คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 177 วรรคสาม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 406 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3557/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินกระทบสิทธิบุคคลภายนอก ไม่อาจบังคับได้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวและที่ดินพิพาทจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของตึกแถวและที่ดินพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องและฟ้องแย้งขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์กับศ. และอ.เป็นโมฆะโดยศ. และอ. รับซื้อฝากที่ดินพิพาทไว้จากจำเลยจำเลยไม่เคยขายที่ดินพิพาทให้โจทก์โจทก์จึงไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทเป็นการต่อสู้ว่าจำเลยมีสิทธิในที่ดินพิพาทดีกว่าโจทก์เป็นฟ้องแย้งที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมแต่เมื่อมีผลกระทบถึงสิทธิของศ. และอ. บุคคลภายนอกที่มิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีด้วยจึงเป็นฟ้องแย้งที่ไม่อาจบังคับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสาม
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อสินค้าผ้าอนามัยไปจากโจทก์แล้วผิดนัดไม่ชำระราคา เป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาซื้อขาย ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยกล่าวอ้างว่า โจทก์ทำสัญญาตั้งจำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของโจทก์ในประเทศไทยโดยจำเลยต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการโฆษณาสินค้าและส่งเสริมการขายและโจทก์บอกเลิกสัญญาไม่ชอบ ขอให้โจทก์ชำระค่าเสียหาย เป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาตัวแทน ดังนี้ฟ้องแย้งเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้อง ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมตามป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต่างกรรมต่างวาระ: สัญญาซื้อขายกับสัญญาตัวแทนเป็นคนละเรื่องกัน จำเลยมีสิทธิฟ้องเป็นคดีต่างหาก
ฟ้องโจทก์กล่าวอ้างว่า จำเลยซื้อสินค้าผ้าอนามัยไปจากโจทก์แล้วไม่ชำระราคาค่าสินค้าให้แก่โจทก์ เป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาซื้อขาย ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยกล่าวอ้างว่าโจทก์ทำสัญญาตั้งจำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของโจทก์ในประเทศไทยโดยจำเลยต้องดำเนินการโฆษณาสินค้าและส่งเสริมการขาย จำเลยได้เสียค่าใช้จ่ายไปเป็นมูลค่ารวม355,312 บาท โจทก์บอกเลิกสัญญาไม่ชอบต้องชำระค่ายกเลิกสัญญาให้แก่จำเลยจำนวน 1,000,000 บาท เป็นการฟ้องบังคับให้โจทก์รับผิดตามสัญญาตัวแทน ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้องฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ชอบที่จำเลยจะฟ้องเป็นคดีต่างหากตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม หากไม่เกี่ยว ศาลชอบที่จะไม่รับฟ้องแย้งได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อสินค้าผ้าอนามัยไปจากโจทก์แล้วผิดนัดไม่ชำระราคาเป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาซื้อขายส่วนฟ้องแย้งของจำเลยกล่าวอ้างว่าโจทก์ทำสัญญาตั้งจำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของโจทก์ในประเทศไทยโดยจำเลยต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการโฆษณาสินค้าและส่งเสริมการขายและโจทก์บอกเลิกสัญญาไม่ชอบขอให้โจทก์ชำระค่าเสียหายเป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาตัวแทนดังนี้ฟ้องแย้งเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้องไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา177วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3474/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟ้องแย้งหลังศาลชั้นต้นพิพากษาคดีเดิมแล้ว และผลกระทบต่อการดำเนินคดี
โจทก์ฟ้องจำเลยให้การและฟ้องแย้งเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องแย้งจำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์มิได้ทำคำสั่งให้ศาลชั้นต้นงดการพิจารณาไว้ในระหว่างอุทธรณ์และเมื่อคดีเดิมศาลชั้นต้นได้พิจารณาพิพากษาเสร็จคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์จึงไม่มีเหตุที่จะให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งและรื้อฟื้นพิจารณาพิพากษาประเด็นตามฟ้องแย้งใหม่หากจำเลยเห็นว่ามีสิทธิตามฟ้องแย้งก็ชอบที่จะไปฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้รับฟ้องแย้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3474/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟ้องแย้งหลังศาลชั้นต้นพิพากษาคดีเดิมแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าไม่มีเหตุรื้อฟื้นพิจารณา
ศาลชั้นต้น ไม่รับฟ้องแย้ง จำเลย อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวแต่ศาลอุทธรณ์มิได้ให้ศาลชั้นต้นงดการพิจารณาไว้ในระหว่างอุทธรณ์และเมื่อศาลชั้นต้นได้พิจารณาพิพากษาคดีเดิมเสร็จโดยอยู่ระหว่างอุทธรณ์จึงไม่มีเหตุให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งและรื้อฟื้นพิจารณาพิพากษาประเด็นตามฟ้องแย้งใหม่กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเกี่ยวกับฟ้องเดิมหรือไม่การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้รับ ฟ้องแย้งจึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งขอเพิกถอนการประมูลที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม ศาลไม่รับฟ้องแย้ง
คำฟ้องของโจทก์อ้างว่าจำเลยอาศัยและปลูกอาคารอยู่ในที่ดินของโจทก์โจทก์ไม่ต้องการให้จำเลยอยู่อาศัยอีกต่อไปและให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์ จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้งว่าจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทมาโดยเปิดเผยไม่น้อยกว่า30ปีก่อนที่กรมธนารักษ์จะมีอำนาจหน้าที่ดูแลจำเลยจึงไม่ได้บุกรุกประกาศที่จังหวัดตากให้มีการประมูลปลูกสร้างอาคารในที่ดินพิพาทนั้นจังหวัดตากมีเจตนาไม่สุจริตเพราะขัดกับมติที่ประชุมของคณะกรรมการที่ราชพัสดุที่ไม่ให้ขับไล่ผู้บุกรุกและการกำหนดเงื่อนไขและเวลาของผู้เข้าประมูลเป็นการตัดสิทธิจำเลยไม่ให้เป็นผู้เข้าประมูลการประมูลดังกล่าวเป็นการไม่ชอบขอให้ยกเลิกเพิกถอนการประมูลการก่อสร้างใหม่คำฟ้องแย้งที่จำเลยขอให้เพิกถอนการประมูลการก่อสร้างของจังหวัดตากจึงเป็นเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม ศาลไม่รับพิจารณา
จำเลยฟ้องแย้งกระทรวงการคลังโจทก์ขอให้ยกเลิกเพิกถอนการประมูลการก่อสร้างอาคารในที่ดินราชพัสดุตามหนังสือของจังหวัดและดำเนินการเปิดประมูลใหม่เป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยอาศัยและปลูกอาคารอยู่ในที่ดินของโจทก์โจทก์ไม่ต้องการให้จำเลยอยู่อาศัยอีกต่อไปและให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์จำเลยไม่ปฏิบัติตามถือได้ว่าจำเลยอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยละเมิดทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายคำฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท การเพิกถอนการประมูล และข้ออ้างเรื่องเจตนาไม่สุจริตของเจ้าพนักงาน
คำฟ้องของโจทก์อ้างว่าจำเลยอาศัยและปลูกอาคารอยู่ในที่ดินของโจทก์ โจทก์ไม่ต้องการให้จำเลยอยู่อาศัยอีกต่อไป และให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทมาโดยเปิดเผยไม่น้อยกว่า 30 ปี ก่อนที่กรมธนารักษ์จะมีอำนาจหน้าที่ดูแลจำเลยจึงไม่ได้บุกรุก ประกาศที่จังหวัดตากให้มีการประมูลปลูกสร้างอาคารในที่ดินพิพาทนั้นจังหวัดตากมีเจตนาไม่สุจริต เพราะขัดกับมติที่ประชุมของคณะกรรมการที่ราชพัสดุที่ไม่ให้ขับไล่ผู้บุกรุกและการกำหนดเงื่อนไขและเวลาของผู้เข้าประมูลเป็นการตัดสิทธิจำเลยไม่ให้เป็นผู้เข้าประมูล การประมูลดังกล่าวเป็นการไม่ชอบขอให้ยกเลิกเพิกถอนการประมูลการก่อสร้างใหม่ คำฟ้องแย้งที่จำเลยขอให้เพิกถอนการประมูลการก่อสร้างของจังหวัดตากจึงเป็นเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2958/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์พิจารณาฟ้องแย้ง: ศาลมีอำนาจพิจารณาฟ้องแย้งได้หากเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม แม้ศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัย
แม้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยฟ้องแย้งของจำเลยว่า คำขอฟ้องแย้งไม่สามารถที่จะบังคับได้โดยไม่ได้วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งของจำเลยเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมหรือไม่ก็ตาม แต่ในชั้นอุทธรณ์การพิจารณาปัญหาว่า ฟ้องแย้งของจำเลยชอบที่ศาลจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจยกบทกฎหมายดังกล่าวขึ้นปรับแก่คดีได้ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องแย้งของจำเลยมิใช่ฟ้องแย้งที่ไม่อาจบังคับได้ดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย การที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับให้รับฟ้องแย้งของจำเลยไว้พิจารณา ศาลอุทธรณ์ชอบที่ยกขึ้นวินิจฉัยว่าฟ้องแย้งของจำเลยเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมเพื่อรับฟ้องแย้งของจำเลยต่อไปได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นแต่อย่างใด
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยซึ่งอาศัยอยู่ในที่พิพาทของโจทก์ จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยโจทก์มิได้ฟ้องคดีภายในหนึ่งปีนับแต่โจทก์ถูกแย่งการครอบครอง และจำเลยมีคำขอบังคับตามฟ้องแย้งให้โจทก์ไปจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของที่พิพาทให้จำเลยเป็นผู้ได้สิทธิครอบครอง หากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นคำฟ้องที่มีคำขอบังคับโจทก์โดยครบถ้วนแล้ว ส่วนการที่จะบังคับตามฟ้องแย้งของจำเลยได้หรือไม่ย่อมเป็นเรื่องที่ศาลจะต้องพิจารณาต่อไปในชั้นที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี เมื่อฟ้องแย้งของจำเลยเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีเข้าด้วยกันได้เช่นนี้ ชอบที่จะรับฟ้องแย้งของจำเลยไว้พิจารณา
of 41