คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1620

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 47 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการระบุสิทธิเรียกร้องมรดกเพิ่มเติมในคำพิพากษา
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ที่ดินของนางชมตกทอดเป็นของนายกิมนายกิมตายตกทอดเป็นของผู้ร้อง คือภรรยาและบุตรอีก 3 คน ของนายกิม นายเพิ่มอ้างว่าเป็นทายาทของนางชม ยื่นคำคัดค้าน เมื่อศาลพิพากษายกคำร้องของผู้ร้อง ศาลย่อมมีอำนาจจะกล่าวไว้ในคำพิพากษาได้ว่า คำพิพากษาไม่ตัดสิทธิเด็กทั้งสามที่จะร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าตนเป็นบุตรของนายกิมและขอรับมรดกของนายกิมต่อไปได้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นสามีภริยา,สินสมรส,สินเดิม,การขาดจากการเป็นสามีภริยา,ภริยาร้าง
ในกฎหมายลักษณะผัวเมีย ไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่า เมื่อชายไม่พอใจหญิง ก็ทิ้งหญิงได้ โดยหญิงไม่ต้องยินยอม และขาดจากการเป็นสามีภรรยากันได้ การที่สามีไม่พอใจภรรยาแล้วเขียนหนังสือเก็บไว้และไม่ไปมาหาสู่ภริยา ไม่ว่าจะเขียนหนังสือนั้น และเลิกติดต่อกับภริยาเมื่อใดก็ตาม ไม่ทำให้ขาดจากการเป็นสามีภริยากันได้
ในคดีแพ่ง ถ้าจำเลยประสงค์จะต่อสู้ในข้อใด จำเลยจะต้องกล่าวในคำให้การโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง
เมื่อศาลฟังว่าภริยามีสินเดิม ศาลก็พิพากษาให้ส่วนแบ่งในสินสมรสได้ ไม่มีกฎหมายจำกัดว่าแม้จะมีสินเดิม ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านด้วย จึงจะได้ส่วนแบ่งในสินสมรส
การแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยาจะต้องหักสินสมรสใช้สินเดิม ก็ต่อเมื่อปรากฏว่าสินเดิมสูญไปแล้ว
แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า สินเดิมของจำเลยไม่ปรากฏแต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในทางหาว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย ฉะนั้นในการที่ศาลจะคำนวณส่วนแบ่งในสินสมรสอันโจทก์ซึ่งเป็นภรรยาคนหนึ่งจะได้รับศาลก็จำต้องคำนวณโดยถือว่าจำเลยมีส่วนในสินสมรสด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดจากการเป็นสามีภริยาต้องด้วยกฎหมาย การแบ่งสินสมรส และการพิสูจน์สินเดิม
ในกฎหมายลักษณะผัวเมีย ไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่า เมื่อชายไม่พอใจหญิงก็ทิ้งหญิงได้ โดยหญิงไม่ต้องยินยอม และขาดจาการเป็นสามีภรรยากันได้ การที่สามีไม่พอใจภรรยาแล้วเขียนหนังสือเก็บไว้ และไม่ไปมาหาสู่ภริยา ไม่ว่าจะเขียนหนังสือนั้น และเลิกติดต่อกับภริยาเมื่อใดก็ตาม ไม่ทำให้ขาดจากการเป็นสามีภริยากันได้
ในคดีแพ่ง ถ้าจำเลยประสงค์จะต่อสู้ในข้อใด จำเลยจะต้องกล่าวในคำให้การโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งเหตุตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม. 177 วรรค 2
เมื่อศาลฟังว่าภริยามีสินเดิม ศาลก็พิพากษาให้ส่วนแบ่งในสินสมรสได้ ไม่มี ก.ม.จำกัดว่าแม้จะมีสินเดิม ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านด้วย จึงจะได้ส่วนแบ่งในสินสมรส
การแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยา จะต้องหักสินสมรสใช้สินเดิมก็ต่อเมื่อปรากฏว่าสินเดิมสูญไปแล้ว
แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า สินเดิมของจำเลยไม่ปรากฏ แต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในทางหาว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย ฉะนั้นในการที่ศาลจะคำนวนส่วนแบ่งใน+อันโจทก์ซึ่งเป็นภรรยา+ได้รับ ศาลก็จำต้องคำนวณโดยถือว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนมรดกไม่ชอบด้วยกฎหมายและการคุ้มครองสิทธิบุคคลที่สามที่ได้รับจำนองโดยสุจริต
โจทก์จำเลยเป็นผู้รับมฤดกในที่ดินร่วมกัน จำเลยไปโอนแก้โฉนดใส่ชื่อตนเป็นเจ้าของถือกรรมสิทธิแต่ผู้เดียวโดยโจทก์ไม่ทราบครั้นแล้วก็นำไปจำนองไว้แก่บุคคลที่ 3 ผู้ทำการโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนดังนี้ แม้การโอนแก้โฉนดจะเสียเปล่าใช้ไม่ได้ก็ดี+ทำให้นิติกรรมจำนองกับบุคคลที่ 3 เสียเปล่าไปด้วยไม่ อ้างฎีกาที่ 1076/2480
of 5