พบผลลัพธ์ทั้งหมด 260 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198-199/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลาร้องทุกข์/ฟ้องคดีอาญา ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หากกฎหมายอาญาไม่ได้กำหนด
เมื่อกฎหมายอาญาไม่ได้บัญญัติถึงวิธีการกำหนดนับระยะเวลาร้องทุกข์และฟ้องร้องไว้ จึงต้องกำหนดนับระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 21 วรรค 2 เป็นบทบัญญัติในการคำนวณระยะเวลาจำคุกเท่านั้น
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 21 วรรค 2 เป็นบทบัญญัติในการคำนวณระยะเวลาจำคุกเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198-199/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับอายุความในคดีหมิ่นประมาท: ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เมื่อไม่มีกำหนดในประมวลกฎหมายอาญา
เมื่อกฎหมายอาญาไม่ได้บัญญัติถึงวิธีการกำหนดนับระยะเวลาร้องทุกข์และฟ้องร้องไว้ จึงต้องกำหนดนับระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 21 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติในการคำนวณระยะเวลาจำคุกเท่านั้น
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 21 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติในการคำนวณระยะเวลาจำคุกเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความร้องทุกข์โดยมีเจตนาให้ดำเนินคดี แม้มิได้มอบคดีให้เจ้าพนักงาน ก็ถือเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมาย
การที่พนักงานตำรวจจดรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันไว้ว่า"โจทก์ได้มาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมจำเลยหาว่าบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ คดีเรื่องนี้ผู้แจ้งจะฟ้องร้องด้วยตนเอง จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน" นั้น เห็นได้ว่า โจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดและแจ้งเพื่อจะให้จำเลยได้รับโทษ โดยโจทก์จะฟ้องร้องเอาความผิดแก่จำเลยเสียเอง จึงเป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำแจ้งความไม่ใช่คำร้องทุกข์, อายุความเบียดบังทรัพย์
คำแจ้งความของโจทก์ซึ่งได้แจ้งไว้ต่อสถานีตำรวจว่า "เมื่อวันที่ 31 ก.ค.05 เวลาประมาณ 16.00 น.เศษ นางทองใบหรือนางสมใจ ฤทธิ์ธรรยุทธร อายุ 31 ปี ภรรยาของผู้แจ้ง อยู่กันมา 10 ปีแล้ว ได้หนีออกจากบ้านไปพร้อมทั้งได้เอาของมีค่าไปด้วย คือ เงินสด 9,340 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง พระนางพญาเลี่ยมทอง 1 องค์ และพาบุตรไปด้วย 2 คน ไม่ทราบว่าไปที่ใด ตามหาไม่พบ จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานตาม ป.จ.ว.นี้" ไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมายถือได้ว่าโจทก์มิได้ร้องทุกข์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดิน, การขุดดินโดยไม่บอกกล่าว, และเจตนาในการรบกวนการครอบครอง
(1) ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์นั้น มิใช่ความผิดต่อเนื่องอายุความจึงต้องเริ่มนับแต่วันกระทำผิด (2) ความผิดที่ยอมความกันได้ (ความผิดต่อส่วนตัว) แม้จะอยู่ในบังคับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 ก็ดี แต่มาตรา 96 ได้บัญญัติอายุความให้สั้นกว่าอายุความในความผิดสามัญทั่วไป (3) ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1351 ไม่ได้หมายความว่าขุดที่ดินของเขาให้เสียหายได้ อนึ่ง แม้กฎหมายจะให้อำนาจไว้ตามมาตรา 1351 นี้ก็ดี แต่อำนาจนี้จะมีขึ้นก็ต่อเมื่อบอกกล่าวล่วงหน้าตามสมควร (4) การไม่ได้บอกกล่าวและเข้าไปขุดดิน ตอกเสา ฯลฯในที่ดินของผู้อื่นโดยพลการ เป็นการกระทำโดยเจตนาแล้ว แม้จะต้องการแต่ประโยชน์ไม่คำนึงว่าใครจะเสียหาย ถ้าการนั้นเป็นการรบกวนการครอบครอง ก็ผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 362 ไม่ต้องมีเจตนาพิเศษอย่างใดอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดของเจ้าพนักงานที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ ข่มขืนใจเอาทรัพย์สินจากประชาชน
จำเลยเป็นตำรวจประจำอยู่ในกรุงเทพ ฯ พากันไปแกล้งจับผู้เสียหายที่จังหวัดนครนายก หาว่าเล่นสลากกินรวบ ขอค้นบ้าน แล้วงัดลิ้นชักโต๊ะหยิบเอาเงินและปืนไปเพื่อประโยชน์แก่ตนดังนี้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 14+ แล้ว แม้จำเลยจะหยิบเอาเงินและปืนนั้นไปเองก็ดี แต่เมื่อเป็นเพราะเหตุที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงาน ผู้เสียหายจึงไม่กล้าแย่งคืน หรือเพราะผู้เสียหายอาจจะเข้าใจว่าจำเลยเอาไปเป็นวัตถุพยาน ดังนั้น จึงถือได้ว่า ผู้เสียหายได้มอบให้แก่จำเลยตามความหมายของมาตรานี้แล้ว และเมื่อจำเลยมีความผิดตามมาตรา 148 แล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยถึงมาตรา 157 อันเป็นบทลงโทษทั่วไปซึ่งมีอัตราโทษน้อยกว่าอีก
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2506 เฉพาะที่เกี่ยวกับมาตรา 148)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2506 เฉพาะที่เกี่ยวกับมาตรา 148)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีความผิดอันยอมความกันได้: การร้องทุกข์และการฟ้องภายใน 3 เดือน
คดีความผิดอันยอมความกันได้ แม้ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องคดีแดง ถ้าโจทก์มิได้ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่โจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีก็ขาดอายุความ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 เป็นบทบังคับว่า ถ้าไม่ได้ร้องทุกข์ในกำหนด คดีก็ขาดอายุความ ฉะนั้น ถ้าผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์แต่ละฟ้องเลยทีเดียว ก็ต้องฟ้องใน 3 เดือน เช่นเดียวกัน เพราะในกรณีอย่างนี้ถือได้ว่า การฟ้องนั้นเท่ากับการร้องทุกข์แล้ว จึงหาต้องร้องทุกข์อีกไม่
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 เป็นบทบังคับว่า ถ้าไม่ได้ร้องทุกข์ในกำหนด คดีก็ขาดอายุความ ฉะนั้น ถ้าผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์แต่ละฟ้องเลยทีเดียว ก็ต้องฟ้องใน 3 เดือน เช่นเดียวกัน เพราะในกรณีอย่างนี้ถือได้ว่า การฟ้องนั้นเท่ากับการร้องทุกข์แล้ว จึงหาต้องร้องทุกข์อีกไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีความผิดอันยอมความได้ การฟ้องถือเป็นการร้องทุกข์
คดีความผิดอันยอมความกันได้ แม้ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องคดีเองถ้าโจทก์มิได้ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่โจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดคดีก็ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 เป็นบทบังคับว่าถ้าไม่ได้ร้องทุกข์ในกำหนดคดีก็ขาดอายุความ ฉะนั้น ถ้าผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์แต่จะฟ้องเลยทีเดียว ก็ต้องฟ้องใน 3 เดือนเช่นเดียวกันเพราะในกรณีอย่างนี้ถือได้ว่าการฟ้องนั้นเท่ากับการร้องทุกข์แล้ว จึงหาต้องร้องทุกข์อีกไม่
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 เป็นบทบังคับว่าถ้าไม่ได้ร้องทุกข์ในกำหนดคดีก็ขาดอายุความ ฉะนั้น ถ้าผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์แต่จะฟ้องเลยทีเดียว ก็ต้องฟ้องใน 3 เดือนเช่นเดียวกันเพราะในกรณีอย่างนี้ถือได้ว่าการฟ้องนั้นเท่ากับการร้องทุกข์แล้ว จึงหาต้องร้องทุกข์อีกไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเพื่อไม่ให้ขาดอายุความถือเป็นคำร้องทุกข์ได้ คดีเช็คไม่มีการจ่ายเงิน
ผู้เสียหายแจ้งความว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาไม่ใช้เงิน ขอแจ้งความให้เจ้าพนักงานทราบไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงจะขาดอายุความ เจ้าพนักงานตำรวจรับแจ้งความไว้ และเรียกจำเลยไปสอบถามบันทึกคำให้การ ต่อมาเรียกคู่กรณีไปเปรียบเทียบแต่ไม่ตกลงกัน ผู้เสียหายจึงฟ้องคดีต่อศาล ดังนี้ถือว่า คำแจ้งความนั้นเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมายแล้ว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 33/2503 แต่แล้วถอนไป จึงไม่มีการลงมติ)
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเพื่อรักษาอายุความฟ้องร้องคดีเช็ค และการมีเจตนาออกเช็คโดยไม่ให้ธนาคารจ่ายเงิน
ผู้เสียหายแจ้งความว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาไม่ใช้เงินขอแจ้งความให้เจ้าพนักงานทราบไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงจะขาดอายุความ เจ้าพนักงานตำรวจรับแจ้งความไว้ และเรียกจำเลยไปสอบถามบันทึกคำให้การ ต่อมาเรียกคู่กรณีไปเปรียบเทียบแต่ไม่ตกลงกัน ผู้เสียหายจึงฟ้องคดีต่อศาล ดังนี้ถือว่าคำแจ้งความนั้นเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมายแล้ว(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 33/2503 แต่แล้วถอนไป จึงไม่มีการลงมติ)
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น