พบผลลัพธ์ทั้งหมด 31 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2658/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษเกินคำขอในคดีอาญา: ศาลต้องลงโทษตามฟ้องเท่านั้น แม้ข้อเท็จจริงหนักกว่า
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนขู่ ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนยิงแม้ข้อเท็จจริงจะได้ความว่า จำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนยิงในการปล้นทรัพย์ด้วย ก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิง ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกหนักกว่าอัตราโทษจำคุกฐานปล้นทรัพย์ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องไม่ได้เพราะเป็นการเกินคำขอและโจทก์มิได้กล่าวในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1829/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กฎหมายอาญาในอดีตและปัจจุบัน กรณีโทษเบากว่าเดิม คดีปล้นทรัพย์
ขณะที่จำเลยกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิง ยังไม่มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ออกใช้บังคับ การกระทำอันมีองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรีฯลฯ นั้น ยังไม่มีกฎหมายกำหนดโทษให้หนักขึ้นในขณะจำเลยกระทำผิดโจทก์ย่อมขอให้ศาลใช้มาตรา 340 ตรี เป็นบทลงโทษหรือนำไปประกอบมาตรา 340 วรรค 4 เพื่อให้โทษหนักขึ้นมิได้ คงได้แต่ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4 เดิม ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะกระทำผิด แต่เมื่อปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาได้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ออกใช้บังคับ ข้อ 14 ประกาศนี้แก้ไขโทษของมาตรา 340 วรรค 4 เดิมให้เบาลงก็ต้องใช้มาตรา 340 วรรค 4 ตามที่แก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 14 บังคับแก่คดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 โจทก์จะอ้างว่าโทษตามมาตรา 340 วรรค 4 ที่แก้ไขใหม่โดยประกาศข้อ 14 ให้เพิ่มขึ้นกึ่งหนึ่งตามมาตรา 340 ตรี. ที่บัญญัติเพิ่มเติมขึ้นโดยข้อ 15 คำนวณโทษแล้วมีอัตราหนักกว่ามาตรา 340 วรรค 4 เดิม มาตรา 340 วรรค 4 ประกอบด้วยมาตรา 340 ตรี ที่แก้ไขใหม่นั้นไม่เป็นคุณแก่จำเลย จะต้องวางโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 เดิม ดังนี้ หาถูกต้องไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1381/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับบทกฎหมายอาญาตามประกาศคณะปฏิวัติเมื่อมีกฎหมายใหม่ที่เป็นคุณแก่จำเลย แม้จำเลยอื่นไม่ได้ฎีกา ก็มีผลถึงทุกคน
ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำเลย 4 คน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4 จำเลยคนหนึ่งฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่าง แต่เมื่อคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11ออกใช้บังคับ ข้อ 14 ของประกาศดังกล่าวได้แก้ไขอัตราโทษของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 ให้เบาลง ซึ่งเป็นกฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลย จึงต้องนำประกาศของคณะปฏิวัติมาใช้แก่จำเลย และเมื่อศาลฎีกาพิพากษาแก้บทเป็นให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา340 วรรค 4 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 14 ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ตลอดไปถึงจำเลยอีก 3 คนที่ไม่ได้ฎีกาด้วยได้ เพราะเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปล้นทรัพย์ด้วยความรุนแรงและการแก้ไขโทษโดยประกาศคณะปฏิวัติ ศาลฎีกาพิพากษากลับตามรูปคดี
จำเลยทั้งสองกับพวกใช้ปืนขู่เอาช้าง 2เชือกจากควาญช้าง แล้วบังคับให้ควาญช้าง 2 คนนั้นขี่ช้าง คนละเชือกจำเลยทั้งสองไล่ช้างให้เดินไป เมื่อไปได้ 2 กิโลเมตร จำเลยทั้งสองกับพวกให้ควาญช้างล่ามช้างไว้กับต้นไม้ จำเลยที่ 2 ใช้ผ้าขาวม้ามัดข้อมือควาญช้างทั้งสองคนติดกัน พวกของจำเลยคนหนึ่งใช้ปืนยิงช้างทีละเชือกเมื่อช้างตายจำเลยทั้งสองกับพวกใช้มีดชำแหละเอางาช้างไป การกระทำของจำเลยทั้งสองกับพวกเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4
เมื่อปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ออกใช้บังคับ โดยข้อ 14ของประกาศดังกล่าวได้แก้ไขเพิ่มเติมให้ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 มีโทษเบากว่าเดิมศาลฎีกาต้องลงโทษจำเลยตามประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว
เมื่อปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ออกใช้บังคับ โดยข้อ 14ของประกาศดังกล่าวได้แก้ไขเพิ่มเติมให้ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 มีโทษเบากว่าเดิมศาลฎีกาต้องลงโทษจำเลยตามประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับลดโทษอาญาตามกฎหมายใหม่ที่ใช้บังคับระหว่างพิจารณาคดี
ในระหว่างพิจารณาคดีนี้ของศาลฎีกาได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ออกใช้บังคับข้อ 14 ของประกาศดังกล่าวแก้ไขเพิ่มเติมให้ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 มีโทษเบากว่าเดิม ศาลฎีกาต้องใช้กฎหมายใหม่นี้ลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับบทลงโทษตามกฎหมายใหม่ที่มีโทษเบากว่าหลังกระทำผิด โดยอาศัยหลักกฎหมายที่ให้ใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลย
เมื่อตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทำผิด ข้อ 14 ในส่วนที่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4 ได้แก้ไขใหม่ให้ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี ซึ่งมีระวางโทษเบากว่าระวางโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4 เดิม ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกยี่สิบปี ในการลงโทษจำเลยสำหรับความผิดตามวรรคนี้จึงต้องปรับบทลงโทษจำเลยตาม มาตรา 340 วรรค 4 ที่แก้ไขใหม่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 3ซึ่งบัญญัติให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงปืนเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมหลังปล้นทรัพย์ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคสี่
จำเลยได้ทำการปล้นทรัพย์ แล้วได้พากันหนีไปห่างที่เกิดเหตุประมาณ 2 เส้น เห็นคนเดินสวนทางมา จำเลยจึงได้ยิงปืนขึ้น 1 นัด เป็นการยิงเพื่อให้พ้นจากการจับกุม เป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่ขาดตอนกับการปล้นการกระทำของจำเลยจึงผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์และการจำกัดความรับผิดฐานพยายามฆ่าเมื่อไม่ได้มีเจตนาฆ่าร่วมกัน
จำเลยกับพวกสมคบกันไปปล้นผู้โดยสารรถยนต์ประจำทาง. มิได้สมคบกันไปฆ่า. เมื่อพวกของจำเลยคนหนึ่งไปยิงผู้โดยสารที่ถูกปล้นบาดเจ็บสาหัส. โดยจำเลยไม่ได้เป็นผู้ยิงจะปรับเป็นความผิดของจำเลยฐานพยายามฆ่าคนด้วยไม่ได้. จำเลยคงมีความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา340 วรรคสี่ เท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์และการพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าเมื่อไม่ได้มีเจตนาฆ่าร่วมกัน
จำเลยกับพวกสมคบกันไปปล้นผู้โดยสารรถยนต์ประจำทางมิได้สมคบกันไปฆ่า เมื่อพวกของจำเลยคนหนึ่งไปยิงผู้โดยสารที่ถูกปล้นบาดเจ็บสาหัส โดยจำเลยไม่ได้เป็นผู้ยิงจะปรับเป็นความผิดของจำเลยฐานพยายามฆ่าคนด้วยไม่ได้จำเลยคงมีความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์และการตายของเหยื่อ การพิสูจน์ความต่อเนื่องของการกระทำผิดเพื่อลงโทษตามมาตรา 340 วรรคท้าย
คนร้าย ตี ถีบ เตะ เจ้าทรัพย์และยิงปืนขณะทำการปล้นทรัพย์ แล้วคุมตัวเจ้าทรัพย์ให้ไปส่งเมื่อถึงไร่ห่างบ้านเจ้าทรัพย์ประมาณ 40 เส้น คนร้ายยิงเจ้าทรัพย์ถึงแก่ความตายเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเจ้าทรัพย์ มิได้ถูกจำเลยซึ่งเป็นคนร้ายกับพวกยิงตายในขณะปล้นแต่เพิ่งจะไป ถูกยิงตายต่างตำบลต่างอำเภอกับที่เกิดเหตุ ห่างไกลถึง 40 เส้น เช่นนี้ การที่เจ้าทรัพย์ถูกยิงตายนั้นมิใช่เป็นการต่อเนื่องกับการปล้น หรือเป็นผลซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมดาจากการปล้นทรัพย์การปล้นทรัพย์ ได้ขาดตอนไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ ไม่ใช่วรรคท้าย