คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นิติศาสตร์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,153 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 232/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิยอมความในคดีความผิดต่อส่วนตัวระหว่างการอุทธรณ์
ในคดีที่เป็นความผิดต่อส่วนตัวซึ่งอัยยการเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้น เจ้าทุกข์ย่อมมีสิทธิยอมความได้เสมอเมื่อคดียังไม่ถึงที่สุดการยอมความนั้นทำกันในระหว่างอุทธรณืก็ชอบที่จะยื่นต่อศาลอุทธรณ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้ยืมโดยมีที่ดินเป็นประกัน หากมิได้จดทะเบียน ย่อมไม่สมบูรณ์ใช้บังคับกันได้
สัญญามีความว่าโจทก์ได้รับเงินจากจำเลยไป 65 บาท โจทก์ยอมยกที่ดินสวนผลไม้ให้จำเลยยึดถือไว้แทนตัวเงินที่รับไป ทั้งนี้ สัญญาฉะบับนี้เป็นสัญญากู้ยืมเงินโดยเอาที่สวนให้จำเลยยึดถือไว้ไม่ใช่สัญญาซื้อขาย, +กู้เงินกันแล้วมอบที่ดินให้ผู้ให้กู้ใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้น การยึดถือที่ดินของผู้ให้กู้โดยลักษณดังนี้เป็นทรัพยสิทธิอย่างหนึ่ง , เมื่อมิได้จดทะเบียนย่อมไม่สมบูรณ์ใช้บังคับกันมิได้ ผู้ให้กู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือที่ดินไว้ต่อไปในเมื่อผู้กู้เรียกร้อง,อ้างฎีกาที่ 1283/2480,เข้าครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาแม้จะครอบครองมาตั้ง 20-21 ปีก็ไม่ได้กรรมสิทธิ เพราะไม่ถือว่าเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์, ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.149,178 ฟ้องแย้ง.
ค่าธรรมเนียม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์จำกัดเฉพาะประเด็นที่ถูกอุทธรณ์ แม้ข้อหาต่างกันก็ไม่อาจอาศัยอำนาจเพิ่มได้
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษฐานเบิกความเท็จและฐานปลอมหนังสือเป็น+กะทงต่างหาจากกันศาลขั้นต้นลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จและยกฟ้องฐานปลอมหนัง+โจทก์ฝ่ายเดียว
ศาลอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมหนังสือดังนี้ประเด็นเรื่องเบิกความ+ย่อมเด็ดขาดถึงที่สุดศาลอุทธรณ์ไม่มี อำนาจขั้นวินิจฉัยต่อไปอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกจ่ายเกินอัตราโดยไม่มีเจตนาทุจริต ไม่ถือเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
เจ้าพนักงานเบิกเงินเกินอัตราตามระเบียบข้อบังคับแต่ไม่มีเจตนาทุจจริตประการใดไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อป้องกันตัว: ปัญหาข้อเท็จจริงที่ไม่อาจฎีกาคัดค้าน
กระทำการโดยจำเปนเพื่อป้องกันตัวหรือไม่เปนปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จ: สุจจริตเริ่มแรก + ไม่แจ้งความเท็จภายหลัง = ไม่ผิด
จำเลยนำความไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานตามคำที่บอกโดยสุจจริต ภายหลังทราบว่าข้อความ เปนเท็จ แต่จำเลยก็นิ่งเสียไม่ไปแจ้งต่อเจ้าพนักงาน ดังนี้ไม่เปนฐานแจ้งความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 156/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับกำหนดโทษอาญา: เริ่มนับจากวันคุมขังจริงในคดี หากคำพิพากษาไม่ได้ระบุ
ถ้าในคำพิพากษามิได้มีข้อความสั่งประการใดในแรื่องนับกำหนดโทษแล้วก็ต้องนับโทษจำเลยตั้งแต่วันที่จำเลยต้องคุมขังและฉะเพาะแต่การคุมขังในคดีนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลยพินิจศาลในการส่งตัวผู้กระทำผิดไปกักกัน ตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย
โจทย์ฟ้องว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายขอให้ส่งตัวไปกักัน เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายขอให้ส่งตัวไปกักกัน เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายก็ไม่ควรลงโทษกักกันแก่จำเลยจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้ายหรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาล ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.118 ศาลเดิมลงโทษจำเลยตาม ม.254 และส่งไปกักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ว่าไม่ควรส่งไปกักกันดังนี้ ฏีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้ (หมายเหตุ ครั้งก่อนจำเลยต้องโทษฐานชิงทรัพย์ตามกฏหมายอาญา ม.298 ครั้งที่ 2 ฐานลักทรัพย์ตาม ม.288)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กฎกระทรวงที่ออกตามกฎหมายเดิมยังใช้ได้ แม้กฎหมายนั้นถูกแก้ไขเพิ่มเติมและยกเลิกบางส่วน
กฏกระทรวงว่าด้วยวิธีจัดการและตั้งอัตราเก็บเงินอากรค่าน้ำลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2456 ข้อ 23 วรรค 5 พ.ร.บ.อากรค่าน้ำแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2472 ม.3 ซึ่งยกเลิกความใน ม.13 แห่ง พ.ร.บ.ฉะบับเดิมนั้นหาได้เป็นผลยกเลิกกฏกระทรวงซึ่งออกตามความใน ม.13 เดิมนั้นด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่ชัดเจนจำนวนค่าบำเหน็จนำจับ ศาลไม่บังคับให้จำเลยจ่ายได้
เมื่อฟ้องของโจทก์ไม่ได้ระบุจำนวนเงินที่จะต้องเสียค่าบำเหน็จนำจับแก่ผู้รับสินบน ต้องถือว่าฟ้องของโจทก์เลื่อนลอย ศาลจะบังคับให้จำเลยใช้ค่าสินบนนำจับมิได้ อ้างฎีกาที่ 770/2480
of 116