คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 132 (3)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 28 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2457/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดการสมรสหลังจำเลยเสียชีวิต และการจำหน่ายคดีที่ไม่มีประโยชน์ในการพิจารณา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องแย้งของจำเลยที่ขอให้บังคับโจทก์ไปจดทะเบียนหย่าให้จำเลยตามข้อตกลง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยจึงยื่นฎีกาขอให้รับฟ้องแย้งไว้พิจารณาต่อไป แต่หลังจากยื่นฎีกาแล้ว จำเลยถึงแก่กรรม ดังนี้ การสมรสระหว่างโจทก์จำเลยจึงสิ้นสุดลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 1501 จึงไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป ให้จำหน่ายคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2704-2705/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากผู้ตายไม่มีผู้แทน และการละเมิดสิทธิครอบครองที่ดิน
โจทก์ที่ 3 และจำเลยทั้งสองสำนวนฎีกา ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาว่า หลังจากศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาแล้ว โจทก์ที่ 4 ซึ่งเป็นโจทก์ในสำนวนหลังด้วยถึงแก่กรรม ไม่ปรากฏว่าทายาทหรือผู้จัดการทรัพย์มรดกของโจทก์ที่ 4 หรือบุคคลอื่นใดที่ปกครองทรัพย์มรดกไว้ได้ยื่นคำขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 4 และจำเลยทั้งสี่ก็มิได้มีคำขอให้ศาลมีหมายเรียกบุคคลดังกล่าวเข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 4 ภายในเวลากำหนดหนึ่งปีนับแต่ความปรากฏแก่ศาล จึงต้องจำหน่ายคดีสำนวนหลังออกจากสารบบความศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2704-2705/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากคู่ความถึงแก่กรรม และการรบกวนการครอบครองที่ดินพร้อมค่าเสียหาย
โจทก์ที่ 3 และจำเลยทั้งสองสำนวนฎีกา ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาว่า หลังจากศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาแล้ว โจทก์ที่ 4ซึ่งเป็นโจทก์ในสำนวนหลังด้วยถึงแก่กรรม ไม่ปรากฏว่าทายาทหรือผู้จัดการทรัพย์มรดกของโจทก์ที่ 4 หรือบุคคลอื่นใดที่ปกครองทรัพย์มรดกไว้ได้ยื่นคำขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 4 และจำเลยทั้งสี่ก็มิได้มีคำขอให้ศาลมีหมายเรียกบุคคลดังกล่าวเข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 4 ภายในเวลากำหนดหนึ่งปีนับแต่ความปรากฏแก่ศาล จึงต้องจำหน่ายคดีสำนวนหลังออกจากสารบบความศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1457/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดของคดีหย่าเมื่อจำเลยถึงแก่กรรม ศาลจำหน่ายคดีและคืนค่าธรรมเนียม
คดีฟ้องหย่าและขอแบ่งทรัพย์สิน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกาขอให้มีการหย่าหรือขอให้สืบพยานโจทก์ต่อไป ขณะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ปรากฏว่าจำเลยถึงแก่กรรม ดังนั้น การสมรสย่อมสิ้นสุดลงดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยปัญหาที่โจทก์ฎีกาต่อไป ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีจากสารบบความ และคืนค่าตัดสินกับค่าคำบังคับให้โจทก์ค่าฤชาธรรมเนียมนอกนั้นให้เป็นพับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1457/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดการสมรสด้วยการเสียชีวิตของคู่สมรส และผลกระทบต่อคดีฟ้องหย่า
คดีฟ้องหย่าและขอแบ่งทรัพย์สิน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกาขอให้มีการหย่าหรือขอให้สืบพยานโจทก์ต่อไป ขณะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ปรากฏว่าจำเลยถึงแก่กรรม ดังนั้น การสมรสย่อมสินสุดลงดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยปัญหาที่โจทก์ฎีกาต่อไป ศาลฎีกาย่อมจำหน่ายคดีจากสารบบความ และคืนค่าตัดสินกับค่าคำบังคับให้โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมนอกนั้นให้เป็นพับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดคดีถอดถอนผู้พิทักษ์เมื่อผู้ถูกพิทักษ์ถึงแก่ความตาย สิทธิการรับมรดกความ
คดีเรื่องถอดถอนผู้พิทักษ์ ไม่เป็นคดีที่ทายาทจะรับมรดกความได้
คดีที่โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาถอดถอนจำเลยจากการเป็นผู้พิทักษ์โจทก์ เมื่อโจทก์ซึ่งอยู่ในความพิทักษ์ถึงแก่ความตายในระหว่างฎีกา ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป ศาลฎีกาย่อมมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีถอดถอนผู้พิทักษ์เมื่อผู้ถูกพิทักษ์ถึงแก่ความตาย สิทธิการรับมรดกความ
คดีเรื่องถอดถอนผู้พิทักษ์ ไม่เป็นคดีที่ทายาทจะรับมรดกความได้
คดีที่โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาถอดถอนจำเลยจากการเป็นผู้พิทักษ์โจทก์ เมื่อโจทก์ซึ่งอยู่ในความพิทักษ์ถึงแก่ความตายในระหว่างฎีกา ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของจำเลยต่อไป ศาลฎีกาย่อมมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสิทธิผู้จัดการมรดกเมื่อผู้จัดการมรดกถึงแก่กรรม ทำให้ศาลจำหน่ายคดี
การเป็นผู้จัดการมรดก เป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ที่ได้รับการตั้ง
คดีที่ร้องขอให้ถอดถอนผู้จัดการมรดกเมื่อผู้จัดการมรดกถึงแก่กรรมในระหว่างฎีกา ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของผู้จัดการมรดกต่อไป ศาลฎีกาย่อมมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสถานะผู้จัดการมรดกเมื่อผู้จัดการมรดกถึงแก่กรรม และการจำหน่ายคดี
การเป็นผู้จัดการมรดก เป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ที่ได้รับการตั้ง
คดีที่ร้องขอให้ถอดถอนผู้จัดการมรดกเมื่อผู้จัดการมรดกถึงแก่กรรมในระหว่างฎีกา ก็ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของผู้จัดการมรดกต่อไป ศาลฎีกาย่อมมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากผู้ร้องถึงแก่กรรมและไม่มีผู้ดำเนินการแทน
ในกรณีที่ผู้ร้องยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่สั่งว่าเรือนพิพาทที่โจทก์ยึดฟังไม่ได้ว่าเป็นของผู้ร้อง ต่อมาปรากฏว่าผู้ร้องได้ถึงแก่มรณะและตั้งแต่นั้นมาจนบัดนี้เป็นเวลาเกินกว่า 1 ปีแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดเข้ามาเป็นคู่ความแทนผู้ร้อง ดังนี้ ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีร้องขัดทรัพย์ออกเสียจากสารบบความศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(3)
of 3