พบผลลัพธ์ทั้งหมด 90 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานยักย้ายและนำน้ำมันออกนอกประเทศถือเป็นกรรมเดียว ฟ้องซ้ำไม่ได้ตาม ป.วิ.อาญา ม.39(4)
การลักลอบขนน้ำมันออกจากสถานที่เก็บซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 ต่อเนื่องกับการลักลอบขนน้ำมันออกนอกประเทศไทย เมื่อโจทก์แยกฟ้องจำเลยเป็นความผิดสองสำนวนและความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว ส่วนอีกสำนวนหนึ่งคือฐานนำน้ำมันออกนอกประเทศซึ่งตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าการกระทำทั้งหลายของจำเลยตั้งแต่เริ่มยักย้ายก็ด้วยเจตนาอันเดียวที่จะนำออกนอกราชอาณาจักร จึงถือว่าการกระทำของจำเลยต้องด้วย ก.ม. หลายบทและไม่อาจแยกเป็นกะทงหนึ่งต่างหากได้ เมื่อจำเลยถูกลงโทษแล้ว ก็ลงโทษจำเลยอีกไม่ได้ ตาม ป.วิ.อาญา ม.39 (4) ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายบทจากการกระทำต่อเนื่องในที่เกิดเหตุเดียวกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ ก.ม.อาญา ม.73 แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่าจะต้องเพิ่มโทษจำเลยตาม ม.72 ศาลก็เพิ่มโทษจำเลยตาม ม.72 ได้ไม่เป็นการเกินคำขอ
จำเลยทำการชิงทรัพย์และได้ทำให้ทรัพย์ของเจ้าของทรัพย์เสียหายด้วย เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเกิดขึ้นในถานที่เดียวกันในเวลาติดต่อเนื่องกันด้วยเจตนามุ่งหวังในทรัพย์ไม่ขาดตอนกันเช่นนี้การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นความผิดหลายบทไม่ใช่หลายกะทง.
จำเลยทำการชิงทรัพย์และได้ทำให้ทรัพย์ของเจ้าของทรัพย์เสียหายด้วย เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเกิดขึ้นในถานที่เดียวกันในเวลาติดต่อเนื่องกันด้วยเจตนามุ่งหวังในทรัพย์ไม่ขาดตอนกันเช่นนี้การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นความผิดหลายบทไม่ใช่หลายกะทง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาต่างกรรมต่างวาระและการบังคับใช้บทกฎหมายตามฟ้อง
ในคดีที่จำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายผู้เสียหายหลายคนโจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยต่างมีมีดเป็นอาวุธสมคบกันฟันและแทงทำร้ายร่างกายนายสอาดกับนายใจถึงบาดเจ็บสาหัสทุพลภาพฯ" ในฟ้องมิได้กล่าวว่าการกระทำของจำเลยเป็นกิจลักษณะต่างกรรมต่างวาระและโจทก์ก็มิได้นำสืบว่าการกระทำร้ายได้เกิดขึ้นในลักษณะอย่างไร ทั้งคำขอท้ายฟ้องโจทก์มิได้อ้าง ม.71 ให้เรียงกะทงลงโทษ เพียงเท่านั้นยังไม่พอฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกะทง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 215/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความบทกฎหมายอาญาที่แก้ไขเพิ่มเติม กรณีฟ้องระบุเฉพาะมาตราเดิม ศาลลงโทษตามมาตราที่แก้ไขแล้วได้
ฟ้องหาว่าจำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังคนเพื่อเอาสินไถ+บทก.ม. ขอให้ลงโทษ+เพียง ก.ม.อาญามาตรา 270 เท่านั้น ย่อมต้องเข้าใจว่าหมายถึงมาตรา 270 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมโดย(ฉบับ ที่ 4)477 แล้ว ศาลงโทษตามพ.ร.บ.ที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ไม่เป็นการเกินคำขอท้ายฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้เป็นคำให้การในฐานะผู้เสียหาย ก็ถือเป็นการแจ้งความเท็จได้
การให้การหรือให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนในฐานะผู้เสียหายนั้น อยู่ในลักษณะที่เรียกว่าเป็นการแจ้งความต่อเจ้าพนักงานเหมือนกัน ถ้าเป็นเท็จก็ผิดตาม ก.ม.อาญา ม. 118
ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จ ในวันที่ 15 ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยนำความไปแจ้งในวันที่ 13 ส่วนวันที่ 15 เจ้าพนักงานเรียกตัวไปสอบสวน จำเลยให้ถ้อยคำเท็จอย่างเดียวกัน ถ้อยคำในวันที่ 13 ดังนี้ ลงโทษได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จ ในวันที่ 15 ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยนำความไปแจ้งในวันที่ 13 ส่วนวันที่ 15 เจ้าพนักงานเรียกตัวไปสอบสวน จำเลยให้ถ้อยคำเท็จอย่างเดียวกัน ถ้อยคำในวันที่ 13 ดังนี้ ลงโทษได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในคดีวิวาททำให้ถึงแก่ความตาย: การใช้มาตรา 253 แทนมาตรา 254
ในกรณีที่ปรากฏการตายขึ้นในที่วิวาท ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองทำร้าย แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ตายเพราะใครเป็นผู้ทำดังนี้ ศาลลงโทษตาม ม. 253.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418-419/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนคดีจากศาลทหารสู่ศาลพลเรือนตาม พ.ร.บ.กฎอัยยการศึก และการพิจารณาโทษที่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และให้ลงโทษจำคุกจำเลย 2 กะทง ๆ ละ 5 ปี รวมเป็น 10 ปีเมื่อโทษที่ลงแก่จำเลยแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปี แล้วจำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงตลอดทั้งฎีกาในเรื่องใช้ดุลยพินิจกำหนดโทษไม่ได้ ต้องห้ามตาม วิ.อาญา ม.218
อ้างฎีกาที่ 76/2484
คดีของศาลทหารที่โอนมาพิจารณาพิพากษายังศาลพลเรือน ตาม พ.ร.บ.กฎอัยยการศึก (ฉะบับที่ 3 ) พ.ศ. 2487 ม.8 แล้ว การพิจารณาพิพากษาคดีนั้นยังศาลทหารและการพิจารณาพิพากษาคดีนั้นยังศาลพลเรือนย่อมเป็นการชอบด้วยกฎหมายโดยตลอด
อ้างฎีกาที่ 76/2484
คดีของศาลทหารที่โอนมาพิจารณาพิพากษายังศาลพลเรือน ตาม พ.ร.บ.กฎอัยยการศึก (ฉะบับที่ 3 ) พ.ศ. 2487 ม.8 แล้ว การพิจารณาพิพากษาคดีนั้นยังศาลทหารและการพิจารณาพิพากษาคดีนั้นยังศาลพลเรือนย่อมเป็นการชอบด้วยกฎหมายโดยตลอด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีสุราและกินสุรา ศาลลงโทษตามบทหนักได้
การมีสุราและกินสุรา แม้เป็นความผิดสองกะทง ศาลก็ลงโทษในบทหนักมาตราเดียว ได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 71
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041-1042/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงซ้อน: หลอกลวงเอาทรัพย์สินจากผู้อื่นแล้วนำไปหลอกขายต่อ เป็นความผิดสองกระทง
หลอกลวงเอาหินจากคนหนึ่งแล้วเอามาหลอกขายให้แก่อีกคนหนึ่งว่าเป็นหินของตัวเป็นผิดสองกะทงตามมาตรา 304 กะทงหนึ่งตามมาตรา 306(4 ) อีก กะทงหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดเดียวกัน: ศาลทหารตัดสินแล้ว ไม่ฟ้องต่อศาลพลเรือนได้
กรนีที่เปนความผิดกะทงเดียวลเมิดกดหมายหลายบทและความผิดบางบทขึ้นสาลทหาน บางบทขึ้นสาลพลเรือนดังนี้ ถ้าได้ฟ้องจำเลยต่อสาลทหาน และสานทหานพิพากสาลงโทสจำเลยไนบทความผิดที่ขึ้นสาลทหานแล้ว จะมาฟ้องจำเลยต่อสาลพลเรือนไนความผิดบทที่ขึ้นสาลพลเรือนอีกไม่ได้ แม้ความผิดที่ขึ้นสาลพลเรือนจะเปนบทหนักว่าก็ตาม