คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 104

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 629 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะ 'โรงบ่มใบยา' เป็น 'ร้านค้า' ตามประมวลรัษฎากรหรือไม่? ศาลต้องพิจารณาเพื่อตัดสินการยึดทรัพย์
เจ้าของสถานีบ่มใบยาถูกเจ้าพนักงานประเมินให้เสียภาษีร้านค้าตามประมวลรัษฎากร ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งว่าสถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าตามลำดับ เจ้าพนักงานคงยืนยันว่าเป็นร้านค้าและได้ทำการยึดทรัพย์เพื่อเสียภาษี เจ้าของสถานีบ่มใบยาจึงเป็นโจทก์ฟ้องเจ้าพนักงานขอให้ถอนการยึดและขอให้ศาลแสดงว่าโรงบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้า ดังนี้ คดีมีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่าสถานีบ่มใบยาเป็นร้านค้าใช่หรือไม่ ศาลจะสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่าสถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดสืบพยานและวินิจฉัยคดีเมื่อมีหลักฐานเพียงพอ กรณีเช่าทรัพย์สิน
เมื่อศาลเห็นว่าข้อที่คู่ความประสงค์จะนำสืบไม่เป็นประโยชน์ต่อคดี ศาลย่อมมีอำนาจที่จะงดสืบพยานนั้นเสียได้ และเมื่อเห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่พอเพียงจะเชื่อฟังเป็นยุติได้แล้ว ก็พิพากษาคดีนั้นได้ ไม่จำต้องสืบพยานต่อไปตามที่คู่ความขออีก
ศาลชั้นต้นสองถามคู่ความแล้วงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีเสียใหม่ โดยยังไม่ไม่วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีหลักฐานพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้แล้ว ก็ไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดสืบพยานเมื่อมีหลักฐานเพียงพอ และการวินิจฉัยคดีโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
เมื่อศาลเห็นว่าข้อที่คู่ความประสงค์จะนำสืบไม่เป็นประโยชน์ต่อคดีศาลย่อมมีอำนาจที่จะงดสืบพยานนั้นเสียได้และเมื่อเห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่พอเพียงจะเชื่อฟังเป็นยุติได้แล้วก็พิพากษาคดีนั้นได้ ไม่จำต้องสืบพยานต่อไปตามที่คู่ความขออีก
ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไปศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีเสียใหม่โดยยังไม่ได้วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีหลักฐานพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้แล้วก็ไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินตื้นเขินริมน้ำไม่ใช่ที่งอกต่อจากที่ดินโฉนด เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ศาลวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องรังวัด
ที่ท้องทางน้ำซึ่งตื้นเขินขึ้นสูงกว่าที่ของโจทก์และมีลำรางน้ำฝนไหลคั่นกลางเช่นนี้หาใช่ที่งอกต่อจากที่โจทก์ไม่แต่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน
เมื่อศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงในคดีพอวินิจฉัยได้แล้วศาลก็มีอำนาจพิพากษาคดีนั้นได้ โดยไม่ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินงอกต่อ vs. ที่สาธารณะริมน้ำ: การพิพากษาคดีบุกรุกโดยไม่ต้องลงพื้นที่
ที่ห้องทางน้ำซึ่งตื้นเขินขึ้นสูงกว่าที่ของโจทก์ และมีลำรางน้ำฝนไหลคั่นกลางเช่นนี้ หาใช่ที่งอกต่อจากที่โจทก์ไม่ แต่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน
เมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงในคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว ศาลก็มีอำนาจพิพากษาคดีนั้นได้ โดยไม่ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังข้อเท็จจริงจากฟ้องเดิม & งดสืบพยานเมื่อมีข้อเท็จจริงเพียงพอ
บิดาผู้ตายฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจำนองที่ผู้ตายจำนองเขาไว้โดยอ้างว่าเขารับจำนองไม่สุจริตเมื่อปรากฎว่าบิดาผู้ตายกับภรรยาผู้ตายเคยเป็นความกันเรื่องที่ดินแปลงนี้มาก่อนแล้ว และในคดีก่อนนั้นบิดาผู้ตายกล่าวในฟ้องว่าผู้รับจำนองรายที่กล่าวนี้รับจำนองจากผู้ตายโดยสุจริต ดังนี้ศาลย่อมรับฟังความข้อนี้จากฟ้องฉะบับก่อนได้ว่า ผู้รับจำนองรับจำนองโดยสุจริตโดยไม่ต้องสืบพยานต่อไปและแม้บิดาผู้ตายจะขอสืบว่าความจริงผู้รับจำนองรับจำนองไว้โดยไม่สุจริตศาลก็มีอำนาจงดสืบได้เพราะคดีฟังได้ดังกล่าวแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังข้อเท็จจริงจากฟ้องเดิมและการงดสืบพยานเมื่อมีข้อเท็จจริงเพียงพอต่อการวินิจฉัยคดี
บิดาผู้ตายฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจำนอง ที่ผู้ตายจำนองเขาไว้โดยอ้างว่าเขารับจำนองไม่สุจริต เมื่อปรากฏว่า บิดาผู้ตายกับภรรยาผู้ตายเคยเป็นความกันเรื่องที่ดินแปลงนี้มาก่อนแล้ว และในคดีก่อนนั้นบิดาผู้ตายกล่าวในฟ้องว่าผู้รับจำนองรายที่กล่าวนี้รับจำนองจากผู้ตายโดยสุจริตดังนี้ ศาลย่อมรับฟังความข้อนี้จากฟ้องฉบับก่อนได้ว่า ผู้รับจำนองรับจำนองโดยสุจริตโดยไม่ต้องสืบพยานต่อไป และแม้บิดาผู้ตายจะขอสืบว่า ความจริงผู้รับจำนองรับจำนองไว้โดยไม่สุจริต ศาลก็มีอำนาจงดสืบได้เพราะคดีฟังได้ดังกล่าวแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักล้างข้อสันนิษฐานเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินร่วม ศาลต้องให้โอกาสสืบพยานก่อนพิพากษา
เมื่อโจทก์อ้างว่า ตนมีส่วนในที่ดินมากกว่าจำเลยซึ่งมีชื่อในโฉนดด้วยกันนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธินำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานส่วนเท่ากัน ในความเป็นเจ้าของได้ หากหลักฐานในสำนวนยังไม่พอฟังดังข้ออ้างของโจทก์ ศาลไม่ควรสั่งงดสืบพยานเสียทั้ง ๆ ที่โจทก์กำลังทำการสืบอยู่ มิฉะนั้น ศาลฎีกาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาต่อไป และพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดิน: โจทก์มีสิทธิพิสูจน์ส่วนได้ส่วนเสียที่มากกว่าจำเลย แม้ชื่อในโฉนดจะเท่ากัน ศาลต้องรับฟังพยานหลักฐานก่อน
เมื่อโจทก์อ้างว่า ตนมีส่วนในที่ดินมากกว่าจำเลยซึ่งมีชื่อในโฉนดด้วยกันนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธินำสืบ หักล้างข้อสันนิษฐานส่วนเท่ากัน ในความเป็นเจ้าของได้
หากหลักฐานในสำนวนยังไม่พอฟังดังข้ออ้างของโจทก์ ศาลไม่ควรสั่งงดสืบพยานเสียทั้งๆ ที่โจทก์กำลังทำการ สืบอยู่ มิฉะนั้นศาลฎีกาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาต่อไปและ พิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจงดสืบพยาน & การบังคับคืนที่ดิน: ศาลมีอำนาจงดสืบพยานเมื่อพยานหลักฐานโจทก์ไม่เป็นความจริง และสถานะคนต่างด้าวไม่ใช่เหตุให้บังคับคืนที่ดิน
ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบพอฟังเป็นยุติได้ว่าคดีโจทก์ไม่เป็นความจริง ก็มีอำนาจงดสืบพยานต่อไปได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยให้คืนที่ดินให้โจทก์โดยอ้างว่าเป็นที่ดินของโจทก์ เมื่อคดีโจทก์ฟังไม่ได้ว่าเป็นความจริง แม้จะมีกฎหมายว่าด้วยที่ดินคนต่างด้าวฯ ใช้อยู่และตัวจำเลยเป็นคนต่างด้าว ก็ไม่เป็นเหตุให้ศาลบังคับจำเลยคืนที่ดินให้โจทก์ได้
of 63