คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 104

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 629 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องคดีสัญญากู้เงิน และการนำสืบพยานหลักฐานเกี่ยวกับสาเหตุการทำสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินไปก่อนจำเลยให้การโจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องว่า กรณีเดิมสามีและบุตรเขยจำเลยกู้เงินโจทก์ แล้วจำเลยทำสัญญารับใช้หนี้ให้ โจทก์แก้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแห่งมาตรา 179 (2) เพราะเป็นการอธิบายถึงสาเหตุที่จำเลยทำสัญญากู้ให้
เมื่อจำเลยให้การแก้ข้อหาในคำร้องเพิ่มเติมฟ้อง จำเลยมิได้โต้แย้งหรือคัดค้านไว้ จะอุทธรณ์ข้อนี้ไม่ได้
เมื่อโจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ดังนั้นแล้ว แม้สัญญาที่นำมาฟ้องจะบอกชัดว่าเป็นสัญญากู้ระหว่างโจทก์กับจำเลยและว่าได้รับเงินไปแล้วแต่วันทำสัญญา โจทก์ก็นำสืบได้ว่าไม่มีการรับเงินเนื่องจากกรณีเดิมสามีกับบุตรเขยโจทก์กู้ไป ไม่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงเอกสาร
จำเลยลงลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้ โดยมีพยาน 2 คน โจทก์ไม่จำต้องนำพยานเหล่านั้นมาสืบทุกคน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินด้วยเจตนาเป็นเจ้าของและการได้กรรมสิทธิ์โดยอายุความ แม้มีการรับมรดกตามพินัยกรรม
ฟ้องของโจทก์ได้อ้างการครอบครองที่ดินพิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นหลักแห่งข้อหาและอ้างมูลเหตุที่โจทก์เข้าครอบครองว่าเป็นมรดกของมารดา แต่เหตุที่ทำให้ได้มาซึ่งที่ดินนั้นโจทก์ยกเอาการครอบครองเป็นส่วนสัดด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นหลัก ดังนี้ แม้โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่าเคยไปรับมรดกมารดาตามพินัยกรรมกันแล้วก็ตาม ก็เป็นเรื่องรับมรดก ส่วนโจทก์ครอบครองเป็นเจ้าของเกิน 10 ปี ก็เป็นเหตุให้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน ศาลชั้นต้นตัดมิให้โจทก์นำสืบในข้อนี้แล้ววินิจฉัยว่า โจทก์อาศัยสิทธิจำเลย ย่อมไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองหลักเขตที่ดินโดยทนาย ถือเป็นการรับรองของจำเลยเอง ไม่เป็นการจำหน่ายสิทธิ การพิสูจน์อายุรั้วสำคัญต่อรูปคดี
การที่ทนายจำเลยแถลงรับรองหลักเขตติดต่อระหว่างที่ดินโจทก์จำเลยว่ามีอยู่จริงตามสภาพเดิม เท่ากับรับรองว่าเขตที่ดินระหว่างโจทก์จำเลยอยู่ตรงไหนถ้าการรังวัดเป็นไปถูกต้อง
โจทก์ฟ้องว่า รั้วของจำเลยล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ ขอให้ศาลบังคับให้การว่าแนวรั้วกั้นเขตที่ดินของจำเลยที่ 2 ไม่ได้ล้ำที่ของโจทก์ เป็นรั้วที่มีมาแต่เดิมเป็นเวลานานไม่น้อยกว่า 30 ปี แม้ศาลชั้นต้นไปเดินเผชิญสืบมาแล้วเห็นว่ารั้วของจำเลยรุกล้ำอยู่ในที่ดินของโจทก์จริง แต่ประเด็นในข้อว่ารั้วนั้นได้ปลูกสร้างมาตั้งแต่เมื่อได้ ยังไม่ได้ความซึ่งถ้าสมดังที่จำเลยต่อสู้ รูปคดีอาจเปลี่ยนแปลงไปได้จึงชอบที่จะให้คู่ความนำสืบในประเด็นดังกล่าวให้สิ้นกระแสความ
การที่ทนายจำเลยแถลงรับว่าหลักเขตที่ดินของโจทก์จำเลยตามแผนที่หลังโฉนดมีอยู่จริงและอยู่ในสภาพเดิมนั้น เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามหน้าที่ของทนายความตามปกติหาใช่เป็นการจำหน่ายสิทธิของจำเลยไม่ คำแถลงดังกล่าวของทนายจำเลยย่อมมีผลเท่ากับจำเลยแถลงด้วยตนเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการสืบพยานเนื่องจากทนายจำเลยลาออกและจำเลยตั้งทนายใหม่ ศาลพิจารณาถึงความซับซ้อนของคดีและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ทนายจำเลยขอถอนตัวจากการเป็นทนายก่อนวัดนัดสืบพยานจำเลยเพียง 6 วันและจำเลยตั้งทนายใหม่ก่อนวันสืบพยานเพียง 2 คน และจำเลยยื่นคำร้อง ขอเลื่อนการพิจารณา เมื่อไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่า จำเลยจงใจแกล้งประวิงคดีให้ล่าช้า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลสมควรอนุญาตให้จำเลยเลื่อนการสืบพยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการพิจารณาคดีเนื่องจากทนายจำเลยลาออกและจำเลยต้องตั้งทนายใหม่ ศาลต้องคำนึงถึงความยุติธรรมและสิทธิในการป้องกันตัวของจำเลย
ทนายจำเลยขอถอนตัวจากการเป็นทนายก่อนวันนัดสืบพยานจำเลยเพียง 6 วัน และจำเลยตั้งทนายใหม่ก่อนวันสืบพยานเพียง2 วัน และจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณา เมื่อไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่า จำเลยจงใจแกล้งประวิงคดีให้ล่าช้า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลสมควรอนุญาตให้จำเลยเลื่อนการสืบพยาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณ พิจารณาฐานะยากไร้ตามอายุและพฤติการณ์
ในคดีเพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณ แม้จะปรากฏว่า ผู้ให้จะมีบ้านและที่ดินอยู่ จะเรียกว่าไม่ยากไร้ก็ไม่ได้ จะต้องพิจารณาตามฐานานุรูปและพฤติการณ์อื่นประกอบ ผู้ให้มีอายุ 74 ปีแล้ว อาจทำงานเลี้ยงตัวไม่ได้ ซึ่งอาจตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ยากไร้ก็ได้ (ซึ่งศาลจะฟังจากพยานหลักฐานต่อไป)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณ พิจารณาฐานะยากไร้ตามความจริงและพฤติการณ์
ในคดีเพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณ แม้จะปรากฏว่า ผู้ให้จะมีบ้านและที่ดินอยู่ จะเรียกว่าไม่ยากไร้ก็ไม่ได้จะต้องพิจารณาตามฐานานุรูปและพฤติการณ์อื่นประกอบ ผู้ให้มีอายุ 74 ปีแล้ว อาจทำงานเลี้ยงตัวไม่ได้ ซึ่งอาจตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ยากไร้ก็ได้ซึ่งศาลจะฟังจากพยานหลักฐานต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าประเด็นในศาลมีผลผูกพันคู่ความ และสละสิทธิเรียกร้องอื่นนอกประเด็นที่ตกลง
ศาลได้นัดชี้สองสถานครั้งแรกและได้เลื่อนให้คู่ความไปทำความตกลงกัน คู่ความจึงได้ทำความตกลงกันโดยบันทึกข้อตกลงกันไว้เป็นหนังสือต่อมาเมื่อศาลนัดชี้สองสถานนัดสุดท้ายคู่ความท้าประเด็นเป็นข้อแพ้ชนะเพียงข้อเดียวว่า โจทก์ส่งของดให้จำเลยถูกต้องตามรายการจริงหรือไม่ และโจทก์ส่งของตามรายการดังกล่าวเพียงแต่ผิดนัมเบอร์ของอย่างเดียวจริงหรือไม่ โดยไม่ได้แถลงให้ศาลทราบถึงข้อตกลงที่ทำกันไว้นั้น มาลบล้างข้อตกลงในศาลมาได้ไม่ และคู่ความได้แถลงสละข้อเรียกร้อง ข้อต่อสู้ ข้อโต้แย้งอื่น ๆ (หากมี) เสียสิ้น การที่จำเลยส่งและอ้างหนังสือนั้นเป็นพยาน ก็ต้องเข้าใจว่าจำเลยอ้างเพื่อสนับสนุนข้อเถียงของจำเลยในประเด็นที่ท้ากัน ไม่ใช่เพื่อลบล้างหรือเพิ่มเติมประเด็นที่ท้ากัน คดีคงมีข้อแพ้ชนะเพียงประเด็นเดียวตามที่ท้ากัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าประเด็นในศาลมีผลผูกพันคู่ความ แม้มีการตกลงนอกศาลก่อนหน้า สละสิทธิเรียกร้องอื่น
ศาลได้นัดชี้สองสถานครั้งแรกและได้เลื่อนให้คู่ความไปทำความตกลงกันคู่ความจึงได้ทำความตกลงกันโดยบันทึกข้อตกลงกันไว้เป็นหนังสือต่อมาเมื่อศาลนัดชี้สองสถานนัดสุดท้ายคู่ความท้าประเด็นเป็นข้อแพ้ชนะเพียงข้อเดียวว่า'โจทก์ส่งของให้จำเลยถูกต้องตามรายการจริงหรือไม่ และโจทก์ส่งของตามรายการดังกล่าวเพียงแต่ผิดนัมเบอร์ของอย่างเดียวจริงหรือไม่' โดยไม่ได้แถลงให้ศาลทราบถึงข้อตกลงที่ทำกันไว้นั้นดังนี้ จะถือเอาข้อตกลงที่ทำกันไว้นั้นมาลบล้างข้อตกลงในศาลหาได้ไม่ และคู่ความได้แถลงสละข้อเรียกร้อง ข้อต่อสู้ ข้อโต้แย้งอื่นๆ(หากมี)เสียสิ้นการที่จำเลยส่งและอ้างหนังสือนั้นเป็นพยาน ก็ต้องเข้าใจว่าจำเลยอ้างเพื่อสนับสนุนข้อเถียงของจำเลยในประเด็นที่ท้ากันไม่ใช่เพื่อลบล้างหรือเพิ่มเติมประเด็นที่ท้ากัน คดีคงมีข้อแพ้ชนะเพียงประเด็นเดียวตามที่ท้ากัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานคนกลางเพื่อพิสูจน์การครอบครองที่ดิน: เจตนาคำท้าต้องมุ่งพิสูจน์เจ้าของที่ดิน ไม่ใช่การครอบครองระยะสั้น
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของครอบครองที่พิพาทตลอดมา 30 ปีแล้ว จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมาถึง 17 ปีแล้ว คู่ความตกลงกันขอให้สืบพยานคนกลาง หากพยานคนกลางเบิกความว่า ที่พิพาทเป็นของฝ่ายใด โดยได้ครอบครองตลอดมาจนก่อนพิพาทกันชั้นอำเภอแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ พยานคนกลางเบิกความว่า เห็นจำเลยครอบครองตลอดมา 17 ปีแล้ว เมื่อ 2-3 ปีมานี้ โจทก์ได้ยื่นแบบ ส.ค. 1 สำหรับที่รายพิพาท ดังนี้ถือว่า เจตนาตามคำท้ามุ่งถึงเรื่องที่ว่า ฝ่ายใดครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาท ไม่ได้เจตนาถึงเรื่องแย่งการครอบครองภายใน 2 - 3 ปี จึงต้องถือว่าพยานคนกลางเบิกความสมข้างจำเลย
of 63