พบผลลัพธ์ทั้งหมด 84 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227-229/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจนายอำเภอในการดูแลรักษาสถานที่สาธารณะ และการสั่งให้ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่
หนองสาธารณที่ทางราชการหวงห้ามไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ สำหรับคนและสัตว์ใช้อาบกินร่วมกัน นั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมการอำเภอที่จะดูแลรักษาตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122 ซึ่งต่อมาได้โอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2495 มาตรา 40 วรรค 3 นายอำเภอจึงมีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้บุกรุกหนองสาธารณประโยชน์ออกไปจากหนองนั้นได้ ผู้ใดขัดขืนย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122 มิได้ถูกยกเลิกหรือขัดแย้งกับประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 8 และไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 4
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122 มิได้ถูกยกเลิกหรือขัดแย้งกับประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 8 และไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227-229/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจนายอำเภอในการดูแลหนองสาธารณะ: ความชอบธรรมตามกฎหมายปกครองท้องที่ และความสัมพันธ์กับประมวลกฎหมายที่ดิน
หนองสาธารณะที่ทางราชการหวงห้ามไว้เพื่อสาธารณประโยชน์สำหรับคนและสัตว์ใช้อาบกินร่วมกัน นั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมการอำเภอที่จะดูแลรักษาตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่พ.ศ.2457 มาตรา 122 ซึ่งต่อมาได้โอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2495 มาตรา 40 วรรคสาม นายอำเภอจึงมีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้บุกรุกหนองสาธารณประโยชน์ออกไปจากหนองนั้นได้ผู้ใดขัดขืนย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 122 มิได้ถูกยกเลิกหรือขัดแย้งกับประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 8 และไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 4
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 122 มิได้ถูกยกเลิกหรือขัดแย้งกับประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 8 และไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่สาธารณประโยชน์: กรมการอำเภอและอธิบดีกรมที่ดิน
พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 4 มิได้ยกเลิก พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 117, 122 บัญญัติให้กรมการอำเภอดูแลรักษาที่อันเป็นสาธารณประโยชน์ และว่าจะขัดกับประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 4 (15) ก็ไม่ได้เพราะ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 8 ให้อธิบดีกรมที่ดินทีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกันที่ดิน ทั้งหลายอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ในเมื่อไม่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 117 บัญญัติให้เป็นหน้าที่กรมการอำเภอจะต้องระวังรักษาดูแลที่ดินเป็นสาธารณประโยชน์ของรัฐบาล ไม่ให้ผู้ใดทำให้เสียหายและ พ.ร.บ. ระเบียบราชการบริหารแผ่นดิน พ.ศ. 2495 มาตรา 40 วรรคสุดท้ายได้บัญญัติให้นายอำเภอมีหน้าที่เกี่ยวกับราชการอันเป็นอำนาจของกรรมการอำเภอ ฉะนั้น นายอำเภอจึงมีอำนาจดูแลรักษาและสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดทำให้ที่สาธารณประโยชน์เสียหาย
พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 117 บัญญัติให้เป็นหน้าที่กรมการอำเภอจะต้องระวังรักษาดูแลที่ดินเป็นสาธารณประโยชน์ของรัฐบาล ไม่ให้ผู้ใดทำให้เสียหายและ พ.ร.บ. ระเบียบราชการบริหารแผ่นดิน พ.ศ. 2495 มาตรา 40 วรรคสุดท้ายได้บัญญัติให้นายอำเภอมีหน้าที่เกี่ยวกับราชการอันเป็นอำนาจของกรรมการอำเภอ ฉะนั้น นายอำเภอจึงมีอำนาจดูแลรักษาและสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดทำให้ที่สาธารณประโยชน์เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่สาธารณประโยชน์: นายอำเภอ vs กรมที่ดิน
พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 4มิได้ยกเลิกพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 และพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 117,122บัญญัติให้กรมการอำเภอดูแลรักษาที่อันเป็นสาธารณประโยชน์ และจะว่าขัดกับประมวลกฎหมายที่ดินอันจะต้องยกเลิกไป ตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 4(15)ก็ไม่ได้ เพราะประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 8 ให้อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกันที่ดินทั้งหลายอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ในเมื่อไม่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 117บัญญัติให้เป็นหน้าที่กรมการอำเภอจะต้องระวังรักษาดูแลที่ดินเป็นสาธารณประโยชน์ของรัฐบาล ไม่ให้ผู้ใดทำให้เสียหายและพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2495 มาตรา 40 วรรคสุดท้ายได้บัญญัติให้นายอำเภอมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการอันเป็นอำนาจของกรมการอำเภอ ฉะนั้น นายอำเภอจึงมีอำนาจดูแลรักษาและสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดทำให้ที่สาธารณประโยชน์เสียหาย
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 117บัญญัติให้เป็นหน้าที่กรมการอำเภอจะต้องระวังรักษาดูแลที่ดินเป็นสาธารณประโยชน์ของรัฐบาล ไม่ให้ผู้ใดทำให้เสียหายและพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2495 มาตรา 40 วรรคสุดท้ายได้บัญญัติให้นายอำเภอมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการอันเป็นอำนาจของกรมการอำเภอ ฉะนั้น นายอำเภอจึงมีอำนาจดูแลรักษาและสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดทำให้ที่สาธารณประโยชน์เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลัง พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายที่ดินมีผลบังคับใช้ และอำนาจสั่งขับไล่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
ผู้ยื่นคำร้องขอจับจองที่ดินในระหว่างระยะเวลาที่พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 บังคับไว้ เมื่อมีพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินประกาศใช้ ผู้นั้นก็มิได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้คำรับรองว่าที่ดินได้ทำประโยชน์แล้วในกำหนด 180 วันนับแต่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับตามมาตรา 7 วรรคสองถือว่าที่ดินนั้นปลอดจากการจับจอง ผู้นั้นเข้าครอบครองที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่โดยชอบ ซึ่งตามพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 มาตรา 15 ก็ดีประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 32 ก็ดี ย่อมให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาออกคำสั่งบังคับให้ผู้ครอบครองที่ดินนั้นออกไปจากที่ดินได้อยู่
นายอำเภอได้ออกคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่มาตรา 122และพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2495 มาตรา 40 ให้ผู้ที่เข้าครอบครองที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินออกไปจากที่ดินได้
นายอำเภอได้ออกคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่มาตรา 122และพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2495 มาตรา 40 ให้ผู้ที่เข้าครอบครองที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินออกไปจากที่ดินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องนายอำเภอในฐานะเจ้าพนักงานปกครองท้องที่และการละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน
แม้คณะกรมการอำเภอไม่ใช่นิติบุคคล นายอำเภอก็อาจฟ้องหรือถูกฟ้องได้เหมือนบุคคลธรรมดา
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยในฐานะนายอำเภอกระทำละเมิดสิทธิโจทก์ในที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะสมบัติแผ่นดินและตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122 กำหนดให้นายอำเภอควบคุมดูแลที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลห้ามจำเลยมิให้สอดเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ต่อไปได้
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยในฐานะนายอำเภอกระทำละเมิดสิทธิโจทก์ในที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะสมบัติแผ่นดินและตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122 กำหนดให้นายอำเภอควบคุมดูแลที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลห้ามจำเลยมิให้สอดเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องนายอำเภอและการละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน: นายอำเภอถูกฟ้องได้ในฐานะบุคคลธรรมดา แม้คณะกรรมการอำเภอไม่ใช่ นิติบุคคล
แม้คณะกรมการอำเภอไม่ใช่นิติบุคคลนายอำเภอก็อาจฟ้องหรือถูกฟ้องได้เหมือนบุคคลธรรมดา
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยในฐานะนายอำเภอกระทำละเมิดสิทธิโจทก์ในที่พิพาทจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะสมบัติแผ่นดินและตาม พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457มาตรา 122 กำหนดให้นายอำเภอควบคุมดูแลที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลห้ามจำเลยมิให้สอดเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ต่อไปได้
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยในฐานะนายอำเภอกระทำละเมิดสิทธิโจทก์ในที่พิพาทจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะสมบัติแผ่นดินและตาม พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457มาตรา 122 กำหนดให้นายอำเภอควบคุมดูแลที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลห้ามจำเลยมิให้สอดเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีบุกรุกที่ดินสาธารณะ และหน้าที่การนำสืบพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ
กรมการอำเภอมีหน้าที่ทะนุบำรุงและตรวจตรารักษาทรัพย์สินที่ดินอันเป็นสาธารณะประโยชน์ของแผ่นดิน ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่เข้ามายึดถึอเอาที่ดินนั้นได้
เรื่องเช่นนี้ เมื่อจำเลยปฏิเสธและต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่ที่มีเจ้าของ ไม่ใช่ที่หวงห้าม หน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกอยู่แก่ฝ่ายโจทก์
เรื่องเช่นนี้ เมื่อจำเลยปฏิเสธและต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่ที่มีเจ้าของ ไม่ใช่ที่หวงห้าม หน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกอยู่แก่ฝ่ายโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีบุกรุกที่สาธารณะ และภาระการพิสูจน์เมื่อจำเลยปฏิเสธ
กรมการอำเภอมีหน้าที่ทะนุบำรุงและตรวจตรารักษาทรัพย์สินที่ดินอันเป็นสาธารณะประโยชน์ของแผ่นดินย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่เข้ามายึดถือเอาที่ดินนั้นได้
เรื่องเช่นนี้ เมื่อจำเลยปฏิเสธและต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่ที่มีเจ้าของไม่ใช่ที่หวงห้ามหน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกอยู่แก่ฝ่ายโจทก์
เรื่องเช่นนี้ เมื่อจำเลยปฏิเสธและต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่ที่มีเจ้าของไม่ใช่ที่หวงห้ามหน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกอยู่แก่ฝ่ายโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจหน้าที่นายอำเภอในการดูแลรักษาที่สาธารณประโยชน์ แม้มีกฎหมายใหม่ให้อำนาจผู้ว่าฯ สูงกว่า
ที่สาธารณะประโยชน์เดิมเป็นอำนาจและหน้าที่ของกรมการอำเภอที่จะตรวจตรารักษาตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 ม. 122 ต่อมาอำนาจหน้าที่นี้ได้โอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอโดย พ.ร.บ.ระเบียบราชการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2495 ม.40 วรรค.3 และไม่มีข้อความแห่งใดใน พ.ร.บ.นี้เพิกถอนอำนาจนายอำเภอที่มีอยู่ตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ดังกล่าว (พ.ศ. 2457) ดังนี้เมื่อนายอำเภอสั่งให้จำเลยออกไปจากที่สาธารณะประโยชน์ จำเลยขัดขืนก็มีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ก.ม. อาญา ม. 334 (2)