พบผลลัพธ์ทั้งหมด 500 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6595/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมไม่สมบูรณ์และสิทธิของผู้จัดการมรดก
พินัยกรรมไม่ลงวัน เดือน ปี ในการทำพินัยกรรมจึงมิได้ทำตามแบบที่กฎหมายบัญญัติไว้ ย่อมเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 1705 ทรัพย์มรดกของผู้ตายจึงตกได้แก่ทายาทโดยธรรมของผู้ตายเสมือนหนึ่งมิได้มีการทำพินัยกรรมไว้เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ท.บิดาผู้คัดค้านที่ 1 เป็นบุตรของผู้ตายได้ตายก่อนผู้ตายผู้คัดค้านที่ 1 ย่อมเป็นผู้มีสิทธิได้รับทรัพย์มรดกแทนที่บิดา จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสีย มีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตายได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1711 และ 1713 ดังนั้นเมื่อศาลมีคำสั่งแต่งตั้งผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายแล้ว แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่าเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมทรัพย์มรดกให้แก่ผู้คัดค้านที่ 2 แต่ผู้เดียวก็ตามก็ยังไม่มีเหตุที่ศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนผู้คัดค้านที่ 1 จากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายตาม ป.พ.พ. มาตรา 1727
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6470/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิคัดค้านการจัดการมรดก: ผู้ไม่มีส่วนได้เสียย่อมไม่มีสิทธิคัดค้าน
ผู้คัดค้านไม่ได้อ้างว่าเป็นทายาทของ ส. ผู้ตาย ส่วนโฉนดที่ดินมรดก ผู้คัดค้านก็ยอมรับว่ามีชื่อ บ. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ไม่มีชื่อผู้คัดค้าน ตามคำร้องคัดค้านของผู้คัดค้านฟ้งได้ว่าผู้คัดค้านไม่มีส่วนได้เสียในมรดกของ ส. ผู้ตาย ผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิร้องคัดค้าน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5496/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการมรดก: ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย และจัดการข้อโต้แย้งสิทธิในทรัพย์มรดกที่เกิดขึ้นใหม่
ในคดีที่ขอจัดการมรดกศาลจะพิจารณาว่า ผู้ขอมีสิทธิขอจัดการมรดกและสมควรตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่ เมื่อศาลได้มีคำสั่งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว เป็นหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่จะดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อดำเนินการแล้วหากมีข้อโต้แย้งสิทธิในทรัพย์สินของผู้ตายแต่ประการใด เป็นเรื่องที่ผู้จัดการมรดกจะต้องดำเนินเป็นคดีอีกต่างหาก เพราะเป็นการโต้แย้งสิทธิในเรื่องทรัพย์มรดกที่เกิดขึ้นใหม่ มิใช่การร้องขอให้ศาลชี้ขาดในเรื่องเดิมที่ขอจัดการมรดกอย่างคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5169/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทายาทนอกกฎหมายที่ได้รับการรับรอง และการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกโดยคำนึงถึงประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ผู้คัดค้านเป็นบุตรผู้เยาว์ของ ศ. และเป็นบุตรนอกกฎหมายที่ผู้ตายซึ่งเป็นบิดารับรองแล้วเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ตั้ง ศ. เป็นผู้จัดการมรดกได้ผู้ร้องไม่พอใจที่ผู้ตายมีบุตรกับ ศ. และไม่ยอมรับว่าผู้คัดค้านเป็นทายาทของผู้ตายประกอบกับ ศ. มีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามเป็นผู้จัดการมรดกจึงสมควรตั้ง ศ. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5169/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกสำหรับทายาทนอกกฎหมายและผู้เยาว์ โดยคำนึงถึงประโยชน์กองมรดก
การที่ศาลจะมีคำสั่งตั้ง ศ. มารดาผู้คัดค้านให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้องได้นั้น ข้อเท็จจริงจะต้องได้ความว่า ผู้คัดค้านเป็นทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียที่มีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาล ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1713 และมีเหตุที่จะแต่งตั้ง ศ. เป็นผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1718 เมื่อผู้คัดค้านเป็นบุตรของผู้ตายเกิดกับ ศ. และเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว ย่อมเป็นทายาทโดยธรรมและมีสิทธิรับมรดกได้ จึงเป็นผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาล
การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ศาลย่อมใช้ดุลพินิจโดยคำนึงถึงความเหมาะสมเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกด้วย เมื่อปรากฏว่าผู้คัดค้านยังเป็นผู้เยาว์ไม่สามารถจัดการงานด้วยตนเองได้ ผู้ร้องไม่พอใจที่ผู้ตายมีบุตรกับ ศ. และไม่ยอมรับว่าผู้คัดค้านเป็นทายาทของผู้ตาย ประกอบกับ ศ. มารดาผู้คัดค้านมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามตาม ป.พ.พ. มาตรา 1718 และมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกของผู้ตาย ดังนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงสมควรตั้ง ศ. มารดาผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้อง ส่วนที่ว่า ศ. มารดาผู้คัดค้านไม่มีความรู้เรื่องทรัพย์มรดกของผู้ตายและจะมีปัญหายุ่งยากในการจัดการมรดก ก็ไม่เป็นเหตุต้องห้ามในการเป็นผู้จัดการมรดก
การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ศาลย่อมใช้ดุลพินิจโดยคำนึงถึงความเหมาะสมเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกด้วย เมื่อปรากฏว่าผู้คัดค้านยังเป็นผู้เยาว์ไม่สามารถจัดการงานด้วยตนเองได้ ผู้ร้องไม่พอใจที่ผู้ตายมีบุตรกับ ศ. และไม่ยอมรับว่าผู้คัดค้านเป็นทายาทของผู้ตาย ประกอบกับ ศ. มารดาผู้คัดค้านมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามตาม ป.พ.พ. มาตรา 1718 และมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกของผู้ตาย ดังนั้น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงสมควรตั้ง ศ. มารดาผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้ร้อง ส่วนที่ว่า ศ. มารดาผู้คัดค้านไม่มีความรู้เรื่องทรัพย์มรดกของผู้ตายและจะมีปัญหายุ่งยากในการจัดการมรดก ก็ไม่เป็นเหตุต้องห้ามในการเป็นผู้จัดการมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5066/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องอุทธรณ์ฎีกาของผู้จัดการมรดก: ผู้จัดการมรดกไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาหากมิได้ถูกกระทบสิทธิโดยตรง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งก. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายผู้ร้องจึงเป็นคู่ความในคดีนี้ส่วนก. มิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่ถูกกระทบสิทธิโดยคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถือว่าก. เป็นบุคคลภายนอกคดีไม่อยู่ในฐานะจะยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้ปัญหาว่าก. มีอำนาจฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกาหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142(5)ประกอบด้วยมาตรา246,247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5066/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องอุทธรณ์ฎีกาของผู้ที่มิได้เป็นคู่ความหรือผู้มีส่วนได้เสีย
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้ง ก.เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายผู้ร้องจึงเป็นคู่ความในคดีนี้ ส่วน ก.มิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่ถูกกระทบสิทธิโดยคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ถือว่า ก.เป็นบุคคลภายนอกคดีไม่อยู่ในฐานะจะยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้น และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้ ปัญหาว่าก.มีอำนาจฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกาหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา142 (5) ประกอบด้วยมาตรา 246, 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5012/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้มีส่วนได้เสียร่วมจากธุรกิจที่ทำร่วมกับผู้ตาย
ผู้คัดค้านได้ร่วมประกอบธุรกิจการค้ากับผู้ตายทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการดังกล่าวจึงเป็นของผู้ตายและผู้คัดค้านร่วมกันเมื่อกิจการนั้นยังคงดำเนินอยู่ผู้คัดค้านจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1713วรรคแรกมีสิทธิร้องคัดค้านการที่ผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกและมีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้ ทรัพย์ใดจะเกิดจากการประกอบกิจการร่วมกันของผู้ตายกับผู้คัดค้านหรือไม่ไม่เป็นประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้ ผู้ร้องและผู้คัดค้านร่วมกันแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าคดีตกลงกันได้โดยจะขอเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันไม่คัดค้านกันอีกต่อไปตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่26มิถุนายน2535ข้อตกลงของผู้ร้องและผู้คัดค้านดังกล่าวเป็นการตกลงกันในประเด็นแห่งคดีบางข้อแม้จะมีการสืบพยานผู้ร้องและผู้คัดค้านต่อไปก็เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงสิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกและคุณสมบัติของผู้จะเป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมายเมื่อฟังว่าผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้มีสิทธิและคุณสมบัติในการเป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมายแล้วก็จะต้องตั้งให้ทั้งสองฝ่ายเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันไปตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา138วรรคแรกแม้จะได้ความจากคำเบิกความของผู้ร้องว่ายอมตกลงตามที่ผู้พิพากษาไกล่เกลี่ยก็ไม่ปรากฎว่าข้อตกลงนั้นฝ่าฝืนต่อกฎหมายการไกล่เกลี่ยของผู้พิพากษาเพื่อให้คู่ความตกลงกันเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของผู้พิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา20ซึ่งย่อมเป็นไปตามความสมัครใจของคู่ความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4902/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนผู้จัดการมรดก: ผู้คัดค้านต้องมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกจึงจะร้องขอได้
ผู้คัดค้านมิได้เป็นทายาทของเจ้ามรดกทั้งเหตุที่กล่าวอ้างมาในคำร้องคัดค้านว่าผู้คัดค้านเป็นเจ้าของผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินที่ว่าเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายและจะถูกผู้ร้องใช้สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกมาบังคับนั้นก็ยังฟังเป็นยุติไม่ได้ว่าที่ดินตามที่กล่าวอ้างเป็นทรัพย์มรดกหรือไม่เพียงใดซึ่งชอบที่จะไปว่ากล่าวกันเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากกรณียังถือไม่ได้ว่าผู้คัดค้านมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตายอันจะก่อให้เกิดสิทธิในการร้องขอให้เพิกถอนผู้จัดการมรดกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4902/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก: ผู้คัดค้านต้องมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก
ผู้คัดค้านมิได้เป็นทายาทของเจ้ามรดก ทั้งเหตุที่กล่าวอ้างมาในคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง และทำประโยชน์ในที่ดินที่ว่าเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตาย และจะถูกผู้ร้องใช้สิทธิในการเป็นผู้จัดการมรดกมาบังคับนั้นก็ยังฟังเป็นยุติไม่ได้ว่า ที่ดินตามที่กล่าวอ้างเป็นทรัพย์มรดกหรือไม่เพียงใดซึ่งชอบที่จะไปว่ากล่าวกันเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก กรณียังถือไม่ได้ว่า ผู้คัดค้านมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตายอันจะก่อให้เกิดสิทธิในการร้องขอให้เพิกถอนผู้จัดการมรดกได้