คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 1 (4)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 40 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องทำให้เสียทรัพย์: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้เช่า และการนำเอกสารประกอบคำให้การในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
ปัญหาที่ว่าจำเลยมีเจตนาร้ายหรือเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้เช่าซึ่งมีชื่อในสัญญาเช่ามอบห้องเช่าให้โจทก์อยู่และให้โจทก์เป็นผู้เสียค่าเช่า จำเลยทำให้บานประตูห้องเช่าเสียหาย โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่ได้เพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ เมื่อทนายจำเลยซักค้านพาดพิงถึงเอกสารใดได้ให้พยานตรวจดูและยอมรับแล้ว จำเลยย่อมส่งเอกสารนั้นเข้าประกอบคำพยานโจทก์ได้ ไม่ถือว่าเป็นการนำพยานเข้าสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเสียหายจากการทำให้เสียทรัพย์และการพิสูจน์เจตนาในคดีอาญา
ปัญหาที่ว่าจำเลยมีเจตนาร้ายหรือเจตนาทุจริตหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้เช่าซึ่งมีชื่อในสัญญาเช่ามอบห้องเช่าให้โจทก์อยู่และให้โจทก์เป็นผู้เสียค่าเช่า จำเลยทำให้บานประตูห้องเช่าเสียหาย โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่ได้เพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย
ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญาที่ราษฎร เป็นโจทก์เมื่อทนายจำเลยซักค้านพาดพิงถึงเอกสารใดได้ให้พยานตรวจดูและยอมรับแล้วจำเลยย่อมส่งเอกสารนั้น เข้าประกอบคำพยานโจทก์ได้ ไม่ถือว่าเป็นการนำพยานเข้าสืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1828-1829/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวิวาทต่อเนื่องและการมีอำนาจฟ้องของโจทก์ที่ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
ทำร้ายกันในขณะทำการวิวาทยังไม่ขาดตอน ต้องถือว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน กรณีวิวาทกันผู้ที่วิวาทกันไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงเป็นโจทก์ฟ้องไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,60 ให้จำคุก 10 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำผิดโดยถูกยั่วโทสะ จึงแก้ให้ลดโทษตามมาตรา 55 กึ่งหนึ่ง เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลพิจารณารวมกัน มีอุทธรณ์ขึ้นมาเฉพาะคดีเดียวคู่ความในคดีที่ไม่ได้อุทธรณ์ จะมาฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว
คดีที่มีการพิจารณารวมกันศาลลงโทษบทหนักตามฟ้องคดีหนึ่งมีอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาเฉพาะคดีที่ศาลลงโทษบทหนักนี้คดีที่ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาก็เป็นอันยุติ เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดในคดีที่ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1828-1829/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจโจทก์ฟ้องอาญา, การวิวาทต่อเนื่อง, การลดโทษฐานยั่วโทสะ, และการยกฟ้อง
ทำร้ายกันในขณะทำการวิวาทยังไม่ขาดตอน ต้องถือว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน กรณีย์วิวาทกัน ผู้ที่วิวาทกันไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงเป็นโจทก์ฟ้องไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.244,60, ให้จำคุก 10 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำผิดโดยถูกยั่วโทษะ จึงแก้ให้ลดโทษตามม.55 กึ่งหนึ่ง เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกา เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลพิจารณารวมกัน มีอุทธรณ์ขึ้นมาฉะเพาะคดีเดี่ยว คู่ความในคดีที่ไม่ได้อุทธรณ์จะมาฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะคดีนั้นถึ่งที่สุดแล้ว
คดีที่มีการพิจารณารวมกัน ศาลลงโทษบทหนักตามฟ้องคดีหนึ่งมีอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาฉะเพาะคดีทีศาลลงโทษบทหนักนี้ คดีที่ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาก็เป็นอันยุติ เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดในคดีที่ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษายกฟ้อง ปล่อยจำเลยไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเจ้าพนักงานเรียกสินบน: ผู้ถูกเรียกทรัพย์เป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องได้ แม้ไม่เสียทรัพย์จริง
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าพนักงานเรียกสินบน ที่ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ผู้ที่ถูกจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเรียกเอาทรัพย์ โดยที่ไม่จำจะต้องเสียนับว่าเป็นผู้เสียหายที่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีเจ้าพนักงานเรียกสินบน: ผู้ถูกเรียกทรัพย์มีอำนาจฟ้อง และฟ้องไม่เคลือบคลุม
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าพนักงานเรียกสินบล ที่ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ผู้ที่ถูกจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเรียกเอาทรัพย์ โดยที่ไม่จำต้องเสีย นับว่าเป็นผู้เสียหายที่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ที่ยึดมา เจ้าของทรัพย์มีสิทธิฟ้อง
เจ้าพนักงานสรรพสามิตอำเภอจับสุราไปแล้ว เอาสุรานั้นเสียโดยเจตนาทุจริตย่อมมีผิดฐานยักยอกและถือว่า เจ้าของสุราเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ที่ยึดมา ย่อมมีผิดฐานยักยอก และเจ้าของทรัพย์เป็นผู้เสียหาย
เจ้าพนักงานสรรพสามิตต์อำเภอจับสุราไปแล้ว เอาสุรานั้นเสียโดยเจตนาทุจจริตย่อมมีผิดฐานยักยอก และถือว่า เจ้าของสุราเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: พี่ชายผู้ตายไม่มีอำนาจฟ้องฆาตกร เพราะไม่เป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย
พี่ชายของผู้ตายไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องผู้ฆ่าน้องชายของตนในทางอาญา เพราะตามกฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าเป็นผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาจำกัดเฉพาะผู้เสียหายโดยตรงหรือญาณูใกล้ชิดตามกฎหมาย
พี่ชายของผู้ตายไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องผู้ฆ่าน้องชายของตนในทางอาญา เพราะตามกฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าเป็นผู้เสียหาย
of 4