พบผลลัพธ์ทั้งหมด 78 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขาย: การตีความสัญญาจากข้อความในฟ้องและหลักฐานที่อ้างอิง
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ตกลงซื้อนาจากจำเลย ชำระราคาแล้ว และเข้าครอบครองตลอดมา หลักฐานการจะซื้อขายอยู่ที่ทำการสหกรณ์ ยังไม่ได้โอนกันตามระเบียบ จึงฟ้องขอให้จำเลยโอนขาย ฟ้องดังนี้ตีความได้ว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลย เป็นสัญญาจะซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาจะซื้อขายที่ยังมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ตกลงซื้อนาจากจำเลย ชำระราคาแล้ว และเข้าครอบครองตลอดมา หลักฐานการจะซื้อขายอยู่ที่ทำการสหกรณ์ ยังไม่ได้โอนกันตามระเบียบ จึงฟ้องขอให้จำเลยโอนขาย ฟ้องดังนี้ตีความได้ว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลย เป็นสัญญาจะซื้อขาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายแยกจากจำนอง ย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้
จำเลยทำสัญญาจำนองที่พิพาทไว้กับโจทก์ แต่จำเลยไม่มีความสามารถจะไถ่ จึงทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้แก่โจทก์ ดังนี้ สัญญาจะซื้อขายเป็นนิติกรรมอีกอันหนึ่งต่างหากจากสัญญาจำนอง ไม่เกี่ยวกันย่อมสมบูรณ์ ใช้ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายแยกจากจำนอง: สัญญาจะซื้อขายสมบูรณ์ใช้บังคับได้ แม้มีสัญญาจำนองอยู่ก่อน
จำเลยทำสัญญาจำนองที่พิพาทไว้กับโจทก์ แต่จำเลยไม่มีความสามารถจะไถ่ จึงทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้แก่โจทก์ ดังนี้ สัญญาจะซื้อขายเป็นนิติกรรมอีกอันหนึ่งต่างหาก จากสัญญาจำนองไม่เกี่ยวกัน ย่อมสมบูรณ์ ใช้ได้ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายเรือนเพื่อรื้อถอน ไม่ต้องจดทะเบียนก็สมบูรณ์ หากผู้ซื้อสุจริตและเจ้าของร่วมยินยอม
ซื้อเรือนเพื่อรื้อไป ไม่จำต้องทำสัญญาจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็สมบูรณ์
เจ้าของร่วมคนหนึ่งทำสัญญาขายทรัพย์ให้แก่เขา เขาซื้อไว้โดยสุจริตเมื่อปรากฏว่าเจ้าของร่วมคนอื่นๆ ได้รู้เห็นยินยอมในการซื้อขายนั้นด้วยการซื้อขายย่อมสมบูรณ์และผู้ซื้อได้ทรัพย์นั้นเป็นกรรมสิทธิ์
เจ้าของร่วมคนหนึ่งทำสัญญาขายทรัพย์ให้แก่เขา เขาซื้อไว้โดยสุจริตเมื่อปรากฏว่าเจ้าของร่วมคนอื่นๆ ได้รู้เห็นยินยอมในการซื้อขายนั้นด้วยการซื้อขายย่อมสมบูรณ์และผู้ซื้อได้ทรัพย์นั้นเป็นกรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเสนอซื้อขายที่ไม่สมบูรณ์ และการไม่มีเจตนาผูกพันตามสัญญา
คำเสนอที่มีข้อความว่า มีประสงค์จะซื้อแร่ 60 ตัน วันนี้เพียง 10 ตันนั้น ถือว่าเป็นคำเสนอขอซื้อ 10 ตันส่วนอีก 60 ตันเป็นเพียงคำปรารภไม่ใช่คำเสนอและไม่ใช่คำมั่นจะซื้อ
มีหนังสือเสนอซื้อแร่ในวันนั้นฝ่ายผู้ขายก็สนองรับขายในวันนั้นถือว่าว่าเป็นคำเสนอแก่ผู้อยู่ฉะเพาะหน้า ซึ่งจะสนองรับนั้นเวลานั้นเท่านั้น คำเสนอในส่วนที่ไม่สนองรับก็ย่อมเป็นผล
ฝ่ายผู้ขายมีหนังสือถึงฝ่ายผู้ซื้อว่าตามที่ตกลงขายแร่ให้ ส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะรับเมื่อไรซึ่งความจริงไม่มีการเสนอสนองค่าสัญญาในแร่ส่วนนี้ ดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นคำสนอง เป็นแต่กล่าวอ้างถึงสิ่งซึ่งไม่มีและในกรณีคำเสนออยู่ก่อน ก็ย่อมทำให้กลายเป็นคำสนองขึ้นใหม่ตาม ม.359 ไม่ได้
คน 1 บอกขายทรัพย์อีกคน 1 บอกว่าเต็มใจซื้อ แต่มีอุปสรรคการนอกฟ้องนอกประเด็น จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์
มีหนังสือเสนอซื้อแร่ในวันนั้นฝ่ายผู้ขายก็สนองรับขายในวันนั้นถือว่าว่าเป็นคำเสนอแก่ผู้อยู่ฉะเพาะหน้า ซึ่งจะสนองรับนั้นเวลานั้นเท่านั้น คำเสนอในส่วนที่ไม่สนองรับก็ย่อมเป็นผล
ฝ่ายผู้ขายมีหนังสือถึงฝ่ายผู้ซื้อว่าตามที่ตกลงขายแร่ให้ ส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะรับเมื่อไรซึ่งความจริงไม่มีการเสนอสนองค่าสัญญาในแร่ส่วนนี้ ดังนี้ ไม่ถือว่าเป็นคำสนอง เป็นแต่กล่าวอ้างถึงสิ่งซึ่งไม่มีและในกรณีคำเสนออยู่ก่อน ก็ย่อมทำให้กลายเป็นคำสนองขึ้นใหม่ตาม ม.359 ไม่ได้
คน 1 บอกขายทรัพย์อีกคน 1 บอกว่าเต็มใจซื้อ แต่มีอุปสรรคการนอกฟ้องนอกประเด็น จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเสนอซื้อขายเฉพาะหน้าและผลของการไม่สนองรับ รวมถึงการเสนอซื้อใหม่
คำเสนอที่มีข้อความว่า มีความประสงค์จะซื้อแร่ 60 ตัน แต่จะซื้อวันนี้เพียง 10 ตันนั้นถือว่าเป็นคำเสนอขอซื้อ 10 ตัน ส่วนอีก 50 ตันเป็นเพียงคำปรารภไม่ใช่คำเสนอและไม่ใช่คำมั่นจะซื้อ
มีหนังสือเสนอซื้อแร่ในวันนั้น ฝ่ายผู้ขายก็สนองรับขายในวันนั้นถือว่าเป็นคำเสนอแก่ผู้อยู่เฉพาะหน้า ซึ่งจะสนองรับได้แต่ ณ ที่นั้นเวลานั้นเท่านั้น คำเสนอในส่วนที่ไม่สนองรับก็ย่อมสิ้นผล
ฝ่ายผู้ขายมีหนังสือถึงฝ่ายผู้ซื้อว่าตามที่ตกลงขายแร่ให้ส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะมารับเมื่อไร ซึ่งความจริงไม่มีการเสนอสนองทำสัญญาในแร่ส่วนนี้ ดั่งนี้ ไม่ถือว่าเป็นคำสนอง เป็นแต่กล่าวอ้างถึงสิ่งซึ่งไม่มีและในกรณีที่มีคำเสนออยู่ก่อน ก็ย่อมทำให้กลายเป็นคำเสนอขึ้นใหม่ตาม มาตรา 359 ไม่ได้
คนหนึ่งบอกขายทรัพย์อีกคนหนึ่งบอกว่า เต็มใจซื้อ แต่มีอุปสรรคหรือยังไม่มีเงินนั้น ไม่ถือว่าเป็นคำสนอง
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายกันในเดือนกันยายนศาลจะตัดสินว่าทำสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยเกิดขึ้นในเดือนอื่นไม่ได้เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น
มีหนังสือเสนอซื้อแร่ในวันนั้น ฝ่ายผู้ขายก็สนองรับขายในวันนั้นถือว่าเป็นคำเสนอแก่ผู้อยู่เฉพาะหน้า ซึ่งจะสนองรับได้แต่ ณ ที่นั้นเวลานั้นเท่านั้น คำเสนอในส่วนที่ไม่สนองรับก็ย่อมสิ้นผล
ฝ่ายผู้ขายมีหนังสือถึงฝ่ายผู้ซื้อว่าตามที่ตกลงขายแร่ให้ส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะมารับเมื่อไร ซึ่งความจริงไม่มีการเสนอสนองทำสัญญาในแร่ส่วนนี้ ดั่งนี้ ไม่ถือว่าเป็นคำสนอง เป็นแต่กล่าวอ้างถึงสิ่งซึ่งไม่มีและในกรณีที่มีคำเสนออยู่ก่อน ก็ย่อมทำให้กลายเป็นคำเสนอขึ้นใหม่ตาม มาตรา 359 ไม่ได้
คนหนึ่งบอกขายทรัพย์อีกคนหนึ่งบอกว่า เต็มใจซื้อ แต่มีอุปสรรคหรือยังไม่มีเงินนั้น ไม่ถือว่าเป็นคำสนอง
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายกันในเดือนกันยายนศาลจะตัดสินว่าทำสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยเกิดขึ้นในเดือนอื่นไม่ได้เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ที่ดินแม้เวลาล่วงเลย: สัญญาให้ไถ่ได้ย่อมไม่ขาดอายุความ ตราบเท่าที่ผู้ให้จำนองยังไม่ได้ฟ้องบังคับคดี
มอบที่นาให้ผู้ให้กู้โดยมีข้อสัญญาว่า ถ้าไม่ไถ่ในกำหนด ให้หลุดเป็นสิทธิแก่ผู้ให้กู้แต่ถ้าผู้กู้มีเงินมาไถ่ก็ยอมให้ไถ่ ดังนี้แม้เวลาล่วงเลยมากว่า 10 ปี ผู้กู้ก็ขอไถ่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการไถ่ที่ดินแม้เวลาล่วงเลยนาน สัญญาไม่ระงับสิทธิของผู้กู้
มอบที่นาให้ผู้ให้กู้โดยมีข้อสัญญาว่า ถ้าไม่ไถ่ในกำหนด ให้หลุดเป็นสิทธิ์แก่ผู้ให้กู้ แต่ถ้าผู้กู้มีเงินมาไถ่ก็ยอมให้ไถ่ดังนี้ แม้เวลาล่วงเลยมากว่า10 ปี ผู้กู้ก็ขอไถ่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน vs. สัญญาเช่าซื้อ: การขาดอายุความฟ้องร้อง
ตามสัญญากล่าวว่า "ผู้เช่าซื้อยอมให้ผู้ให้เช่าเรียกร้องราคาที่นาเมื่อหนึ่งเมื่อใดได้ ในเมื่อผู้ให้เช่าต้องการ" เช่นนี้ไม่ได้ตกลงกันว่าจะใช้เงินกันเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว ไม่เป็นสัญญาเช่าซื้อ แต่เป็นสัญญาจะซื้อขาย
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมฤดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปีย่อมขาดอายุความ
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมฤดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปีย่อมขาดอายุความ