คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนธา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 825 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการลงโทษตามฟ้อง: ศาลต้องลงโทษตามบทที่โจทก์อ้างเท่านั้น แม้ข้อเท็จจริงจะเข้าบทอื่นได้
โจทก์บรรยายความผิดเข้าตาม ม.164 แต่อ้างบทลงโทษตาม ม.163 ศาลจะลงโทษจำเลยตาม ม.164 ไม่ได้ เพราะเป็นการเกินคำขอ อ้างฎีกาที่ 368/2480

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจาก พ.ร.บ.กักกัน ผู้กระทำผิดก่อนมีผลใช้บังคับ
คำผิดก่อนใช้ พ.ร.บ.กักกันจะลงโทษตาม พ.ร.บ.กักกันไม่ได้อ้างฎีกาที่ 704/2480

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 238/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กำลังจับกุมและการควบคุมตัวผู้ต้องหาเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
ตำรวจสองคนเข้าจับผู้ลักลอบจับสัตว์น้ำในเขตต์หวงห้าม ผู้ถูกจับไม่ยอมให้จับ เกิดปลุกปล้ำกัน ผู้ใหญ่บ้านเข้าช่วยจับโดยใช้ไม้ตีศีร์ษะ ผู้ถูกจับ 1 ที ศีร์ษะแตกจึงจับตัวได้ดังนี้ เป็นการใช้กำลังพอสมควรแก่พฤตติการณ์ ผู้ใหญ่บ้านไม่มีผิด
ตำรวจจับผู้กระทำผิดควบคุมไว้ 25 ชั่วโมง จึงนำส่งสถานีตำรวจเป็นการนานเกินสมควรต้องมีผิดตาม ม.270

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์: การพิจารณาความแตกต่างระหว่างการปล้นและการวิวาท
ฟ้องว่าจำเลยปล้นและทำร้ายเจ้าทรัพย์บาดเจ็บขอให้ลงโทษตาม ม.301 จำเลยรับว่าทำร้ายเจ้าทรัพย์บาดเจ็บแต่ไม่ได้ปล้น ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยปล้น ศาลตัดสินยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินเพื่อได้กรรมสิทธิ: ระยะเวลาการครอบครองและการละทิ้งที่ดิน
ละทิ้งที่สวนซึ่งยังไม่มีโฉนดต้องละทิ้งไป 9 ปี 10 ปี จึงจะขาดกรรมสิทธิอ้างฎีกาที่ 447,448/2471 การครอบครองอันเป็นเหตุให้ได้กรรมสิทธิจะเป็นที่มีหรือไม่มีหนังสือสำคัญก็ดีต้องมีกำหนดระยะเวลา 10 ปี ตาม ม.1382 อ้างฎีกาที่ 244/2480 ที่ดินซึ่งเจ้าของมีกรรมสิทธินั้น จะอ้าง ม.1375 มาตัดฟ้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญานายหน้าเลิกกันแล้ว เมื่อจำเลยเปลี่ยนรูปที่ดินและโจทก์ทราบการมีนายหน้าใหม่
จำเลยทำสัญญาให้โจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินโดยให้ค่านายหน้าร้อยละ 5 และส่วนที่ขายได้เกินตารางวาละ 2.75 บาท ให้เป็นของโจทก์ด้วย แต่ถ้าจำเลยขายได้เองหรือมีผู้นำเอาไปขายให้ได้แล้วสัญญานี้เป็นระงับทำสัญญาแล้วได้ 8 เดือน โจทก์ก็ยังขายไม่ได้จำเลยจึงแบ่งที่ออกเป็น 10 แปลง แล้วมีผู้อื่นมารับเป็นนายหน้าขายที่ดินไปได้ 8 แปลง โดยโจทก์ก็ทราบดังนี้ สัญญานายหน้าระหว่างโจทก์จำเลยเป็นอันระงับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีมรดกเนื่องจากไม่มีผู้รับมรดกความ และทายาทสละสิทธิ
จำเลยยื่นฎีกาทั้งในฐานะส่วนตัวและผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร์ จำเลยตายในระหว่างฎีกา ภริยาของจำเลยซึ่งเป็นทายาทผู้ใหญ่คนเดียวและเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร์เหล่านั้นแถลงไม่ขอรับมฤดกความ ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดี
(หมายเหตุ คดีนี้เป็นเรื่องจำเลยเถียงว่าตามพินัยกรรมตกได้แก่บุตร์ 8 คน ภริยาผู้ตายก็เป็นมารดาเด็กทั้ง 8 คน ไม่มีใครจะมาขอรับมฤดกความได้ ศาลฎีกาจึงจำหน่ายคดีโดยไม่ต้องรอ 1 ปีตาม ม.42)
จำหน่ายคดีเพราะไม่มีผู้รับมฤดกความนั้น ศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลยพินิจศาลในการอนุญาตแก้ฟ้องอาญา: การไม่อนุญาตแก้ฟ้องเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามฎีกา
การจะขออนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องหรือไม่นั้น เป็นดุลยพินิจของศาลซึ่งเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง
โจทก์ขอแก้ฟ้องศาลชั้นต้นไม่อนุญาตแล้วพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์คงพิพากษายืนตามดังนี้โจทก์จะฎีกาในปัญหาข้อนี้มิได้ต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับ เพราะโจทก์ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีพิจารณาความอาญา
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกามิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงเมื่อมีการอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย และการพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ในคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์ ๆ ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายได้
ถ้ามีอุทธรณ์แต่ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงใดที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ชี้ขาดมาได้หรือไม่
(หมายเหตุ คดีนี้ศาลอุทธรณ์จะมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงได้หรือไม่ ศาลฎีกาไม่ชี้ขาด ศาลฎีกาชี้ขาดเพียงว่าข้ออุทธรณ์ของจำเลยอ้างข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคำพิพากษาศาลชั้น ข้อฎีกาของจำเลยจึงตกไป)
of 83