คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นิติศาสตร์

จำเลยลงชื่อในท้ายอุทธรณ์ว่าตนเป็นผู้เรียง โดยความจริงผู้อื่นเป็นผู้เรียงอุทธรณ์นั้นต้องนับว่าจำเลยเป็นเจ้าของอุทธรณ์นั้น จึงเป็นอุทธรณ์ที่ถูกต้อง เพราะกฎหมายไม่ห้ามการที่ตัวความจะเรียงอุทธรณ์เอง

กล่าวในฟ้องระบุถึงบุคคลตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปว่าเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันโดยไม่ระบุว่าใครทำร้ายใครนั้น ถือว่าระบุฟ้องเป็นกรณีวิวาทต่อสู้กัน โจทก์บรรยายฟ้องเป็นเรื่องวิวาทต่อสู้กัน แต่ขอให้ลงโทษฐานทำร้ายร่างกายและในการวิวาทนั้นไม่มีถูกทำร้ายถึงสาหัสดังนี้แม้จำเลยให้การรับสารภาพศาลก็ต้องยกฟ้อง

ฟ้องว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ได้ความว่าจำเลยทำโดยประมาทลงโทษไม่ได้

ทำสัญญาร่วมทุนกันไปซื้อที่ดินเพื่อมาแบ่งกัน เมื่อคนหนึ่งไปจัดการซื้อและรับโอนโฉนดมาแล้วไม่ยอมโอนแบ่งให้อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องขอแบ่งได้ สัญญาเข้าทุนกันไปซื้อทรัพย์มาแบ่งกันโดยไม่ประสงค์แบ่งกำไรนั้น ไม่ใช่สัญญาเข้าหุ้นส่วน การทำสัญญากันนั้นแม้ไม่เข้าลักษณะเอกเทศสัญญาก็ฟ้องร้องบังคับกันได้ตามหลักทั่วไปในบรรพ 1-2 ในคดีแพ่งโจทก์ไม่จำเป็นต้องอ้างบทกฎหมายเสมอไป
กรณีที่ถือว่าฟ้องของโจทก์กล่าวความครบถ้วนตามที่ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.172 บังคับไว้

กรณีที่เป็นป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

ขอแก้ฟ้องเรื่องวันที่จำเลยถูกจับ ไม่ถือว่าเป็นข้อสำคัญและไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบจึงแก้ได้ ผู้ครอบครองทรัพย์ที่ถูกลักแม้ไม่ได้เป็นเจ้าของ ก็เป็นผู้เสียหาย

ขึ้นไปบนเรือนผู้อื่นโดยชอบเมื่อเจ้าของบ้านขับไล่ ก็ยังพูดโต้ตอบกับผู้ที่โต้เถียงติดพันกันอยู่อีกเล็กน้อย แล้วก็ลงเรือนไปดังนี้ แสดงว่าไม่มีเจตนาขัดขืนอยู่บนเรือน ไม่มีผิดฐานบุกรุก

จ้างเหมารถยนตร์เดินทางไปในที่ต่าง ๆ 3 วัน ไปได้วันเดียวผู้รับจ้างไม่ยอมไปส่งเป็นการผิดสัญญา ผู้รับจ้างจะฟ้องเรียกค่าจ้างไม่ได้

ศาลชั้นต้นให้จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก 4 ปี เป็นแก้ไขเล็กน้อย

จำเลยได้รับหมายเกณฑ์ทหารแล้ว ไม่ไปตามวันเวลาในกฎหมายแต่ปรากฎว่าทางราชการให้เลื่อนการคัดเลือกไปวันอื่นดังนี้ จำเลยไม่มีความผิด