พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันและการส่งหมายนัด การปฏิบัติตามสัญญาประกัน และการถือที่อยู่ตามสัญญาเป็นภูมิลำเนาเฉพาะการ
ตามสัญญาประกันข้อ 5 มีข้อความว่า หากนายประกันย้าย ที่อยู่โดยมิได้แจ้งให้ศาลทราบ. นายประกันยินยอมให้ถือ ว่าที่อยู่ของนายประกันตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกันนั้นเป็น ภูมิลำเนาเฉพาะการตามกฎหมาย ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ ว่านายประกันมิได้แจ้งให้ศาลทราบว่าย้ายที่อยู่ การที่ พนักงานเดินหมายปิดหมายนัด ณ ที่อยู่ของนายประกันตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกัน ย่อมถือได้ว่าปิดหมายยังภูมิลำเนาของนายประกันแล้ว
การปิดหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79มิได้กำหนดให้ตำรวจท้องที่เป็นพยานในการปิดหมาย ดังนั้นเมื่อพนักงานเดินหมายปิดหมายตามคำสั่งศาลโดยไม่มีพยานยืนยัน ว่าได้ทำการปิดหมายที่บ้านนายประกันจริง ก็ถือว่าเป็น การส่งหมายที่ชอบด้วยกฎหมาย
ในสัญญาประกันข้อ 2 กำหนดว่า ในระหว่างประกันนี้ นายประกันหรือจำเลยจะปฏิบัติตามหมายนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นนายประกันยอมรับผิดชอบใช้เงินให้แก่ศาลจนครบ เมื่อนายประกันไม่ปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของศาล คือไม่ส่งตัวจำเลยไปศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามนัด นายประกันจึงผิดสัญญาประกัน แม้ศาลจะไม่ได้ส่งหมายนัดแจ้งวันเวลานัดให้จำเลยหรือทนายจำเลยไปฟังคำพิพากษาก่อนก็ตาม เพราะสัญญาประกันเป็นสัญญาที่นายประกันกระทำไว้ต่อศาล จำเลยหรือทนายจำเลยหาได้เป็นผู้กระทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลไม่
การปิดหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79มิได้กำหนดให้ตำรวจท้องที่เป็นพยานในการปิดหมาย ดังนั้นเมื่อพนักงานเดินหมายปิดหมายตามคำสั่งศาลโดยไม่มีพยานยืนยัน ว่าได้ทำการปิดหมายที่บ้านนายประกันจริง ก็ถือว่าเป็น การส่งหมายที่ชอบด้วยกฎหมาย
ในสัญญาประกันข้อ 2 กำหนดว่า ในระหว่างประกันนี้ นายประกันหรือจำเลยจะปฏิบัติตามหมายนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นนายประกันยอมรับผิดชอบใช้เงินให้แก่ศาลจนครบ เมื่อนายประกันไม่ปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของศาล คือไม่ส่งตัวจำเลยไปศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามนัด นายประกันจึงผิดสัญญาประกัน แม้ศาลจะไม่ได้ส่งหมายนัดแจ้งวันเวลานัดให้จำเลยหรือทนายจำเลยไปฟังคำพิพากษาก่อนก็ตาม เพราะสัญญาประกันเป็นสัญญาที่นายประกันกระทำไว้ต่อศาล จำเลยหรือทนายจำเลยหาได้เป็นผู้กระทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันกับหน้าที่ตามหมายศาล: การส่งหมายชอบด้วยกฎหมายแม้จำเลยไม่อยู่ และการผิดสัญญาประกันจากการไม่ปฏิบัติตามนัด
ตามสัญญาประกันข้อ 5 มีข้อความว่า หากนายประกันย้าย ที่อยู่โดยมิได้แจ้งให้ศาลทราบ. นายประกันยินยอมให้ถือ ว่าที่อยู่ของนายประกันตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกันนั้นเป็น ภูมิลำเนาเฉพาะการตามกฎหมาย ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ ว่านายประกันมิได้แจ้งให้ศาลทราบว่าย้ายที่อยู่ การที่ พนักงานเดินหมายปิดหมายนัด ณ ที่อยู่ของนายประกันตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกัน ย่อมถือได้ว่าปิดหมายยังภูมิลำเนาของนายประกันแล้ว การปิดหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79มิได้กำหนดให้ตำรวจท้องที่เป็นพยานในการปิดหมาย ดังนั้นเมื่อพนักงานเดินหมายปิดหมายตามคำสั่งศาลโดยไม่มีพยานยืนยัน ว่าได้ทำการปิดหมายที่บ้านนายประกันจริง ก็ถือว่าเป็น การส่งหมายที่ชอบด้วยกฎหมาย ในสัญญาประกันข้อ 2 กำหนดว่า ในระหว่างประกันนี้นายประกันหรือจำเลยจะปฏิบัติตามหมายนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นนายประกันยอมรับผิดชอบใช้เงินให้แก่ศาลจนครบ เมื่อนายประกันไม่ปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของศาล คือไม่ส่งตัวจำเลยไปศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามนัด นายประกันจึงผิดสัญญาประกันแม้ศาลจะไม่ได้ส่งหมายนัดแจ้งวันเวลานัดให้จำเลยหรือทนายจำเลยไปฟังคำพิพากษาก่อนก็ตาม เพราะสัญญาประกันเป็นสัญญาที่นายประกันกระทำไว้ต่อศาล จำเลยหรือทนายจำเลยหาได้เป็นผู้กระทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3060/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาและสินสมรส: สัญญาประกันสมบูรณ์ ไม่ต้องมียินยอมจากภริยา
การที่จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาต่อโจทก์ โดยระบุเรือนอันเป็นสินสมรสไว้ท้ายสัญญาประกันเพื่อเป็นการแสดงหลักทรัพย์ หาใช่เป็นนิติกรรมในการจัดการสินสมรสซึ่งสามีภริยาจะต้องจัดการร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1476 ไม่ สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาจึงเป็นนิติกรรมที่สมบูรณ์และผูกพันจำเลยโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากภริยา ส่วนจะเป็นผลทำให้มีการยึดเรือนนั้นเมื่อมีการผิดสัญญาประกันก็เป็นเรื่องในชั้นบังคับคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3060/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาโดยใช้สินสมรสเป็นหลักประกัน ไม่ต้องมียินยอมจากภริยา
การที่จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาต่อโจทก์ โดยระบุเรือนอันเป็นสินสมรสไว้ท้ายสัญญาประกันเพื่อเป็นการแสดงหลักทรัพย์หาใช่เป็นนิติกรรมในการจัดการสินสมรสซึ่งสามีภริยาจะต้องจัดการร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1476 ไม่สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาจึงเป็นนิติกรรมที่สมบูรณ์และผูกพันจำเลยโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากภริยา ส่วนจะเป็นผลทำให้มีการยึดเรือนนั้นเมื่อมีการผิดสัญญาประกันก็เป็นเรื่องในชั้นบังคับคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีสัญญาประกันตัว: พนักงานสอบสวนมีอำนาจฟ้องเองได้ หากจำเลยผิดสัญญาประกันตัวผู้ต้องหา
จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาไปจากความควบคุมของพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 112เมื่อจำเลยผิดสัญญา พนักงานสอบสวนย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยตามสัญญาได้ กรมตำรวจไม่ใช่พนักงานสอบสวนและมิได้เป็น คู่สัญญากับจำเลยจะฟ้องเองหรือมอบอำนาจให้ฟ้องหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีผิดสัญญาประกันตัว พนักงานสอบสวนมีอำนาจฟ้องได้ กรมตำรวจไม่ใช่คู่สัญญา
จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาไปจากความควบคุมของพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 112 เมื่อจำเลยผิดสัญญา พนักงานสอบสวนย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยตามสัญญาได้ กรมตำรวจไม่ใช่พนักงานสอบสวนและมิได้เป็นคู่สัญญากับจำเลยจะฟ้องเองหรือมอบอำนาจให้ฟ้องหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัว: ผลผูกพันจนกว่าจำเลยจะมอบตัวต่อศาล แม้ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา
ผู้ประกันทำสัญญาประกันจำเลยต่อศาลชั้นต้น ต่อมาศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันอ้างว่าผิดสัญญาประกัน แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโดยฟังว่าผู้ประกันยังมิได้ผิดสัญญาประกัน เช่นนี้สัญญาประกันยังไม่สิ้นสุด หลังจากนั้นผู้ประกันไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ตามคำสั่งศาลชั้นต้น ย่อมถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน เพราะสัญญาประกันมีผลผูกพันผู้ประกันอยู่จนกว่าผู้ประกันจะนำจำเลยส่งมอบต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัว: ความผูกพันของผู้ประกันในการส่งตัวจำเลยตามนัดศาล และผลของการผิดสัญญา
ผู้ประกันทำสัญญาประกันจำเลยต่อศาลชั้นต้น ต่อมาศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันอ้างว่าผิดสัญญาประกัน แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโดยฟังว่าผู้ประกันยังมิได้ผิดสัญญาประกันเช่นนี้สัญญาประกันยังไม่สิ้นสุด หลังจากนั้นผู้ประกันไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ตามคำสั่งศาลชั้นต้น ย่อมถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน เพราะสัญญาประกันมีผลผูกพันผู้ประกันอยู่จนกว่าผู้ประกันจะนำจำเลยส่งมอบต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้รับรองหลักทรัพย์ประกันตัว: รับรองความถูกต้องของทรัพย์สินและตัวผู้ประกันเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ประกันร่วม
จำเลยบันทึกรับรองไว้ในบัญชีทรัพย์สินท้ายสัญญาประกันผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวนโจทก์ ความว่า ข้าพเจ้าขอรับรองว่าหลักทรัพย์ตามรายการนี้มีจริง และสามารถติดตามตัวนายประกันได้ และนายประกันไม่ได้นำทรัพย์สินดังกล่าวนี้ไปทำนิติกรรมใด ๆ จริง หากมีการผิดพลาดเกิดขึ้น ข้าพเจ้าขอรับผิดร่วมกับนายประกันด้วย มีความหมายเพียงว่าจำเลยได้รับรองว่าผู้ประกันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินซึ่งผู้ประกันนำมายื่นเป็นหลักประกัน ทั้งทรัพย์สินนั้นไม่อยู่ในการติดพันใด ๆ ตามที่ผู้ประกันกล่าวอ้างมาจริง และรับรองว่าผู้ประกันมีตัวและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งสามารถติดตามตัวมาบังคับบัญชาตามสัญญาประกันได้ ถ้าหากการมิได้เป็นไปตามที่จำเลยรับรองไว้ เป็นเหตุให้โจทก์เอาค่าปรับเพราะเหตุผู้ประกันผิดสัญญาประกันไม่ได้หรือไม่ครบจำนวนหรือไม่สามารถเรียกตามตัวผู้ประกันมาบังคับบัญชาได้ จำเลยยินยอมร่วมรับผิดร่วมกับผู้ประกันเพื่อให้โจทก์ได้รับค่าปรับตามสัญญาประกันที่ผู้ประกันทำไว้เท่านั้นเอง หามีความหมายทำให้จำเลยกลายเป็นผู้ประกันร่วมกับผู้ประกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 103/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้รับรองหลักทรัพย์ประกันตัว ผู้รับรองไม่ใช่ผู้ประกันร่วม
จำเลยบันทึกรับรองไว้ในบัญชีทรัพย์สินท้ายสัญญาประกันผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวนโจทก์ ความว่า ข้าพเจ้าขอรับรองว่าหลักทรัพย์ตามรายการนี้มีจริง และสามารถติดตามตัวนายประกันได้ และนายประกันไม่ได้นำทรัพย์สินดังกล่าวนี้ไปทำนิติกรรมใด ๆ จริง หากมีการผิดพลาดเกิดขึ้น ข้าพเจ้าขอรับผิดร่วมกับนายประกันด้วย มีความหมายเพียงว่าจำเลยได้รับรองว่าผู้ประกันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินซึ่งผู้ประกันนำมายื่นเป็นหลักประกัน ทั้งทรัพย์สินนั้นไม่อยู่ในภารติดพันใด ๆ ตามที่ผู้ประกันกล่าวอ้างมาจริง และรับรองว่าผู้ประกันมีตัวและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งสามารถติดตามตัวมาบังคับบัญชาตามสัญญาประกันได้ ถ้าหากการมิได้เป็นไปตามที่จำเลยรับรองไว้ เป็นเหตุให้โจทก์เอาค่าปรับเพราะเหตุผู้ประกันผิดสัญญาประกันไม่ได้หรือไม่ครบจำนวนหรือไม่สามารถเรียกตามตัวผู้ประกันมาบังคับบัญชาได้ จำเลยยินยอมร่วมรับผิดร่วมกับผู้ประกันเพื่อให้โจทก์ได้รับค่าปรับตามสัญญาประกันที่ผู้ประกันทำไว้เท่านั้นเอง หามีความหมายทำให้จำเลยกลายเป็นผู้ประกันร่วมกับผู้ประกันไม่