คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 243

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 785 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2128/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่แจ้งคู่ความร่วมรับทราบการพิจารณาคดีในชั้นอุทธรณ์ ทำให้การพิจารณาคดีไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยร่วมได้รับสำเนาอุทธรณ์แล้ว หรือได้มีการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่จำเลยร่วมโดยการปิดประกาศไว้หน้าศาลแทนการส่งหมายแต่อย่างใด การพิจารณาของศาลอุทธรณ์จึงเป็นการพิจารณาคดีระหว่างโจทก์กับจำเลยเท่านั้น โดยไม่มีจำเลยร่วมเข้ามาเป็นคู่ความในชั้นอุทธรณ์ด้วย ทั้ง ๆ ที่จำเลยร่วมยังเป็นคู่ความอยู่ และมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยถึงความรับผิดของจำเลยร่วมตามอุทธรณ์ของจำเลยอยู่ด้วยทั้งศาลชั้นต้นมิได้แจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้แก่จำเลยร่วมทราบแต่อย่างใด จึงเป็นอันว่าจำเลยร่วมพ้นจากคดีไปลอย ๆ เป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา ศาลฎีกาต้องยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2), 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนอกฟ้องนอกประเด็น: ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่กำหนดไว้ในคำฟ้องและข้อโต้แย้งเท่านั้น
กรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นที่ศาลอุทธรณ์กำหนดแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้น ในการวินิจฉัยคดีใหม่ ศาลชั้นต้นและและอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยตามประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ได้กำหนดไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลต้องวินิจฉัยตามประเด็นที่กำหนด หากวินิจฉัยนอกประเด็นคำพิพากษาเป็นโมฆะ
กรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นที่ศาลอุทธรณ์กำหนดแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้น ในการวินิจฉัยคดีใหม่ ศาลชั้นต้นและและอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยตามประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ได้กำหนดไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องตัวแทนรับผิดในความเสียหายจากการกระทำนอกอำนาจ และการรวมฟ้องที่ไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
แม้จำเลยจะไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี แต่การที่ศาลชั้นต้นรับฟ้องที่รวมกันมาไม่เป็นเหตุให้ผลแห่งคดีของโจทก์จำเลยเปลี่ยนแปลงไป ทั้งศาลชั้นต้นได้รับฟ้องและดำเนินกระบวนพิจารณาจนเสร็จการพิจารณาและพิพากษาคดีแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะถือว่าการดำเนินกระบวนพิจารณานั้นผิดกฎหมาย และไม่มีเหตุอันสมควรที่จะยกฟ้องหรือให้โจทก์ไปฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 681/2506)
โจทก์ในฐานะตัวการฟ้องจำเลยที่ 3 ในฐานะตัวแทนให้รับผิดต่อโจทก์ในฐานะที่จำเลยที่ 3 ได้ให้จำเลยที่1 กู้เงินไปโดยปราศจากอำนาจหรือนอกขอบอำนาจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะไม่อาจบังคับชำระหนี้เอาแก่จำเลยที่ 1 ได้ ดังนี้ จำเลยที่ 3 จะอ้างว่าโจทก์ได้ดอกเบี้ยจากจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ได้รายงานให้ทราบทุกเดือนโจทก์ไม่เคยทักท้วง จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดไม่ได้ เพราะข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 3 เป็นเรื่องที่บุคคลภายนอกฟ้องให้ตัวการรับผิดในการกระทำของตัวแทนซึ่งเป็นคนละกรณีกับตัวการฟ้องตัวแทนให้รับผิดต่อตัวการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวแทนต่อตัวการ กรณีตัวแทนกระทำนอกขอบอำนาจ และการฟ้องรวมคดีที่มีลักษณะต่างกัน
แม้จำเลยจะไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี แต่การที่ศาลชั้นต้นรับฟ้องที่รวมกันมาไม่เป็นเหตุให้ผลแห่งคดีของโจทก์จำเลยเปลี่ยนแปลงไป ทั้งศาลชั้นต้นได้รับฟ้องและดำเนินกระบวนพิจารณาจนเสร็จการพิจารณาและพิพากษาคดีแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะถือว่าการดำเนินกระบวนพิจารณานั้นผิดกฎหมาย และไม่มีเหตุอันสมควรที่จะยกฟ้องหรือให้โจทก์ไปฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 681/2506)
โจทก์ในฐานะตัวการฟ้องจำเลยที่ 3 ในฐานะตัวแทนให้รับผิดต่อโจทก์ในฐานะที่จำเลยที่ 3 ได้ให้จำเลยที่ 1 กู้เงินไปโดยปราศจากอำนาจหรือนอกขอบอำนาจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะไม่อาจบังคับชำระหนี้เอาแก่จำเลยที่ 1 ได้ ดังนี้ จำเลยที่ 3 จะอ้างว่าโจทก์ได้ดอกเบี้ยจากจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ได้รายงานให้ทราบทุกเดือนโจทก์ไม่เคยทักท้วง จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดไม่ได้ เพราะข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 3 เป็นเรื่องที่บุคคลภายนอกฟ้องให้ตัวการรับผิดในการกระทำของตัวแทนซึ่งเป็นคนละกรณีกับตัวการฟ้องตัวแทนให้รับผิดต่อตัวการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการบังคับคดี: โจทก์ต้องบังคับทรัพย์จำเลยที่ 1-2 ก่อน แม้ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 3 เป็นลูกหนี้ร่วม
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินตามเช็คจำเลยที่ 1 ที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาเดิมจำเลยที่ 3 ให้การต่อสู้คดี แต่ระหว่างพิจารณาจำเลยที่ 3 แถลงสละข้อต่อสู้ทั้งหมด รับว่าฟ้องโจทก์เป็นความจริง ขอให้โจทก์บังคับคดีแก่จำเลยที่ 1 ที่2 ก่อน หากไม่มีทรัพย์หรือมีไม่พอก็ให้บังคับคดีแก่จำเลยที่ 3 โจทก์แถลงไม่ขัดข้อง ดังนี้ จึงเท่ากับเป็นการตกลงในเรื่องการบังคับคดีไว้ล่วงหน้าก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้จำเลยที่ 3 รับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมแต่ถ้าจะต้องมีการบังคับคดี โจทก์ก็ผูกพันที่จะต้องบังคับเอาแก่จำเลยที่1 ที่ 2 ก่อนตามข้อตกลง และชอบที่ศาลชั้นต้นจะทำการไต่สวนให้ปรากฏเสียก่อนว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 มีทรัพย์สินที่โจทก์สามารถจะบังคับเอาชำระหนี้ได้หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการบังคับคดีก่อนมีคำพิพากษา: โจทก์ต้องบังคับคดีแก่จำเลยที่ 1-2 ก่อน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินตามเช็ค จำเลยที่ 1 ที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา เดิมจำเลยที่ 3 ให้การต่อสู้คดี แต่ระหว่างพิจารณาจำเลยที่ 3 แถลงสละข้อต่อสู้ทั้งหมด รับว่าฟ้องโจทก์เป็นความจริง ขอให้โจทก์บังคับคดีแก่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ก่อน หากไม่มีทรัพย์หรือมีไม่พอก็ให้บังคับคดีแก่จำเลยที่ 3 โจทก์แถลงไม่ขัดข้อง ดังนี้ จึงเท่ากับเป็นการตกลงในเรื่องการบังคับคดีไว้ล่วงหน้าก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้จำเลยที่ 3 รับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม แต่ถ้าจะต้องมีการบังคับคดี โจทก์ก็ผูกพันที่จะต้องบังคับเอาแก่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ก่อนตามข้อตกลง และชอบที่ศาลชั้นต้นจะทำการไต่สวนให้ปรากฏเสียก่อนว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 มีทรัพย์สินที่โจทก์สามารถจะบังคับเอาชำระหนี้ได้หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาในคดีอาญาต่อคดีแพ่ง และการพิจารณาคดีเมื่อพยานหลักฐานยังไม่พอพิพากษา
คดีก่อนพนักงานอัยการฟ้องนายโหมดผู้ที่โจทก์มอบให้ดูแลที่พิพาทแทนโจทก์ในข้อหาบุกรุก คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษาว่า นายโหมดมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 คำพิพากษาดังกล่าวที่ว่าโจทก์ร่วมซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท จึงไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก
คำแถลงร่วมของคู่ความที่ว่า "ให้ศาลรับฟังข้อเท็จจริงที่ได้วินิจฉัยโดยคำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าว (คดีก่อน) มาประกอบการพิจารณาพิพากษาในสำนวนนี้ด้วย" นั้น คู่ความหาได้ตกลงกันให้ศาลนำข้อเท็จจริงที่รับฟังโดยคำพิพากษาคดีก่อนมาวินิจฉัยชี้ขาดเป็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้โดยคู่ความไม่สืบพยานไม่ เพียงแต่ให้นำมาเป็นพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาในคดีนี้ด้วยเท่านั้น เมื่อพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบไปแล้วกับคำแถลงร่วมดังกล่าว ยังไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยชี้ขาดคดีได้ ชอบที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาในคดีอาญาต่อคดีแพ่ง: การนำข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาอาญามาพิจารณาในคดีแพ่งโดยไม่ผูกพันคู่ความ
คดีก่อนพนักงานอัยการฟ้องนายโหมดผู้ที่โจทก์มอบให้ดูแลที่พิพาทแทนโจทก์ในข้อหาบุกรุก คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษาว่า นายโหมดมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา362คำพิพากษาดังกล่าวที่ว่าโจทก์ร่วมซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท จึงไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก
คำแถลงร่วมของคู่ความที่ว่า 'ให้ศาลรับฟังข้อเท็จจริงที่ได้วินิจฉัยโดยคำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าว (คดีก่อน)มาประกอบการพิจารณาพิพากษาในสำนวนนี้ด้วย'นั้น คู่ความหาได้ตกลงกันให้ศาลนำข้อเท็จจริงที่รับฟังโดยคำพิพากษาคดีก่อนมาวินิจฉัยชี้ขาดเป็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้โดยคู่ความไม่สืบพยานไม่ เพียงแต่ให้นำมาเป็นพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาในคดีนี้ด้วยเท่านั้น เมื่อพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบไปแล้วกับคำแถลงร่วมดังกล่าว ยังไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยชี้ขาดคดีได้ ชอบที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานในคดีค่าธรรมเนียมท่าเรือ: ประเด็นข้อพิพาทเรื่องประเภทสินค้า (น้ำมันเชื้อเพลิง) ต้องสืบพยาน
ข้อเท็จจริงบางประเด็นตามฟ้องและคำให้การจำเลยยังโต้เถียงกันอยู่ รับฟังเป็นยุติไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยจึงเป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยการพิจารณา ต้องยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
of 79