พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,340 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาต่อส่วนตัวต้องมีการร้องทุกข์ก่อน หากไม่มี ศาลไม่รับพิจารณา
ในคดีที่หนักงานอัยยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำผิดหลายอย่างทั้งความผิดต่อส่วนตัวและความผิดอาญาแผ่นดิน เมื่อไม่ปรากฎ++ฟ้องโดยชัดเจนว่าความผิดต่อส่วนตัวนั้นผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอให้นำคดีขึ้นว่ากล่าวแล้ว แม้จะกล่าวในฟ้องว่าได้มีการสอบสวนแล้วก็ตามศาลจะรับพิจารณาความผิดต่อส่วนตัวนั้นมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1169/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์บาดแผลสาหัสต้องมีพยานหลักฐานประกอบ แม้ใบชันสูตรระบุสาหัสก็ไม่เพียงพอ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บสาหัสและอ้างใบชันสูตร์บาดแผล เมื่อโจทก์ไม่มีพะยานมาสืบประกอบให้ชัดว่าบาดแผลนั้นเข้าเกณฑ์สาหัสในข้อ 1 ข้อใดตาม ม. 256 แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ตามจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายสาหัสมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ม. 256 วางโทษ 2 ปี ลดกึ่งหนึ่งแล้วรอการลงอาญา ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษจำเลยตาม ม. 254 วางโทษ 1 ปี 6 เดือน ลดกึ่งหนึ่ง คงรอการลงอาญานี้ โจทก์ฎีกาได้แต่ข้อกฎหมาย บาดแผลสาหัสหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1168/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์โทษและการไม่ขอเปลี่ยนแปลงค่าสินบนนำจับ ศาลฎีกายกฟ้องเนื่องจากไม่ใช่ส่วนหนึ่งของคำขอ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์แก้โทษจำเลยให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่มิได้ขอในเรื่องค่าสินบนนำจับด้วยแม้ศาลอุทธรณ์จะได้แก้โทษจำเลยตามที่โจทก์ขอมาก็ดีโจทก์จะขอให้ศาลฎีกาเปลี่ยแปลงค่าสินบนนำจับไม่ได้ค่าสินบนนำจับไม่ใช่โทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขู่เรียกทรัพย์สินด้วยการขู่ทำร้ายร่างกายและการลักทรัพย์ ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยไปพูดขู่เขาว่าถ้าไม่อยากถูกตีหัวและถูกลักทรัพย์แล้วให้ ๆ เงินแก่จำเลยไป 4 บาท ดังนี้ จำเลยมีผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่เกิดเหตุสำคัญ: ศาลฎีกาย้อนสำนวนเมื่อศาลอุทธรณ์ยกฟ้องจากสถานที่เกิดเหตุไม่ตรงกับฟ้อง
+++สำนวนในคดีที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าสถานที่เกิดเหตุที่พิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง จึงยกฟ้องโดยไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงอื่นต่อไปศาลฎีกาเห็นว่าสถานที่เกิดเหตุตรงกับฟ้องแล้วดังนี้ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงต่อไปใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: การวิพากษ์วิจารณ์วิธีการสอบสวนที่เข้าข่ายการดูหมิ่น
กล่าวว่าเจ้าพนักงานตำรวจ++สอบสวนโดยไม่ยุตติธรรม แกล้งบอกให้จดคำให้การไม่ตรงต่อความจริง++เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มีผิดตาม ม. 116
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานยาเสพติดต้องชัดเจน การตรวจทางวิทยาศาสตร์ต้องเปิดโอกาสให้จำเลยตรวจสอบ
++++
++++ที่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อผู้พิพากษาซึ่งนั่ง+++ในศาลชั้นต้นรับอนุญาตให้ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ดังนี้ ศาลฎีกา++พิจารณาต่อไปได้+++โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยมี+++ฝิ่นซึ่งมีมอร์ฟินผสมอยุ่ด้วย ในชั้นพิจารณาโจทก์อ้างผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้ตรวจแยกธาตุยารายนี้เบิกความว่ามีมอร์ฟินจริง แต่โจทก์มิได้นำยาที่ได้แยกธาตุแล้วมาเป็นพะยานที่ศาลและ++++ให้จำเลยตรวจดูด้วย++++ยาที่มีได้ตรวจแยก++++เป็นพะยานเท่านั้น++ลงโทษจำเลยมิได้++ที่โจทก์จะให้ผู้ชำนาญตรวจแยกธาตุของกลางจำเลยควรมีโอกาศส่งผู้ชำนาญฝ่ายตนไปตรวจการ++ด้วย
++++ที่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อผู้พิพากษาซึ่งนั่ง+++ในศาลชั้นต้นรับอนุญาตให้ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ดังนี้ ศาลฎีกา++พิจารณาต่อไปได้+++โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยมี+++ฝิ่นซึ่งมีมอร์ฟินผสมอยุ่ด้วย ในชั้นพิจารณาโจทก์อ้างผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้ตรวจแยกธาตุยารายนี้เบิกความว่ามีมอร์ฟินจริง แต่โจทก์มิได้นำยาที่ได้แยกธาตุแล้วมาเป็นพะยานที่ศาลและ++++ให้จำเลยตรวจดูด้วย++++ยาที่มีได้ตรวจแยก++++เป็นพะยานเท่านั้น++ลงโทษจำเลยมิได้++ที่โจทก์จะให้ผู้ชำนาญตรวจแยกธาตุของกลางจำเลยควรมีโอกาศส่งผู้ชำนาญฝ่ายตนไปตรวจการ++ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาทในที่สาธารณะไม่ถึงบาดเจ็บ: การลงโทษตามมาตรา 335(6) ชอบแล้ว
วิวาทกันในที่สาธารณสถานไม่ถึงบาดเจ็บเป็นผิด ตามมาตรา 335(6) ไม่ใช่ ม. 338(3)
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. 201, 213
++++ที่โจทก์ฎีกาแต่ส่งสำเนาฎีกาให้แก่จำเลย++หนึ่งมิได้ เมื่อการวินิจฉัยข้อฎีกาของโจทก์+++ในลักษณคดีก็+++โจทก์ให้เป็นผลถึงจำเลยที่ส่งสำเนาฎีกาให้+++นั้นด้วยอย่างไรเป็นเหตุในลักษณคดี
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. 201, 213
++++ที่โจทก์ฎีกาแต่ส่งสำเนาฎีกาให้แก่จำเลย++หนึ่งมิได้ เมื่อการวินิจฉัยข้อฎีกาของโจทก์+++ในลักษณคดีก็+++โจทก์ให้เป็นผลถึงจำเลยที่ส่งสำเนาฎีกาให้+++นั้นด้วยอย่างไรเป็นเหตุในลักษณคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ: จำเลยให้การต่างกันในชั้นสอบสวนและศาล แต่โจทก์พิสูจน์ไม่ได้ว่าคำให้การเดิมเป็นเท็จ จึงไม่สามารถลงโทษได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ+++พิจารณาได้ความแต่เพียงว่าจำเลยให้การในชั้นสอบสวนอย่างหนึ่ง ในชั้นศาลอีกอย่างหนึ่ง เมื่อโจทก์พิศูจน์ไม่ได้ว่าคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นเท็จ ลงโทษจำเลยมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานด่านภาษีในการตรวจไม้หลังเสียภาษี: ศาลตัดสินว่าไม่มีอำนาจดังกล่าว
เจ้าพนักงานด่านภาษีไม่มีอำนาจเรียกให้ผู้ที่ล่องไม้ผ่านด่านแวะเพื่อตรวจเมื่อไม้เหล่านั้นได้เสียค่าภาษีถูกต้องแล้ว