้งหมด แม้จำเลยจะเสนอชำระบางส่วน
จำเลยทั้งสองค้างชำระค่าสินค้าแก่โจทก์ 161,973.60 บาท หนี้ครบกำหนดชำระแล้ว จำเลยที่ 1 จะบังคับให้โจทก์รับชำระหนี้แต่เพียงบางส่วน 65,331 บาท ไม่ได้ การที่โจทก์ไม่ยอมรับชำระจึงถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ผิดนัด โจทก์คงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในต้น เงิน 65,331 บาท จากจำเลยทั้งสองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3517/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยรถแทรกเตอร์ ไม่ใช่การหักกลบลบหนี้ ศาลฎีกาตัดสินประเด็นนอกกรอบ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ส่งมอบรถแทรกเตอร์ชำระหนี้ให้โจทก์แล้ว ซึ่งศาลชั้นต้นก็ได้กำหนดประเด็นไว้เพียงว่า จำเลยได้เอารถแทรกเตอร์ตีใช้หนี้ตามฟ้อง หนี้ระงับแล้วหรือไม่ ประเด็นแห่งคดีจึงเป็นเรื่องมีการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องหักกลบลบหนี้ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเป็นเรื่องหักกลบลบหนี้จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในการซื้อขายตั๋วเครื่องบิน: การคิดราคาตามอัตราปัจจุบันเมื่อรับชำระเป็นเงินบาท
โจทก์เป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบินของจำเลย จำเลยได้กำหนดราคาตั๋วโดยสารในเส้นทางกรุงเทพมหานคร - ฮ่องกง เป็นเงินเหรียญสหรัฐ เมื่อโจทก์รับเงินค่าขายเป็นเงินบาท จึงต้องคิดในอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้อยู่ในขณะนั้น ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 196 วรรคสอง
โจทก์ร่วมได้ออกหนังสือค้ำประกันความรับผิดของโจทก์ในการเป็นตัวแทนให้แก่จำเลย เมื่อโจทก์ชำระหนี้ให้แก่จำเลยเพียงบางส่วน จำเลยจึงมีสิทธิปฏิเสธไม่ยอมรับชำระหนี้ และมีสิทธิเรียกร้องบังคับเอากับโจทก์ร่วมตามพันธะแห่งสัญญาค้ำประกันที่มีต่อจำเลย.
โจทก์ร่วมได้ออกหนังสือค้ำประกันความรับผิดของโจทก์ในการเป็นตัวแทนให้แก่จำเลย เมื่อโจทก์ชำระหนี้ให้แก่จำเลยเพียงบางส่วน จำเลยจึงมีสิทธิปฏิเสธไม่ยอมรับชำระหนี้ และมีสิทธิเรียกร้องบังคับเอากับโจทก์ร่วมตามพันธะแห่งสัญญาค้ำประกันที่มีต่อจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในการซื้อขายตั๋วเครื่องบิน การคิดราคาตามอัตราปัจจุบัน และสัญญาค้ำประกัน
โจทก์เป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบินของจำเลย จำเลยได้กำหนดราคาตั๋วโดยสารในเส้นทางกรุงเทพมหานคร - ฮ่องกง เป็นเงินเหรียญสหรัฐ เมื่อโจทก์รับเงินค่าขายเป็นเงินบาท จึงต้องคิดในอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้อยู่ในขณะนั้น ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 196 วรรคสอง
โจทก์ร่วมได้ออกหนังสือค้ำประกันความรับผิดของโจทก์ในการเป็นตัวแทนให้แก่จำเลย เมื่อโจทก์ชำระหนี้ให้แก่จำเลยเพียงบางส่วน จำเลยจึงมีสิทธิปฏิเสธไม่ยอมรับชำระหนี้ และมีสิทธิเรียกร้องบังคับเอากับโจทก์ร่วมตามพันธะแห่งสัญญาค้ำประกันที่มีต่อจำเลย
โจทก์ร่วมได้ออกหนังสือค้ำประกันความรับผิดของโจทก์ในการเป็นตัวแทนให้แก่จำเลย เมื่อโจทก์ชำระหนี้ให้แก่จำเลยเพียงบางส่วน จำเลยจึงมีสิทธิปฏิเสธไม่ยอมรับชำระหนี้ และมีสิทธิเรียกร้องบังคับเอากับโจทก์ร่วมตามพันธะแห่งสัญญาค้ำประกันที่มีต่อจำเลย