คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 243

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 785 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแยกสินบริคณห์เพื่อใช้หนี้: สิทธิเจ้าหนี้และการต่อสู้ของจำเลย
เจ้าหนี้ยึดสินบริคณห์ระหว่างจำเลยกับสามี สามีร้องขัดทรัพย์อ้างว่านิติกรรมที่ภรรยาทำเป็นโมฆียะ ไม่ผูกพันสินบริคณห์ ศาลสั่งถอนการยึดไปตามคำร้องขัดทรัพย์เจ้าหนี้มาฟ้องขอแยกสินบริคณห์ระหว่างสามีภรรยานั้นใหม่ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เจ้าหนี้ซึ่งขอแยกสินบริคณห์ของลูกหนี้ตาม มาตรา 1483นั้นไม่จำต้องขอขณะยึดทรัพย์ของลูกหนี้ แม้ศาลให้ถอนการยึดแล้วก็ขอได้ ในกรณีที่ขอแยกสินบริคณห์ระหว่างสามีภรรยาเพื่อใช้หนี้ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าขายให้บุคคลภายนอกไปแล้ว ก็ต้องพิจารณาว่าจริงหรือไม่ เพราะถ้าจริงก็ไม่ใช่สินบริคณห์จะขอแยกไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2486)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์เรื่องฟ้องไม่เคลือบคลุม หลังศาลตัดสินและพ้นกำหนด
ศาลชั้นต้นสั่งว่าฟ้องไม่เคลือบคลุมจำเลยมิได้คัดค้านไว้และมิได้อุทธรณ์ภายใน 1 เดือน เมื่อศาลตัดสินแล้วจำเลยจะยกขึ้นอุทธรณ์ไม่ได้ และศาลอุทธรณ์จะยกขึ้นวินิจฉัยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 522/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นเรื่องคำฟ้องเคลือบคลุม ทำให้จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ในประเด็นนั้นได้
สาลชั้นต้นสั่งว่าฟ้องไม่เคลือบคลุมจำเลยมิได้คัดค้านไว้และมิได้อุธรน์พายไน 1 เดือนเมื่อสาลตัดสินแล้ว จำเลยจะยกขึ้น
อุธรน์ไม่ได้ และสาลอุธรน์จะยกขึ้นวินิฉัยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาต้องระบุเวลาเกิดเหตุ หากไม่ระบุเวลาและไม่แสดงเหตุผลที่ไม่สามารถรู้ได้ ฟ้องไม่ชอบ
ฟ้องโจททุกฉบับต้องระบุเวลาผิดเหตุกลางวันหรือกลางคืน ถ้าโจทไม่รู้เวลาก็ต้องกล่าวไนฟ้องมิฉะนั้นยอมไม่เปนฟ้องที่ชอบด้วยกดหมาย
ฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกดหมายแม้จำเลยจะไห้การับสารภาพก็ลงโทสจำเลยไม่ได้
ฟ้องโจทที่มิได้ระบุเวลาที่เกิดเหตุ แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นคัดค้านไว้ สาลย่อมหยิบยกขึ้นพิจารนาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุเวลาเกิดเหตุในฟ้อง: เงื่อนไขการเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายและผลกระทบต่อการลงโทษ
ฟ้องโจทก์ทุกฉบับต้องระบุเวลาเกิดเหตุกลางวันหรือกลางคืนถ้าโจทก์ไม่รู้เวลาก็ต้องกล่าวในฟ้อง มิฉะนั้นย่อมไม่เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย
ฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ฟ้องโจทก์ที่มิได้ระบุเวลาที่เกิดเหตุ แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นคัดค้านไว้ ศาลย่อมหยิบยกขึ้นพิจารณาได้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2486

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณา - หน้าที่นำสืบพยาน - ทนายจำเลยมาศาล
ในวันนัดพิจารณาซึ่งศาลกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนจำเลยไม่มาศาลคงมีแต่ทนายจำเลยมาศาลตามกำหนดนัด กรณีเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา และจะถือว่าจำเลยละเลยไม่นำพยานมาสืบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: คดีอาญาที่เกิดคาบเกี่ยวระหว่างศาลพลเรือนและศาลทหาร ให้ขึ้นศาลพลเรือนหากไม่ชัดเจนว่าเป็นคดีทหาร
คดีอาญาที่การกระทำผิดเกิดขึ้นคาบเกี่ยวกับศาลพลเรือนและศาลทหารเมื่อไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเป็นกรณีที่เกิดขึ้นภายในเวลาที่บัญญัติว่าจะต้องดำเนินคดีทางศาลทหารเช่นนี้ ต้องนำคดีขึ้นศาลพลเรือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 325/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความหมายคำในสัญญาซื้อขายข้าว: การสืบพยานเพื่ออธิบายความหมายพิเศษของคำ ไม่ใช่การแก้ไขสัญญา
ข้อความไนสัญญามีว่า จำเลยทำสัญญาซื้อข้าวเหนียวกล้องไหย่ซึ่งจำเลยไห้การโต้แย้งว่า ข้าวที่โจทส่งไห้จำเลยไม่ถูกต้องชนิดไนสัญญา ข้าวเหนียวชนิดตามสัญญาคือข้าวเหนียวกล้องหย่างดีชนิดสีครั้งเดียว ไม่ต้องขัดมัน ดังนี้ถือว่าเปนข้อเท็ดจิงที่จำเลยนำสืบ ได้หาไช่เปนการสืบเพิ่มเติมหรือแก้ไขข้อความไนสัญญาไม่แต่เปนการสืบอธิบายความหมายพิเสสแห่งถ้อยคำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดของคดีเมื่อผู้ถูกฟ้องตาย และอำนาจย้อนสำนวนของศาลฎีกา
มารดาโจทก์ถูกฟ้องในคดีก่อนแล้วตายโดยไม่มีผู้รับมรดกความคำพิพากษาในคดีนั้นย่อมไม่ผูกพันโจทก์และทายาทของผู้ตาย
ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายถ้ายังมีข้อเท็จจริงที่ต้องพิจารณาต่อไปศาลฎีกาย่อมมีอำนาจที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาข้อเท็จจริงนั้นต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1017/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทางเดิน vs. กรรมสิทธิ์ที่ดิน: สิทธิทางเดินยังคงมีได้แม้มีการแบ่งแยกที่ดินและมีกรรมสิทธิ์ใหม่
การได้กัมสิทธิไนที่ดินกับการได้สิทธิทางเดินบนที่ดินย่อมเปนสิทธิคนละหย่าง แม้จำเลยจะเปนผู้ได้กัมสิทธิไนที่ดินตามคำสั่งสาลก็ตามแต่สิทธิไนทางเดินบนที่ดินนั้นก็ยังอาดมีไนที่ดินนั้นได้ , เมื่อสาลดีกาเห็นสมควนจะได้ฟังข้อเท็ดจิงไนคดีต่อไปก็มีอำนาดย้อนสำนวนไปไห้สาลล่างสืบพยานต่อไปได้.
of 79