พบผลลัพธ์ทั้งหมด 327 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2439/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินของผู้อื่นเมื่อไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ และการกีดขวางทางดังกล่าว
ที่ดินของโจทก์แยกออกมาจากที่ดินของจำเลยที่1เมื่อไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะโจทก์มีสิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินของจำเลยที่1โดยไม่ต้องใช้ค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1350 ปัจจุบันรถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งโจทก์เป็นผู้ที่มีอาชีพหาซื้อสุกรมาชำแหละเนื้อสุกรขายการใช้รถยนต์ผ่านทางเข้าออกทางพิพาทมิได้เป็นเรื่องเกินความจำเป็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2439/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางจำเป็นเมื่อที่ดินไม่มีทางออก และการรบกวนการใช้ทางของผู้อื่น
ที่ดินของโจทก์แยกออกมาจากที่ดินของจำเลยที่1เมื่อไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะโจทก์มีสิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินของจำเลยที่1โดยไม่ต้องใช้ค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1350 ปัจจุบันรถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งโจทก์เป็นผู้ที่มีอาชีพหาซื้อสุกรมาชำระแหละเนื้อสุกรขายการใช้รถยนต์ผ่านเข้าออกทางพิพาทมิได้เป็นเรื่องเกินความจำเป็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2439/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินของผู้อื่นเมื่อไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ และการรุกล้ำกีดขวางทาง
ที่ดินของโจทก์แยกออกมาจากที่ดินของจำเลยที่ 1เมื่อไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะ โจทก์มีสิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินของจำเลยที่ 1 โดยไม่ต้องใช้ค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 ปัจจุบันรถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโจทก์เป็นผู้ที่มีอาชีพหาซื้อสุกรมาชำระแหละเนื้อสุกรขาย การใช้รถยนต์ผ่านเข้าออกทางพิพาทมิได้เป็นเรื่องเกินความจำเป็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2439/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางจำเป็น: ที่ดินไม่มีทางออก รถยนต์คือปัจจัยจำเป็น
ที่ดินของโจทก์แยกออกมาจากที่ดินของจำเลยที่ 1 เมื่อไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะ โจทก์มีสิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินของจำเลยที่ 1 โดยไม่ต้องใช้ค่าทดแทนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1350
ปัจจุบันรถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโจทก์เป็นผู้ที่มีอาชีพหาซื้อสุกรมาชำแหละเนื้อสุกรขายการใช้รถยนต์ผ่านทางเข้าออกทางพิพาทมิได้เป็นเรื่องเกินความจำเป็น
ปัจจุบันรถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโจทก์เป็นผู้ที่มีอาชีพหาซื้อสุกรมาชำแหละเนื้อสุกรขายการใช้รถยนต์ผ่านทางเข้าออกทางพิพาทมิได้เป็นเรื่องเกินความจำเป็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2437/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องทางเดินเมื่อที่ดินถูกแบ่งแยก: สิทธิมีเฉพาะที่ดินที่ถูกแบ่งแยกเท่านั้น
เดิมที่ดินของโจทก์ จำเลยที่ 1 และที่ 3 เป็นที่ดินแปลงเดียวกันที่ดินแปลงดังกล่าวมีทางออกไปสู่ทางสาธารณะ ต่อมาที่ดินแปลงดังกล่าวถูกแบ่งแยกจนเป็นเหตุให้ที่ดินแปลงที่ตกเป็นของโจทก์ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะได้ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินผ่านไปออกทางสาธารณะได้เฉพาะบนที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1350
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 เปิดทางเดินผ่านไปออกทางสาธารณะซึ่งจะต้องผ่านที่ดินอีกแปลงหนึ่งของจำเลยที่ 1 ซึ่งไม่ได้แบ่งแยกจากที่ดินพิพาท กรณีไม่ต้องตาม ป.พ.พ. มาตรา 1350 โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1และที่ 3 ได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 เปิดทางเดินผ่านไปออกทางสาธารณะซึ่งจะต้องผ่านที่ดินอีกแปลงหนึ่งของจำเลยที่ 1 ซึ่งไม่ได้แบ่งแยกจากที่ดินพิพาท กรณีไม่ต้องตาม ป.พ.พ. มาตรา 1350 โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1และที่ 3 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2437/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องทางเดินผ่านที่ดินแปลงแยก: โจทก์มีสิทธิเฉพาะบนที่ดินที่แบ่งแยกเท่านั้น ไม่รวมที่ดินเดิมที่ไม่ถูกแบ่งแยก
เดิมที่ดินของโจทก์จำเลยที่1และที่3เป็นที่ดินแปลงเดียวกันที่ดินแปลงดังกล่าวมีทางออกไปสู่ทางสาธารณะต่อมาที่ดินแปลงดังกล่าวถูกแบ่งแยกจนเป็นเหตุให้ที่ดินแปลงที่ตกเป็นของโจทก์ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะได้โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินผ่านไปออกทางสาธารณะได้เฉพาะบนที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1350 โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่1และที่3เปิดทางเดินผ่านไปออกทางสาธารณะซึ่งจะต้องผ่านที่ดินอีกแปลงหนึ่งของจำเลยที่1ซึ่งไม่ได้แบ่งแยกจากที่ดินพิพาทกรณีไม่ต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1350โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่1และที่3ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2315/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางจำเป็น: แม้มีทางอื่น แต่หากไม่ปลอดภัยหรือไม่สะดวกใช้ได้จริง ก็ยังคงมีสิทธิใช้ทางพิพาทเดิมได้
นอกจากทางพิพาทแล้วโจทก์ยังมีทางเดินริมเขื่อนที่ออกสู่ทางสาธารณะได้แต่ทางดังกล่าวทางด้านซ้ายจะต้องผ่านที่ดินของบุคคลอื่นซึ่งมีประตูถ้าเจ้าของที่ดินปิดประตูโจทก์ก็ไม่สามารถใช้ทางดังกล่าวได้ส่วนทางด้านขวาจะต้องข้ามคลองไปตามคานคอนกรีตเล็กๆผู้เดินอาจตกลงไปในคลองได้จึงไม่ปลอดภัยดังนั้นทางพิพาทยังมีความจำเป็นแก่โจทก์ที่จะใช้ออกสู่ทางสาธารณะอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1773-1782/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิขอทางจำเป็นเมื่อที่ดินถูกปิดล้อม - การแบ่งแยกที่ดินเดิมและผลกระทบต่อสิทธิในการออกสู่ทางสาธารณะ
ที่ดินของจำเลยทั้งสี่ปิดล้อมที่ดินของโจทก์ทั้งสิบจนไม่สามารถออกสู่ถนนสาธารณะได้เมื่อเดิมที่ดินของโจทก์ที่1ถึงที่6กับที่ดินของจำเลยทั้งสี่เป็นที่ดินแปลงเดียวกันเมื่อแบ่งแยกแล้วที่ดินของโจทก์ที่1ถึงที่6ไม่สามารถออกไปสู่ทางสาธารณะได้โจทก์ที่1ถึงที่6จึงมีสิทธิขอให้เปิดทางจำเป็นได้โดยไม่ต้องเสียค่าตอบแทนส่วนที่ดินของโจทก์ที่7ถึงที่10มีที่ดินของจำเลยทั้งสี่ล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้โจทก์ที่7ถึงที่10จึงมีสิทธิขอให้เปิดทางจำเป็นได้และการที่ศาลสั่งให้รวมพิจารณาและพิพากษาเข้าด้วยกันก็เพื่อความสะดวกในการพิจารณาเท่านั้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินของโจทก์ทั้งสิบในแต่ละสำนวนถูกที่ดินของจำเลยทั้งสี่ล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่เปิดทางจำเป็นให้แก่โจทก์ทั้งสิบในแต่ละสำนวนตามความจำเป็นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1773-1782/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางจำเป็น: ที่ดินแปลงเดียวกันแบ่งแยก - สิทธิขอเปิดทาง - การรวมพิจารณาคดี - การจดทะเบียนภารจำยอม
ที่ดินของจำเลยทั้งสี่ปิดล้อมที่ดินของโจทก์ทั้งสิบจนไม่สามารถออกสู่ถนนสาธารณะได้เมื่อเดิมที่ดินของโจทก์ที่1ถึงที่6กับที่ดินของจำเลยทั้งสี่เป็นที่ดินแปลงเดียวกันเมื่อแบ่งแยกแล้วที่ดินของโจทก์ที่1ถึงที่6ไม่สามารถออกไปสู่ทางสาธารณะได้โจทก์ที่1ถึงที่6จึงมีสิทธิขอให้เปิดทางจำเป็นได้โดยไม่ต้องเสียค่าตอบแทนส่วนที่ดินของโจทก์ที่7ถึงที่10มีที่ดินของจำเลยทั้งสี่ล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้โจทก์ที่7ถึงที่10จึงมีสิทธิขอให้เปิดทางจำเป็นได้และการที่ศาลสั่งให้รวมพิจารณาและพิพากษาเข้าด้วยกันก็เพื่อความสะดวกในการพิจารณาเท่านั้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินของโจทก์ทั้งสิบในแต่ละสำนวนถูกที่ดินของจำเลยทั้งสี่ล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่เปิดทางจำเป็นให้แก่โจทก์ทั้งสิบในแต่ละสำนวนตามความจำเป็นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1773-1782/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทางจำเป็น: การปิดล้อมที่ดินโดยรอบทำให้เจ้าของที่ดินไม่มีทางออก ถือเป็นเหตุให้มีสิทธิขอทางจำเป็นได้
ที่ดินของจำเลยทั้งสี่ปิดล้อมที่ดินของโจทก์ทั้งสิบจนไม่สามารถออกสู่ถนนสาธารณะได้ เมื่อเดิมที่ดินของโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 6กับที่ดินของจำเลยทั้งสี่เป็นที่ดินแปลงเดียวกัน เมื่อแบ่งแยกแล้วที่ดินของโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 6 ไม่สามารถออกไปสู่ทางสาธารณะได้โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 6 จึงมีสิทธิขอให้เปิดทางจำเป็นได้ โดยไม่ต้องเสียค่าตอบแทน ส่วนที่ดินของโจทก์ที่ 7 ถึงที่ 10 มีที่ดินของจำเลยทั้งสี่ล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้โจทก์ที่ 7 ถึงที่ 10จึงมีสิทธิขอให้เปิดทางจำเป็นได้ และการที่ศาลสั่งให้รวมพิจารณาและพิพากษาเข้าด้วยกันก็เพื่อความสะดวกในการพิจารณาเท่านั้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินของโจทก์ทั้งสิบในแต่ละสำนวนถูกที่ดินของจำเลยทั้งสี่ล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่เปิดทางจำเป็นให้แก่โจทก์ทั้งสิบในแต่ละสำนวนตามความจำเป็นได้