คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พลางกูร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,340 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 952/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของกรรมสิทธิในโฉนดมีสิทธิเรียกร้องโฉนดคืนได้ แม้จะมีการครอบครองปรปักษ์ แต่ต้องพิสูจน์การครอบครองที่ชอบธรรม
ผู้ใดดมีชื่ออยู่ในโฉนดที่ดินเบื้องต้นต้องสันนิษฐานไว้ว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิตามที่ปรากฎในโฉนดนั้นโฉนดที่ดินซึ่งมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิเปลี่ยนมาใหม่ ๆ เพียง 4 - 5 ปีเท่านั้นยังฟังว่าผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิขาดการครอบครองมิได้ ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.57 (3) ก.172,177 โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกโฉนดที่ดินของโจทก์ซึ่งจำเลยเก็บรักษาไว้ จำเลยให้การว่าที่เป็นของวัดซึ่งจำเลยเป็นมัคคนายกและเวยยาวัจกร แต่ไม่ได้ต่อสู้ว่าฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัวมิได้ ดังนี้ศาลจะตัดสินยกฟ้องเพราะเหตุที่โจทก์ไม่ได้ฟ้องวัดด้วยนั้นมิได้ และกรณีเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเรียกวัดเข้ามาเป็นจำเลยร่วม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความเท็จของคำเบิกความ: โจทก์ต้องนำสืบให้เห็นว่าคำให้การชั้นศาลเป็นเท็จ ไม่สามารถใช้คำให้การชั้นสอบสวนมายันได้
ฟ้องหาว่าจำเลยเบิกความเท็จเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องสืบว่าคำเบิกความของจำเลยเป็นเท็จเพียงแต่เอาคำให้การชั้นศาลว่าคำให้การชั้นศาลเป็นเท็จนั้นรับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ทางในที่ดินของเอกชน แม้เปิดให้ใช้เป็นเวลานาน ก็ไม่ทำให้เป็นทางสาธารณะ หากไม่มีการแสดงเจตนาสละกรรมสิทธิ์
ลำรางในที่ดินของเอกชน+เจ้าของที่ดินได้ปล่อยให้เรือเดินไปมากว่า 10 ปี แต่ไม่ปรากฎว่าเจ้าของที่ดินได้เวนคืนหรือสละกรรมสิทธิ์โดยการยกให้อย่างไรแล้ว ไม่ทำให้ลำรางนั้นกลายเป็นที่สาธารณะขึ้นกรณีดังนี้เพียงแต่ก่อให้เกิดภาระจำยอมแก่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ข้างเคียงเท่านั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เปิดทางซึ่งเป็นภาระจำยอมในเมื่อสามยกทรัพย์เป็นของเอกชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเดินทางมารับหน้าที่ถือเป็นค่าจ้าง เสียภาษีเงินได้ตามกฎหมาย
เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างในค่าเดินทางมารับหน้าที่+ต้องถือว่าเป็นประโยชน์+ซึ่งนายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นค่าแรงงานตาม ม.7(ก) ไม่ใช่เป็นเบี้ยทดแทนรายจ่ายพิเศษหรือประโยชน์เพิ่มอันจ่ายโดยสุจริตเป็นโสหุ้ยอันระบุฉะเพาะซึ่งลูกจ้างต้องจ่าย+การปฏิบัติการตามหน้าที่ตาม ม.8 วรรค 2 และเงินจำนวนที่กล่าวนี้จะต้องเสียภาษีเงินได้+คดีอังกฤษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 920/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีวิวาทต้องระบุรายละเอียดการทำร้าย หากพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีการวิวาทกันจริง ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องบรรยายความ+จำเลยสมัคร์ใจวิวาท+ร้ายกันเป็นเหตุให้คนตายและบาดเจ็บดังนี้เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่ามีการสมัครใจวิวาทต่อสู้กันแล้วแม้จะได้ความว่าใครทำร้ายใครต้องยกฟ้องโจทก์เหตุในส่วนลักษณคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องลักทรัพย์ผิดวันกลางคืน: เวลาระหว่างพระอาทิตย์ตกถึงขึ้นเป็นวันเดียวกัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์เมื่อคืนวันที่ 10 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลย+การลักเมื่อเวลาราว+ นาฬิกา ของวันคืนวันที่ 10 ดังนี้ไม่เรียกว่าโจทก์ฟ้องผิดวันกลางคืนหมายความถึงเวลากระหว่างตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปจนถึงพระอาทิตย์ขึ้น อ้างฎีกาที่ 1272/2479 และ ที่ 502/2481

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 869/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวด้วยอาวุธเมื่อถูกทำร้ายก่อน: การกระทำที่สมเหตุสมผล
พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์หลังกู้เงินและมอบที่นาเป็นหลักประกัน หากผู้กู้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด สิทธิครอบครองจะเปลี่ยนเป็นของเจ้าหนี้
พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์กู้เงินกันแล้วมอบที่นามือเปล่าให้ทำต่างดอกเบี้ยโดยสัญญากันว่าเมื่อถึงกำหนด 2 ปีผู้กู้ไม่มาเอานาไปก็ยอมมอบนาให้แก่ผู้ให้กู้ครั้นครบกำหนด 2 ปีผู้กู้ก็ไม่ชำระเงิน ผู้ให้กู้จึงครอบครองที่นาต่อมานับแต่วันครบกำหนดเกิน 1 ปีแล้วดังนี้ผู้กู้จะเอาที่นาคืนมิได้ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.84 (1) ,183 ประเด็น เอกสารซึ่งคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายรับรองความเท็จจริงไว้แล้ว แม้ในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบถึงปีที่ลงไว้ในเอกสารนั้นผิดไปก็ดี ก็ไม่เรียกว่าโจทก์สืบผิดประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเบิกความเท็จ: อำนาจฟ้องขึ้นอยู่กับความพาดพิงโดยตรงต่อโจทก์
ศาลขั้นต้นและศาลอุทธรณืพิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกาได้แต่ข้อกฎหมาย,
ปัญหาที่ว่าคำเบิกความของจำเลยที่โจทก์อ้างว่าเป็นเท็จพาดพิงมาถึงตัวโจทก์หรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายไม้สัก: การทำสัญญาเป็นหนังสือและวางมัดจำเป็นองค์ประกอบสำคัญ
จำเลยยื่นประมูลจะส่งไม้สักให้โจทก์ ๆ ได้ตกลงตามใบประมูลนั้นแล้ว แต่ในใบประมูลของจำเลยก็ดี ในคำสนองรับของโจทก์ก็ดี มีข้อความแสดงว่าโจทก์จำเลยยังจะต้องทำสัญญาซื้อขายกันตามธรรมเนียมอีกดังนี้ ตราบใดที่ยังมิได้ทำสัญญาซื้อขายกันจะเรียกว่าได้มีสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยอันสมบูรณ์แล้วหาได้ไม่ "กรณีเป็นที่สงสัย" ตามความในมาตรา 366 หรือไม่นั้นเป็นข้อเท็จจริงเมื่อจำเลยทำคำให้การต่อสู้คดีบรรยายข้อความเข้าในบทกฏหมายมาตราใดแล้ว แม้มิได้อ้างบทมาตรานั้นมาด้วยก็ดี ศาลก็มีอำนาจหยิบยกเอามาตรานั้นขึ้นมาเป็นบทวินิจฉัยได้ไม่เป็นการผิดวิธีพิจารณา (ดูฏีกาที่ 931/2480)
of 134