พบผลลัพธ์ทั้งหมด 66 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278-279/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารทางการค้า: การรวมกระทงลงโทษและการคำนวณค่าเสียหาย
การรวมกระทงลงโทษ เมื่อรวมโทษทุกกระทงเข้าด้วยกันแล้ว จะลงโทษเกินกว่าอัตราขั้นได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมติขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตาม ก.ม.อาญา ม.225(4) และ ป.ม.อาญา ม.266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21 ป.พ.พ.
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง แม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมติขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตาม ก.ม.อาญา ม.225(4) และ ป.ม.อาญา ม.266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21 ป.พ.พ.
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง แม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องผิดฐานความผิด การปรับฟ้องฐานความผิดที่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงที่นำสืบได้
จำเลยขอให้โจทก์ลงลายมือในใบมอบอำนาจโดยหลอกลวงว่าเพื่อจำเลยจะได้ใช้ในการชำระภาษีอากรแทนโจทก์ เมื่อโจทก์ลงลายมือมอบให้จำเลยไปแล้ว จำเลยกลับไปกรอกข้อความในใบมอบอำนาจเป็นว่าโจทก์มอบให้จำเลยจัดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ให้แก่จำเลย เจ้าพนักงานที่ดินจึงจัดการโอนที่ดินของโจทก์ให้แก่จำเลยไป ดังนี้มิใช่ความผิดฐานฉ้อโกงหรือปลอมหนังสือแต่เป็นความผิดฐานยักยอกตามกฎหมายอาญา มาตรา 315
โจทก์บรรยายฟ้องไปในลักษณะฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงและปลอมหนังสือแต่ในฟ้องของโจทก์นั้นเองจับใจความได้ว่าโจทก์กล่าวหาจำเลยว่าได้กระทำผิด ดังข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เมื่อข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงและปลอมหนังสือแต่เป็นความผิดฐานยักยอกซึ่งโจทก์มิได้อ้างบทความผิดฐานยักยอกมาถือได้ว่าโจทก์อ้างฐานความผิดและบทมาตราผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้ ตาม มาตรา192 วรรค 4 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6)2499มาตรา13
โจทก์บรรยายฟ้องไปในลักษณะฟ้องความผิดฐานฉ้อโกงและปลอมหนังสือแต่ในฟ้องของโจทก์นั้นเองจับใจความได้ว่าโจทก์กล่าวหาจำเลยว่าได้กระทำผิด ดังข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เมื่อข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงและปลอมหนังสือแต่เป็นความผิดฐานยักยอกซึ่งโจทก์มิได้อ้างบทความผิดฐานยักยอกมาถือได้ว่าโจทก์อ้างฐานความผิดและบทมาตราผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้ ตาม มาตรา192 วรรค 4 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6)2499มาตรา13
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบทะเบียนรถไม่ใช่หนังสือสำคัญตามกฎหมายอาญา มาตรา 6(20) การปลอมแปลงจึงไม่เข้าข่ายความผิดฐานปลอมแปลงหนังสือสำคัญ
ในทะเบียนยานพาหนะล้อเลื่อนเป็นเพียงหนังสือราชการเท่านั้นมีไว้เพื่อความสดวกในการควบคุมของเจ้าพนักงานและพนักงานเจ้าหน้าที่หาได้มุ่งหมายให้เป็นสำคัญแก่การตั้ง เปลี่ยนแก้ หรือเลิกล้างโอนกรรมสิทธิหรือหนี้สินแต่ประการใดไม่ จึงไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม ก.ม.อาญา ม.6(20)
เมื่อจำเลยปลอมใบทะเบียนยานพาหนะล้อเลื่อนจะลงโทษตาม ม.225 ไม่ได้
ปัญหาเรื่องการรอการลงโทษจำเลยหรือไม่นี้เกี่ยวกับดุลยพินิจของศาลอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงคู่ความจะฎีกาไม่ได้ตาม ป.วิ.อาญา ม.220.
เมื่อจำเลยปลอมใบทะเบียนยานพาหนะล้อเลื่อนจะลงโทษตาม ม.225 ไม่ได้
ปัญหาเรื่องการรอการลงโทษจำเลยหรือไม่นี้เกี่ยวกับดุลยพินิจของศาลอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงคู่ความจะฎีกาไม่ได้ตาม ป.วิ.อาญา ม.220.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม, การรับฟังพยานผู้เชี่ยวชาญ, และประเภทหนังสือสำคัญทางราชการ: ผลต่อความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยตัดฟ้องว่าโจทก์เคลือบคลุม (อ้างว่าข้อ 1.ค.กล่าวว่าจำเลยทั้งสองได้บังอาจสมคบกันใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จแก่นายเจริญ ซึ่งแสดงว่าได้ใช้อุบายหลอกลวงกล่าวเท็จทั้งสองคน แต่ในข้อเดียวกันก็กล่าวว่าจำเลยที่ 2 แต่คนเดียวเป็นผู้กล่าวว่ากองทัพอากาศได้ใช้ให้จำเลยมาเก็บเงิน ฟ้องเช่นนี้เป็นสองแง่สองคม ทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้) แต่เมื่ออ่านฟ้องแล้วได้ความว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้ง 2 สมคบกันทำใบเสร็จปลอมขึ้นหรือมิฉะนั้นก็สมคบกันใช้หนังสือปลอม โดยจำเลยที่ 1 ใช้ให้ จำเลยที่ 2 นำใบเสร็จปลอมไปเก็บเงิน จำเลยเข้าใจได้ดีไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือหลงข้อต่อสู้จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
เมื่อพยานมาเบิกความยังศาลโดยถูกโจทก์อ้างในฐานเป็นผู้ชำนาญการตรวจลายมือ (ตามป.วิ.อาญา ม.243 วรรคแรก) ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือ ดังนี้พยานจึงไม่อยู่ในบังคับต้องส่งสำเนาเอกสารการตรวจลายมือให้จำเลยก่อน 3 วันตาม ป.วิ.อาญา ม.243 วรรค 2
เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบให้เห็นว่าหนังสือข่าวทหารอากาศเป็นส่วนราชการในกองทัพอากาศอย่างไรรายรับรายจ่ายของหนังสือนี้ก็ไม่ปรากฏว่าใช้จ่ายในเงินของราชการหรือไม่ประการใด ดังนี้แม้กองทัพอากาศจะเป็นเจ้าของและรองเสนาธิการทหารอากาศเป็นบรรณาธิการก็ดี ก็ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการของกองทัพอากาศ จำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินหนังสือข่าวดังกล่าวจึงมีความผิดตาม ม.224 ไม่ใช่ 225.
เมื่อพยานมาเบิกความยังศาลโดยถูกโจทก์อ้างในฐานเป็นผู้ชำนาญการตรวจลายมือ (ตามป.วิ.อาญา ม.243 วรรคแรก) ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือ ดังนี้พยานจึงไม่อยู่ในบังคับต้องส่งสำเนาเอกสารการตรวจลายมือให้จำเลยก่อน 3 วันตาม ป.วิ.อาญา ม.243 วรรค 2
เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบให้เห็นว่าหนังสือข่าวทหารอากาศเป็นส่วนราชการในกองทัพอากาศอย่างไรรายรับรายจ่ายของหนังสือนี้ก็ไม่ปรากฏว่าใช้จ่ายในเงินของราชการหรือไม่ประการใด ดังนี้แม้กองทัพอากาศจะเป็นเจ้าของและรองเสนาธิการทหารอากาศเป็นบรรณาธิการก็ดี ก็ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการของกองทัพอากาศ จำเลยปลอมใบเสร็จรับเงินหนังสือข่าวดังกล่าวจึงมีความผิดตาม ม.224 ไม่ใช่ 225.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมตั๋วรถไฟและการเรียกร้องค่าเสียหาย: การพิจารณาความผิดตามมาตรา 217 และอำนาจฟ้องของอัยการ
การปลอมตั๋วรถไฟก็มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้โดยเฉพาะในมาตรา 217 ความผิดของจำเลยในประเภทดังกล่าวไม่อยู่ในความประสงค์ของมาตรา 225
ทรัพย์สินหรือราคาที่อัยการจะเรียกแทนผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 43 ต้องเป็นทรัพย์สินหรือราคาที่แท้จริงแห่งทรัพย์สินที่ศูนย์เสียไปเนื่องจากการกระทำผิดดังกำหนดไว้นั้น
ทรัพย์สินหรือราคาที่อัยการจะเรียกแทนผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 43 ต้องเป็นทรัพย์สินหรือราคาที่แท้จริงแห่งทรัพย์สินที่ศูนย์เสียไปเนื่องจากการกระทำผิดดังกำหนดไว้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 554/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกรอกเอกสารเกินจริงโดยผู้รับมอบหมาย ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
คนหนึ่งเซ็นชื่อรับเงินค่าจ้างให้จำเลยมากรอกข้อความเอาเอง จำเลยเขียนข้อความลงจำนวนเงินเกินความจริงที่จ่ายไปดังนี้ ไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญา: สถานที่เกิดเหตุและเจตนาของผู้กระทำผิด
ฟ้องบรรยายระบุสถานที่เกิดเหตุหลายแห่งถ้วนถี่ชัดเจนจนจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีนั้น ถือเป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ม.158 (5)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันนำสลากกินแบ่งปลอมไปใช้แต่ใจความสำคัญของฟ้องบรรยายว่าจำเลยใช้จำเลยอื่นนำสลากปลอมไปใช้ดังนี้ เมื่อพิจารณาได้ความว่าจำเลยคน 1 ใช้จำเลยให้กระทำผิดก็นับว่าตรงกับฟ้องแล้วไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ต่างกับฟ้องเพราะข้อสมคบกันหรือไม่เป็นข้อปลีกย่อย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันนำสลากกินแบ่งปลอมไปใช้แต่ใจความสำคัญของฟ้องบรรยายว่าจำเลยใช้จำเลยอื่นนำสลากปลอมไปใช้ดังนี้ เมื่อพิจารณาได้ความว่าจำเลยคน 1 ใช้จำเลยให้กระทำผิดก็นับว่าตรงกับฟ้องแล้วไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ต่างกับฟ้องเพราะข้อสมคบกันหรือไม่เป็นข้อปลีกย่อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128-1129/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใบอนุญาตเล่นไพ่ และอายุความความผิดปลอมเอกสาร
ใบอนุญาตให้เล่นไพ่นั้นแม้มีข้อความว่าได้รับเงินค่าธรรมเนียมแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นหลักฐานเลิกล้างหนี้สินจึงไม่ใช่หนังสือสำคัญ
ความผิดตามมาตรา 224 นั้น ถ้าฟ้องเมื่อเกิน 5 ปี คดีย่อมขาดอายุความ
ความผิดตามมาตรา 224 นั้น ถ้าฟ้องเมื่อเกิน 5 ปี คดีย่อมขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 95/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ, หมิ่นประมาท, และความผิดฐานแสดงอาคตมาดร้าย: เงื่อนไขความผิดและการฟ้องร้อง
การสแดงความอาคาตมาดร้ายตามมาตรา 30 จะต้องเปนเรื่องสแดงอาคาตจะก่อการร้ายอันเปนผิดทางอาญา
กำนันทำรายงานเรื่องผู้ต้องหา+ นอพนักงานสอบสวนระบุชื่อผู้ต้องหา เมื่อเสนอไปแล้วพายหลังแก้ชื่อผู้ต้องหา ถ้าหากแก้เพื่อไห้เข้าใจว่า + รายงานไว้แต่เดิมก็อาดมีผิดถานปลอมหนังสือ
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานเปนเหตุไห้ + ถูกจับกุมจะเปนผิดตามมาตา 270 หรือไม่น้น ถ้าเปนการนีที่เจ้าพนักงานจะต้องรีบจับทันทีไม่มีเวลาสืบสวนหรือสอบสวน ผู้แจ้งก็ไม่มีความผิด
สแดงคนสนิชชิดชอบกับเจ้าพนักงานแล้วเรียกเงินจากเขาเพื่อช่วยให้เขาพ้นอาญา แล้วเอาชื่อโจทเข้าเปนผู้ต้องหาแทนดังนี้ไม่ถือว่า โจทเปนผู้เสียหายแทนความผิดตามมาตรา 123 และ154 พลเรือนสมคบกับตำหรวดทำ + ถ้าไม่ได้ฟ้องตำหรวดด้วย ก็ผู้ + พลเรือนต่อสาลพลเรือนได้ + ที่ 622/2486
กำนันทำรายงานเรื่องผู้ต้องหา+ นอพนักงานสอบสวนระบุชื่อผู้ต้องหา เมื่อเสนอไปแล้วพายหลังแก้ชื่อผู้ต้องหา ถ้าหากแก้เพื่อไห้เข้าใจว่า + รายงานไว้แต่เดิมก็อาดมีผิดถานปลอมหนังสือ
การแจ้งต่อเจ้าพนักงานเปนเหตุไห้ + ถูกจับกุมจะเปนผิดตามมาตา 270 หรือไม่น้น ถ้าเปนการนีที่เจ้าพนักงานจะต้องรีบจับทันทีไม่มีเวลาสืบสวนหรือสอบสวน ผู้แจ้งก็ไม่มีความผิด
สแดงคนสนิชชิดชอบกับเจ้าพนักงานแล้วเรียกเงินจากเขาเพื่อช่วยให้เขาพ้นอาญา แล้วเอาชื่อโจทเข้าเปนผู้ต้องหาแทนดังนี้ไม่ถือว่า โจทเปนผู้เสียหายแทนความผิดตามมาตรา 123 และ154 พลเรือนสมคบกับตำหรวดทำ + ถ้าไม่ได้ฟ้องตำหรวดด้วย ก็ผู้ + พลเรือนต่อสาลพลเรือนได้ + ที่ 622/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเติมข้อความในเอกสารอนุญาตทำไม้ไม่ทำให้โจทเสียหาย จึงไม่มีสิทธิฟ้องร้องฐานปลอมแปลงเอกสาร
เติมข้อความลงไนไบอนุญาตทำไม้ซึ่งอำเพอออกไห้แล้วนำมาอ้างเปนพยานไนคดีแพ่งซึ่งตนถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย หากการเติมข้อความไม่ทำไห้เสียหายแก่คดีของโจทซึ่งฟ้องเรียกค่าเสียหายนั้นหย่างไรแล้ว โจทย่อมไม่มีอำนาดฟ้องว่าจำเลยปลอมหนังสือเพราะไม่เปนผู้เสียหายตามวิธีพิจารนาความอาญา.