พบผลลัพธ์ทั้งหมด 810 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงชื่อในเอกสารเท็จ แม้ไม่ได้จดข้อความเองก็ถือเป็นความผิด
เพียงแต่ให้ผู้อื่นจดข้อความเท็จลงไปแล้วจำเลยลงลายมือชื่อของตนไว้ในหนังสือนั้นก็ต้องเป็นผิดตามมาตรา 230 ได้ อ้างฎีกาที่ 533/539/2481, จำเลยจดข้อความเท็จลงในบันทึกแจ้งความรับสินบนนำจับยื่นว่าจำเลยเองเป็นผู้นำจับฝิ่นได้ขอรับค่าสินบนแล้วนำไปยื่นต่อเจ้าพนักงานดังนี้ ยังไม่มีผิดฐานปลอมหนังสือ
อ้างฎีกาที่ 1269/2481 ,347/2472
อ้างฎีกาที่ 1269/2481 ,347/2472
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศที่ดินเป็นทางสาธารณะทำให้สิ้นกรรมสิทธิ์ การเวนคืนไม่ก่อตั้งกรรมสิทธิ์ และค่าทำขวัญต้องจ่ายให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง
เจ้าของที่ดินจดทะเบียนที่ดินของ+ให้เป็นทางสาธารณแล้ว+หมดกรรมสิทธิ แม้เจ้าหน้าที่จะออกโฉนดให้ในนามของ+ถือกรรมสิทธิเป็นเจ้าของภายหลังต่อมาก็ตามก็ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิกลับคืนมา อ้าง ฎีกาที่ 662/2470,332/2475,538/2469 และ 497/2473 การอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะหรือทางหลวงนั้นไม่จำต้องโอนโฉนดมอบให้แก่แผ่นดิน เพียงการอุทิศโดยแจ้งชัด เช่นบอกความจำนงแก่เจ้าหน้าที่หรือจดทะเบียนในหน้าโฉนดก็เป็นการเพียงพอ
การที่อสังหาริมทรัพย์กลายสภาพเป้นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตามประมวลแพ่งฯ ม.1304 แล้วจะกลับมาตกได้แก่เอกชนอีก+แต่โดยอาศัยอำนาจตามที่บัญญัติไว้ใน ม.1305 เท่านั้น
พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่กฎหมายที่ก่อตั้งกรรมสิทธิให้แก่ผู้ที่มีรายชื่อเป็นเจ้าของที่ดินที่จักถูกเวนคืนการที่บุคคลมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินที่จะถูกเวนคืนใน พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์นั้นมิใช่ข้อสันนิษฐานโดยเด็ดขาดว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินนั้นเสมอไป
ข้อตกลงของเจ้าพนักงานที่ยอมให้ค่าทำขวัญแก่บุคคลซึ่งมิได้เป็นเจ้าของที่ดินที่ต้องถูกเวนคืนนั้นเป็นโมฆะตาม ม.113 แห่งประมวลแพ่งฯ
การที่อสังหาริมทรัพย์กลายสภาพเป้นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตามประมวลแพ่งฯ ม.1304 แล้วจะกลับมาตกได้แก่เอกชนอีก+แต่โดยอาศัยอำนาจตามที่บัญญัติไว้ใน ม.1305 เท่านั้น
พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่กฎหมายที่ก่อตั้งกรรมสิทธิให้แก่ผู้ที่มีรายชื่อเป็นเจ้าของที่ดินที่จักถูกเวนคืนการที่บุคคลมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินที่จะถูกเวนคืนใน พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์นั้นมิใช่ข้อสันนิษฐานโดยเด็ดขาดว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินนั้นเสมอไป
ข้อตกลงของเจ้าพนักงานที่ยอมให้ค่าทำขวัญแก่บุคคลซึ่งมิได้เป็นเจ้าของที่ดินที่ต้องถูกเวนคืนนั้นเป็นโมฆะตาม ม.113 แห่งประมวลแพ่งฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพต้องมีพยานหลักฐานสนับสนุน การเบิกความอ้างชื่อจำเลยยังไม่พอพิสูจน์ความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์ จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์นำสืบเจ้าทรัพย์เบิกความเพียงว่าคนร้ายที่มาปล้นนั้นอ้างชื่อจำเลยเป็นผู้บอกว่าเจ้าทรัพย์+ทรัพย์ดังนี้ ถือว่าโจทก์ยังสืบให้เป็นที่พอใจศาลมิได้ ว่าจำเลยกระทำผิดจริงดังคำรับสารภาพ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการพิจารณาคดีแพ่งในคดีอาญา: คำขอคืนทรัพย์และข้อจำกัดการอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย แต่ส่วนคำขอให้ใช้หรือคืนทรัพย์ราคา 150 บาทนั้นไม่รับบังคับให้ในชั้นนี้ โจทก์อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำขอให้คืนหรือใช้ทรัพย์ดังกล่าวแล้วมิได้ เพราะคำขอให้ใช้หรือคืนทรัพย์ในคดีนี้จัดว่าเป็นคดีแพ่งมโนสาเร่คำขอให้คืนหรือใช้ทรัพย์นั้น ม.40 แห่งประมวลวิธีพิจารณาอาญาบังคับให้นำประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายยาสูบเกินราคาตลาดในพื้นที่ที่ยังไม่ได้กำหนดเขตจำหน่าย: ไม่ผิดตามกฎหมาย
จำหน่ายยาสูบสูงกว่าราคาตลาดก่อนมีประกาศกำหนดท้องที่นั้นว่าเป็นในเขตต์หรือนอกเขตต์จำหน่ายยาสูบ ไม่มีความผิดตามกฎหมายข้างต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ผู้จัดการทรัพย์สินในการแสดงผลประโยชน์และแบ่งให้เจ้าของร่วม
โจทก์ฟ้องเรียกเงินผลประโยชน์ที่ดินจากจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการ เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบว่าตนได้รับผลประโยชน์มาและแบ่งให้โจทก์ไปแล้วเท่าใดอย่างใด,
อุทธรณ์ฎีกา,
ฟ้องเรียกเงิน 1500 บาท ศาลชั้นต้นตัดสินให้ 200 บาท ศาลอุทธรณ์แก้ให้ 965 บาท ดังนี้เป็นแก้มากฎีกาในข้อเท็จจริงได้
อุทธรณ์ฎีกา,
ฟ้องเรียกเงิน 1500 บาท ศาลชั้นต้นตัดสินให้ 200 บาท ศาลอุทธรณ์แก้ให้ 965 บาท ดังนี้เป็นแก้มากฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบกับจำเลยที่รับสารภาพ ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่สามารถเพิ่มโทษได้
เมื่อปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำผิดมาก่อนและโจทก์ขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบมาในฟ้องด้วย ดังนี้ ศาลจะไม่เพิ่มโทษจำเลยเพราะจำเลยรับสารภาพมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631-638/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานนอกเหนือข้อเท็จจริงในฟ้อง ทำให้การลงโทษจำเลยเป็นไปไม่ได้
โจทก์ฟ้องบรรยายข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้มอบโรงไฟฟ้าให้พวกโจทก์แล้วกลับมาแจ้งความเท็จว่าพวกโจทก์บุกรุกแต่โจทก์กลับนำสืบว่าโจทก์ไม่ได้เข้าไปในโรงไฟฟ้าในวันกล่าวหาแต่จำเลยกลับไปแจ้งความว่าโจทก์บุกรุกเข้าไปในโรงไฟฟ้าดังนี้ เป็นการสืบนอกเหนือข้อเท็จจริงในฟ้อง ศาลไม่ลงโทษจำเลย
คดีอาญาที่ศาลล่างทั้ง 2 ได้ยกฟ้องโจทก์ยืนกันมา โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้
คดีอาญาที่ศาลล่างทั้ง 2 ได้ยกฟ้องโจทก์ยืนกันมา โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิ่งราวทรัพย์: การกระทำฉวยทองหลบหนีเข้าข่ายความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ แม้มีข้อผิดพลาดเรื่องเดือน
พฤตติการณ์ที่ถือว่าจำเลยวิ่งราวทรัพย์
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.158,192, โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดวันที่ 17 มกราคม 2481 และวงเล็บว่าแรม 12 ค่ำเดือนยี่ ผู้เสียหายเบิกความว่าจำเลยทำผิดวันแรม 12 ค่ำเดือน 3 ซึ่งตรงกับวันที่ 17 มกราคม 2481 ดังนี้ลงโทษจำเลยได้
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.158,192, โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดวันที่ 17 มกราคม 2481 และวงเล็บว่าแรม 12 ค่ำเดือนยี่ ผู้เสียหายเบิกความว่าจำเลยทำผิดวันแรม 12 ค่ำเดือน 3 ซึ่งตรงกับวันที่ 17 มกราคม 2481 ดังนี้ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมาคมที่ไม่เข้าข่ายอั้งยี่: การเรี่ยไรเงินเพื่อปลงศพและค่าปรับสมาชิก ไม่ถือเป็นความผิด
พฤตติการณ์ที่ไม่ถือว่าสมาคมที่พวกจำเลยตั้งขึ้นนี้เป็นสมาคมที่ตั้งขึ้นเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นความผิดฐานเป็นพวกอั้งยี่
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. 158(5)
ฟ้องโจทก์บรรยายความว่าจำเลยกระทำผิดฐานเป็นพวกอั้งยี่ระหว่าง พ.ศ.2475 ถึง 2480 นั้นไม่เรียกว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยพอเข้าใจข้อหาและนำสืบต่อสู้คดีได้
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. 158(5)
ฟ้องโจทก์บรรยายความว่าจำเลยกระทำผิดฐานเป็นพวกอั้งยี่ระหว่าง พ.ศ.2475 ถึง 2480 นั้นไม่เรียกว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยพอเข้าใจข้อหาและนำสืบต่อสู้คดีได้