คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 167

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 143 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1960/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตคำพิพากษาศาลฎีกา: ค่าธรรมเนียมศาลฎีกาและการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องและให้โจทก์ใช้ค่าธรรมเนียมค่าทนายแทนจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้โจทก์ชนะคดี จำเลยฎีกา ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และให้โจทก์เสียค่าทนายในชั้นศาลอุทธรณ์และศาลฎีการวมสามพันบาทแทนจำเลย ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าวแล้ว แปลไม่ได้ว่า ศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าธรรมเนียมชั้นศาลฎีกาแทนจำเลยด้วย แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายแพ้คดี
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1960/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตคำพิพากษาศาลฎีกา: ค่าธรรมเนียม/ค่าทนาย ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาเฉพาะสิ่งที่ถูกอุทธรณ์/ฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องและให้โจทก์ใช้ค่าธรรมเนียมค่าทนายแทนจำเลย. ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้โจทก์ชนะคดี. จำเลยฎีกา ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น. และให้โจทก์เสียค่าทนายในชั้นศาลอุทธรณ์และศาลฎีการวมสามพันบาทแทนจำเลย. ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าวแล้ว แปลไม่ได้ว่า.ศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าธรรมเนียมชั้นศาลฎีกาแทนจำเลยด้วย แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายแพ้คดี. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีชี้ขาดกรรมสิทธิ์ในที่ดินมรดกและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี
โจทก์ฟ้องว่า. ที่พิพาทเป็นทรัพย์สินของกองมรดกอยู่ยังไม่ตกได้แก่จำเลย ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทยังไม่ตกได้แก่จำเลย และให้จำเลยคืนเงินค่าเช่าที่จำเลยรับไว้จากผู้เช่าพร้อมกับดอกเบี้ย ให้แก่ผู้จัดการมรดกเป็นผู้เก็บรักษาไว้ จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทตกได้แก่จำเลยตามพินัยกรรมของเจ้ามรดกแล้ว เงินค่าเช่าที่พิพาทที่จำเลยรับไว้ก็ตกเป็นของจำเลยด้วยศาลจึงกำหนดประเด็นที่โจทก์จำเลยจะนำสืบไว้ว่า ที่ดินวังพิพาทยังเป็นของกลางของทายาทหรือตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลยตามพินัยกรรมแล้วจำเลยแถลงต่อศาลขอยืนยันให้ศาลชี้ขาดกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทไปตามจำเลยให้การต่อสู้ ดังนี้ จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ต่อศาล เมื่อจำเลยแพ้คดีชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจใช้ดุลพินิจให้จำเลยเสียค่าทนายความชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ได้ และเมื่อเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จำเลยจึงต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์ตามราคาทรัพย์ที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินมรดก: การพิพาทระหว่างผู้จัดการมรดกกับผู้รับพินัยกรรม การคิดค่าฤชาธรรมเนียมและทนายความ
โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นทรัพย์สินของกองมรดกอยู่ ยังไม่ตกได้แก่จำเลยขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทยังไม่ตกได้แก่จำเลย และให้จำเลยคืนเงินค่าเช่าที่จำเลยรับไว้จากผู้เช่าพร้อมทั้งดอกเบี้ย ให้แก่ผู้จัดการมรดกเป็นผู้เก็บรักษาไว้ จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทตกได้แก่จำเลยตามพินัยกรรมของเจ้ามรดกแล้ว เงินค่าเช่าที่พิพาทที่จำเลยรับไว้ก็ตกเป็นของจำเลยด้วย ศาลจึงกำหนดประเด็นที่โจทก์จำเลยจะนำสืบไว้ว่า ที่ดินวังพิพาทยังเป็นของกลางของทายาทหรือตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลยตามพินัยกรรมแล้ว จำเลยแถลงต่อศาลขอยืนยันให้ศาลชี้ขาดกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทไปตามจำเลยให้การต่อสู้ ดังนี้ จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลี้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ต่อศาลเมื่อจำเลยแพ้คดีชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจใช้ดุลยพินิจให้จำเลยเสียค่าทนายความชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ได้ และเมื่อเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จำเลยจึงต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์ตามราคาทรัพย์ที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนการขายฝาก: ผลของการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทำให้สิทธิไถ่ถอนสิ้นสุด
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับไถ่ถอนการขายฝาก และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับไถ่การขายฝาก โดยให้นำเงินสินไถ่มาวางศาลเพื่อชำระแก่จำเลยภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันพิพากษา เมื่อจำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ต่อมาได้ยื่นคำแถลงว่าโจทก์ผิดนัดไม่นำเงินสินไถ่มาวางศาลภายในกำหนดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ดังนี้ คดีย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป เพราะทรัพย์ที่ขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลย โจทก์หมดสิทธิที่จะไถ่ถอนคืนแล้ว ศาลฎีกาจึงให้จำหน่ายคดี คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาของจำเลย 3 ใน 4 พร้อมด้วยคาตัดสินและค่าคำบังคับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนการขายฝากผิดนัด นำสู่การหลุดกรรมสิทธิ์ และการจำหน่ายคดี
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับไถ่ถอนการขายฝาก และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับไถ่การขายฝาก โดยให้นำเงินสินไถ่มาวางศาลเพื่อชำระแก่จำเลยภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันพิพากษา เมื่อจำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ต่อมาได้ยื่นคำแถลงว่าโจทก์ผิดนัดไม่นำเงินสินไถ่มาวางศาลภายในกำหนดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ดังนี้ คดีย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป เพราะทรัพย์ที่ขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลย โจทก์หมดสิทธิที่จะไถ่ถอนคืนแล้ว ศาลฎีกาจึงให้จำหน่ายคดี คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาของจำเลย 3 ใน 4 พร้อมด้วยค่าตัดสินและค่าคำบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการกำหนดค่าทนายความในคดีล้มละลาย โดยให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พิจารณา
ศาลอาจมีคำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมไว้ในคำพิพากษาว่า ค่าทนายความในชั้นศาลของเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ ซึ่งผู้ล้มละลายจะต้องใช้แก่โจทก์นั้น ให้ใช้ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเห็นควรกำหนดให้ก็ได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 29/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนนิติกรรมโอนทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้ในชั้นบังคับคดี และอำนาจศาลในการสั่งค่าทนาย
ในกรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่า ทรัพย์ที่โจทก์ยึดเป็นของผู้ร้องโดยจำเลยยกให้นั้น โจทก์ย่อมขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการโอนระหว่างผู้ร้องและจำเลยได้ โดยไม่จำต้องไปฟ้องขอให้ทำลายการโอนหรือเพิกถอนการฉ้อฉลประการใดก่อน
ค่าฤชาธรรมเนียมย่อมรวมถึงค่าทนายซึ่งแม้คู่ความจะมิได้ขอขึ้นมา ศาลก็มีอำนาจใช้ดุลพินิจสั่งได้ ไม่ถือว่าเป็นการพิพากษาเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองหลักเขตที่ดินโดยทนาย ถือเป็นการรับรองของจำเลยเอง ไม่เป็นการจำหน่ายสิทธิ การพิสูจน์อายุรั้วสำคัญต่อรูปคดี
การที่ทนายจำเลยแถลงรับรองหลักเขตติดต่อระหว่างที่ดินโจทก์จำเลยว่ามีอยู่จริงตามสภาพเดิม เท่ากับรับรองว่าเขตที่ดินระหว่างโจทก์จำเลยอยู่ตรงไหนถ้าการรังวัดเป็นไปถูกต้อง
โจทก์ฟ้องว่า รั้วของจำเลยล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ ขอให้ศาลบังคับให้การว่าแนวรั้วกั้นเขตที่ดินของจำเลยที่ 2 ไม่ได้ล้ำที่ของโจทก์ เป็นรั้วที่มีมาแต่เดิมเป็นเวลานานไม่น้อยกว่า 30 ปี แม้ศาลชั้นต้นไปเดินเผชิญสืบมาแล้วเห็นว่ารั้วของจำเลยรุกล้ำอยู่ในที่ดินของโจทก์จริง แต่ประเด็นในข้อว่ารั้วนั้นได้ปลูกสร้างมาตั้งแต่เมื่อได้ ยังไม่ได้ความซึ่งถ้าสมดังที่จำเลยต่อสู้ รูปคดีอาจเปลี่ยนแปลงไปได้จึงชอบที่จะให้คู่ความนำสืบในประเด็นดังกล่าวให้สิ้นกระแสความ
การที่ทนายจำเลยแถลงรับว่าหลักเขตที่ดินของโจทก์จำเลยตามแผนที่หลังโฉนดมีอยู่จริงและอยู่ในสภาพเดิมนั้น เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามหน้าที่ของทนายความตามปกติหาใช่เป็นการจำหน่ายสิทธิของจำเลยไม่ คำแถลงดังกล่าวของทนายจำเลยย่อมมีผลเท่ากับจำเลยแถลงด้วยตนเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: การชำระทดแทนไม่ใช่ค่าใช้จ่ายตามคำสั่งศาล
ค่าธรรมเนียมการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลายชั้นพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวซึ่งโจทก์ถอนฟ้องมิได้มีการขายทรัพย์ที่ยึดนั้น ถ้าจำเลยได้ออกเงินไปก่อนเพื่อกันความเสียหายของจำเลย แล้วจะมาร้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ชดใช้ให้แก่จำเลยย่อมไม่ได้ เพราะไม่ใช่เป็นค่าธรรมเนียมซึ่งฝ่ายหนึ่งจะต้องใช้ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาล
of 15