คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 177 วรรคสาม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 406 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2679/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟ้องแย้งในคำให้การ: ศาลต้องตรวจและสั่งรับก่อนวินิจฉัยคดี หากใช้แบบพิมพ์ไม่ถูกต้อง คำพิพากษาไม่ชอบ
จำเลยฟ้องแย้งและมีคำขอบังคับโจทก์รวมมาในคำให้การแม้ไม่ได้พิมพ์คำว่า'และฟ้องแย้ง'ต่อจากคำว่า'คำให้การ'ในแบบพิมพ์ก็ตามก็เป็นฟ้องแย้งตรงกับบทบัญญัติของมาตรา177วรรคสามแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้วศาลแรงงานกลางมีหน้าที่ต้องตรวจฟ้องแย้งของจำเลยและมีคำสั่งตามที่พิจารณาเห็นสมควรว่าจะรับไว้พิจารณาต่อไปหรือไม่การที่ศาลแรงงานกลางมิได้มีคำสั่งเสียในชั้นแรกที่จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้งดังกล่าวและมาวินิจฉัยในคำพิพากษาว่าจะรับพิจารณาฟ้องแย้งไม่ได้เพราะมิได้ใช้แบบพิมพ์ให้ถูกต้องจึงไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟ้องแย้งในคดีขับไล่: ศาลอุทธรณ์นำข้อเท็จจริงใหม่มาพิจารณาไม่ได้ หากศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทโดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ว.โอนชำระหนี้จำนองแก่โจทก์ จำเลยอาศัยอยู่ในทรัพย์พิพาทโดยไม่มีสัญญาเช่ากับเจ้าของเดิม โจทก์แจ้งให้จำเลยและบริวารออกไปจากทรัพย์พิพาทของโจทก์แล้ว จำเลยเพิกเฉยขอให้ขับไล่จำเลยและบริวาร กับให้ใช้ค่าเสียหาย จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยได้ซื้อทรัพย์พิพาทจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ว.และได้ครอบครองทรัพย์พิพาทตามสัญญาโดยไม่ต้องเสียค่าเช่ามาก่อนที่โจทก์จะได้รับโอนทรัพย์พิพาทเป็นการชำระหนี้จำนองจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ว.จำเลยจึงมีสิทธิในทรัพย์พิพาทดีกว่าโจทก์ เพราะจำเลยมีสัญญาซื้อขายกับเจ้าของเดิม ฟ้องแย้งของจำเลยดังกล่าวจึงเกี่ยวกับคำฟ้องเดิม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องแย้งไว้พิจารณาอ้างว่าฟ้องแย้งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ก็ถือว่าไม่มีประเด็นแห่งคดีเกี่ยวกับฟ้องแย้ง ในอันที่ศาลชั้นต้นจะพิจารณาพิพากษา เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องแย้งเกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ก็ชอบที่จะต้องพิพากษายกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งของจำเลยแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ต่อไป การที่ศาลอุทธรณ์กลับวินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็นแห่งคดีเกี่ยวกับฟ้องแย้งศาลอุทธรณ์จึงนำข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้ว และที่ศาลชั้นต้นไม่รับไว้พิจารณามาพิพากษายกฟ้องแย้งไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิม ศาลอุทธรณ์มิอาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากัน
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทโดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ว. โอนชำระหนี้จำนองแก่โจทก์ จำเลยอาศัยอยู่ในทรัพย์พิพาทโดยไม่มีสัญญาเช่ากับเจ้าของเดิมโจทก์แจ้งให้จำเลยและบริวารออกไปจากทรัพย์พิพาทของโจทก์แล้ว จำเลยเพิกเฉยขอให้ขับไล่จำเลยและบริวาร กับให้ใช้ค่าเสียหาย จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยได้ซื้อทรัพย์พิพาทจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ว. และได้ครอบครองทรัพย์พิพาทตามสัญญาโดยไม่ต้องเสียค่าเช่ามาก่อนที่โจทก์จะได้รับโอนทรัพย์พิพาทเป็นการชำระหนี้จำนองจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ว.จำเลยจึงมีสิทธิในทรัพย์พิพาทดีกว่าโจทก์ เพราะจำเลยมีสัญญาซื้อขายกับเจ้าของเดิม ฟ้องแย้งของจำเลยดังกล่าวจึงเกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องแย้งไว้พิจารณาอ้างว่าฟ้องแย้งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ก็ถือว่าไม่มีประเด็นแห่งคดีเกี่ยวกับฟ้องแย้ง ในอันที่ศาลชั้นต้นจะพิจารณาพิพากษาเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องแย้งเกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ก็ชอบที่จะต้องพิพากษายกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งของจำเลยแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ต่อไป การที่ศาลอุทธรณ์กลับวินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็นแห่งคดีเกี่ยวกับฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์จึงนำข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้ว และที่ศาลชั้นต้นไม่รับไว้พิจารณามาพิพากษายกฟ้องแย้งไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตฟ้องแย้ง: ประเด็นเกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิมต้องรับไว้พิจารณา แต่ประเด็นอื่นที่ไม่เกี่ยวเนื่องต้องห้าม
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้าง ฯ โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 3 และจำเลยที่ 4 เป็นหุ้นส่วน ในระหว่างที่จำเลยร่วมกันดำเนินกิจการของโจทก์ 1 แทนโจทก์ที่ 2 ได้จำหน่ายรถไถและอุปกรณ์รถไถของโจทก์ที่ 1 แล้วไม่นำเงินส่งให้โจทก์ที่ 1 กับเอาตราและเอกสารของโจทก์ที่ 1 ไปด้วย ขอให้จำเลยชำระเงินค่าสินค้าที่จำหน่ายไป กับให้ส่งมอบตราและเอกสารแก่โจทก์ จำเลยที่ 4 ให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการและลูกจ้างของโจทก์ที่ 1 ได้รับรถไถของจำเลยที่ 4 ไปจำหน่ายแล้วไม่นำเงินส่งมอบแก่โจทก์ 1 และจำเลยที่ 4 ตามข้อตกลง ทั้งยังได้นำเงินของโจทก์ที่ 1 ไปใช้จ่ายเป็นส่วนตัวอีกด้วย ขอให้โจทก์ที่ 2 ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 4 กับให้โจทก์ที่ 3 ซึ่งเข้ามาช่วยโจทก์ที่ 2 ดำเนินการห้าง ฯ โจทก์ที่ร่วมรับผิดด้วย และให้โจทก์ที่ 2 ไปดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้าง ฯ โจทก์ที่ 1 และชำระบัญชี ดังนี้ ฟ้องแย้งในเรื่องที่เกี่ยวกับรถไถเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ส่วนฟ้องแย้งที่อ้างว่าโจทก์ที่ 2 และที่ 3 นำเงินของโจทก์ที่ 1 ไปใช้จ่ายเป็นส่วนตัว กับให้โจทก์ที่ 2 ไปดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างฯ โจทก์ที่ 1และชำระบัญชีนั้น เป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ต้องห้ามมิให้ฟ้องแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฟ้องแย้ง: ประเด็นเกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม vs. ประเด็นอื่นนอกเหนือ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างฯ โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 3 และจำเลยที่ 4 เป็นหุ้นส่วนในระหว่างที่จำเลยร่วมกันดำเนินกิจการของโจทก์ที่1 แทนโจทก์ที่ 2 ได้จำหน่ายรถไถและอุปกรณ์รถไถของโจทก์ที่ 1 แล้วไม่นำเงินส่งให้โจทก์ที่1 กับเอาตราและเอกสารของโจทก์ที่ 1 ไปด้วย ขอให้จำเลยชำระเงินค่าสินค้าที่จำหน่ายไป กับให้ส่งมอบตราและเอกสารแก่โจทก์จำเลยที่ 4 ให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการและลูกจ้างของโจทก์ที่ 1 ได้รับรถไถของจำเลยที่ 4 ไปจำหน่ายแล้วไม่นำเงินส่งมอบแก่โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 4 ตามข้อตกลง ทั้งยังได้นำเงินของโจทก์ที่ 1 ไปใช้จ่ายเป็นส่วนตัวอีกด้วยขอให้โจทก์ที่ 2 ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 4 กับให้โจทก์ที่ 3 ซึ่งเข้ามาช่วยโจทก์ที่ 2 ดำเนินการห้างฯ โจทก์ที่ 1 ร่วมรับผิดด้วย และให้โจทก์ที่ 2 ไปดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างฯ โจทก์ที่ 1 และชำระบัญชีดังนี้ ฟ้องแย้งในเรื่องที่เกี่ยวกับรถไถเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ส่วนฟ้องแย้งที่อ้างว่าโจทก์ที่ 2 และที่ 3 นำเงินของโจทก์ที่ 1 ไปใช้จ่ายเป็นส่วนตัวกับให้โจทก์ที่ 2 ไปดำเนินการจดทะเบียนเลิกห้างฯ โจทก์ที่ 1 และชำระบัญชีนั้น เป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมต้องห้ามมิให้ฟ้องแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2972/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไข ไม่เกี่ยวพันกับฟ้องเดิม จึงไม่สามารถรวมพิจารณาได้
ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นคำฟ้องที่ขอให้บังคับโจทก์ชำระค่าปรับและใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยก็ต่อเมื่อศาลพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากอาคารพิพาทแล้ว การที่จำเลยจะต้องออกไปจากอาคารพิพาทหรือไม่ ยังไม่เป็นที่แน่นอนโดยจะต้องรอจนคำพิพากษาขับไล่จำเลยตามฟ้องเดิมเสียก่อน ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสาม และมาตรา 179 วรรคสุดท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3469/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องเดิม ไม่รับฟ้องแย้งได้ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารพร้อมกับให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้เพื่อขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งว่า โรงงานของจำเลยปลูกรุกล้ำอยู่บนที่ดินของโจทก์โดยสุจริต จึงขอให้โจทก์จดทะเบียนสิทธิในที่ดินเป็นภารจำยอมแก่จำเลย ดังนี้ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมจึงไม่รับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2844/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายหน้าไม่ใช่ผู้ซื้อ: ศาลฎีกายืนตามข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นนายหน้า ไม่ต้องรับผิดชำระค่าเครื่องปรับอากาศ ฟ้องแย้งค่านายหน้าไม่สามารถอุทธรณ์ฎีกาได้
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินค่าซื้อเครื่องปรับอากาศ 110,000 บาท แก่โจทก์ จำเลยให้การว่าไม่ได้เป็นผู้ซื้อแต่เป็นนายหน้าจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ และฟ้องแย้งให้โจทก์ชำระเงินค่านายหน้า 10,600 บาทแก่จำเลยศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเครื่องปรับอากาศและยกฟ้องแย้งจำเลยดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยในปัญหาข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้ ก็ไม่เป็นเหตุให้จำเลยมีสิทธิฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2052/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบงานล่าช้า, การยอมรับมอบงานโดยไม่มีข้อโต้แย้ง, และผลกระทบต่อการลดหย่อนค่าจ้างตามสัญญา
ฟ้องแย้งมีทุนทรัพย์ 29,500 บาทศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
โจทก์ส่งมอบงานเกินกำหนดเวลาตามสัญญาและจำเลยยอมรับมอบงานจากโจทก์โดยมิได้อิดเอื้อน โจทก์จึงไม่ต้องรับผิดเพื่อการส่งมอบที่เนิ่นช้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 597
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 596 ให้ถือเอาการส่งมอบการงานเป็นการทำงานเสร็จสิ้น การขนย้ายปั้นจั่นล่าช้าของโจทก์เกิดขึ้นภายหลังการส่งมอบการงานเสร็จสิ้นแล้วจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก ไม่ใช่เหตุแห่งการส่งมอบงานที่เนิ่นช้าซึ่งจะเป็นเหตุให้ลดสินจ้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับพิจารณา
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลย จำเลยให้การว่านายประสิทธิ์สามีจำเลยเคยกู้เงินโจทก์ นายประสิทธิ์ถึงแก่กรรม โจทก์มายึดรถยนต์ของจำเลยไปและให้จำเลยออกเงินค่าซ่อมรถยนต์อีก 10,000 บาท เพื่อนำมาชำระหนี้ให้โจทก์ แต่โจทก์ไม่ซ่อมรถ จำเลยจึงตีราคารถยนต์เป็นเงิน 60,000 บาท หักที่เอาไปแล้ว 10,000 บาท เหลือค่ารถยนต์อีก 50,000 บาท จึงฟ้องแย้งเรียกเงินจำนวนดังกล่าวคืน จำเลยไม่ได้รับว่าจำเลยกู้เงินโจทก์แม้จำเลยจะกล่าวถึงหนี้เงินกู้ด้วย ก็เป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างขึ้นมาใหม่ไม่เกี่ยวกับสัญญากู้เดิมจึงรับฟ้องแย้งของจำเลยไว้พิจารณาในคดีนี้ไม่ได้
of 41