คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 148 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรมเดียวฐานมีเครื่องกระสุนปืน แม้ซุกซ่อนต่างตำบล-เวลาต่อเนื่อง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีเครื่องกระสุนปืนฯไว้ในครอบครองเมื่อวันที่18สิงหาคม2526เวลากลางคืนตอนหนึ่งเมื่อวันที่17สิงหาคม2526เวลากลางคืนก่อนเที่ยงถึงวันที่18สิงหาคม2526เวลากลางวันติดต่อกันอีกตอนหนึ่งและเจ้าพนักงานตำรวจยึดเครื่องกระสุนปืนได้ในวันที่18สิงหาคม2526วันเดียวกันถือได้ว่าจำเลยกระทำผิดในคราวเดียวกันโดยมีเจตนาให้เกิดผลเป็นกรรมเดียวกันแม้สถานที่ที่จำเลยซุกซ่อนเครื่องกระสุนปืนเหล่านั้นไว้จะอยู่ต่างตำบลกันก็ไม่ทำให้มีผลแตกต่างกันไปถือว่าเป็นความผิดกรรมเดียว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีอาวุธปืนโดยไม่แจ้งการโอน ไม่เข้าข่ายทรัพย์สินที่ต้องริบ หากเป็นปืนที่มีทะเบียน
จำเลยซื้ออาวุธปืนลูกซองยาวของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนมาจากผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนโดยมิได้มีการโอนทางทะเบียนให้ถูกต้อง ความผิดของจำเลยเป็นความผิดในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนจากนายทะเบียนทอ้งที่เท่านั้น อาวุธปืนดังกล่าวจึงมิใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดอันจะพึงต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้ออาวุธปืนที่มีทะเบียนโดยไม่แจ้งโอน การริบของกลาง
จำเลยซื้ออาวุธปืนลูกซองยาวของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนมาจากผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนโดยมิได้มีการโอนทางทะเบียนให้ถูกต้อง ความผิดของจำเลยเป็นความผิดในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนจากนายทะเบียนท้องที่เท่านั้นอาวุธปืนดังกล่าวจึงมิใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดอันจะพึงต้องริบตาม ป.อ.มาตรา32.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้ออาวุธปืนที่มีทะเบียนโดยไม่โอนทะเบียน การริบของกลาง
จำเลยซื้ออาวุธปืนลูกซองยาวของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนมาจากผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนโดยมิได้มีการโอนทางทะเบียนให้ถูกต้องความผิดของจำเลยเป็นความผิดในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนจากนายทะเบียนทอ้งที่เท่านั้นอาวุธปืนดังกล่าวจึงมิใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดอันจะพึงต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา32.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4880/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนเถื่อนและใช้เอกสารราชการปลอม
อาวุธปืน 2 กระบอกมีหมายเลขทะเบียนตรงกัน โดยอาวุธปืนยี่ห้อเมาเซอร์เป็นอาวุธปืนที่ทางราชการออกใบอนุญาตให้จำเลยมีและใช้โดยแท้จริง อาวุธปืนยี่ห้อสเตอร์ลิงจำเลยมีไว้ในความครอบครองในภายหลังและหมายเลขทะเบียนปืนที่ตอกลงบนอาวุธปืนยี่ห้อสเตอร์ลิงที่จำเลยอ้างต่อพนักงานสอบสวน เป็นหมายเลขทะเบียนปลอม จำเลยมีอาวุธปืนดังกล่าวพร้อมเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และใช้หมายเลขทะเบียนปืนอันเป็นเอกสารราชการปลอม จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 และ พระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2010/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพาหญิงไปเพื่ออนาจาร, ทำให้เสรีภาพถูกจำกัด, และการใช้กฎหมายโทษหนักที่สุด
จำเลยฎีกาประสงค์จะให้ศาลฎีการับฟังข้อเท็จจริงว่าเหตุเกิดตามวันเวลาที่ผู้เสียหายเบิกความซึ่งแตกต่างไปจากที่ศาลอุทธรณ์รับฟังมาดังนี้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284,309,310 ว่าเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทอันเป็นการแก้ไขเล็กน้อยเมื่อ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยในความผิดฐานนี้ไม่เกิน 5 ปีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จำเลยกับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนขู่เข็ญและใช้กำลังฉุดผู้เสียหายจากในซอย ให้ขึ้นรถยนต์แล้วพาไปถึงโรงแรมแต่ผู้เสียหายหนีออกมาได้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียววาระเดียวโดยมีเจตนาเพียงอย่างเดียวคือการพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารเท่านั้น แต่โดยลักษณะของการกระทำคือ การบังคับพาเอาตัวผู้เสียหายจากที่แห่งหนึ่งไปยังที่อีกแห่งหนึ่งเช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 และ 310 อยู่ในตัวการกระทำความผิดของจำเลยในส่วนนี้จึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288เนื่องจากการพิมพ์ผิดพลาดไป ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง ศาลชั้นต้นปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2525 มาตรา4 มาด้วยตามคำขอของโจทก์นั้นปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดก่อนที่กฎหมายฉบับนี้จะออกมามีผลบังคับใช้โดย เพิ่มอัตราโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284 ให้สูงขึ้นกฎหมายฉบับนี้จึงเป็นกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิด และมิได้เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดจะนำมาปรับบทลงโทษจำเลยด้วยหาได้ไม่เมื่อศาลอุทธรณ์มิได้แก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นในเรื่องนี้ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข ให้ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2010/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพาไปเพื่ออนาจาร, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, และการปรับบทลงโทษตามกฎหมายที่ใช้หลังการกระทำผิด
จำเลยฎีกาประสงค์จะให้ศาลฎีการับฟังข้อเท็จจริงว่าเหตุเกิดตามวันเวลาที่ผู้เสียหายเบิกความซึ่งแตกต่างไปจากที่ศาลอุทธรณ์รับฟังมาดังนี้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284, 309, 310 ว่าเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทอันเป็นการแก้ไขเล็กน้อยเมื่อศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยในความผิดฐานนี้ไม่เกิน 5 ปีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
จำเลยกับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนขู่เข็ญและใช้กำลังฉุดผู้เสียหายจากในซอย ให้ขึ้นรถยนต์แล้วพาไปถึงโรงแรมแต่ผู้เสียหายหนีออกมาได้ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียววาระเดียวโดยมีเจตนาเพียงอย่างเดียวคือการพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารเท่านั้นแต่โดยลักษณะของการกระทำคือ การบังคับพาเอาตัวผู้เสียหายจากที่แห่งหนึ่งไปยังที่อีกแห่งหนึ่งเช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 และ 310 อยู่ในตัวการกระทำความผิดของจำเลยในส่วนนี้จึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284 ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เนื่องจากการพิมพ์ผิดพลาดไปศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
ศาลชั้นต้นปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 4มาด้วยตามคำขอของโจทก์นั้นปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดก่อนที่กฎหมายฉบับนี้จะออกมามีผลบังคับใช้โดย เพิ่มอัตราโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284 ให้สูงขึ้นกฎหมายฉบับนี้จึงเป็นกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิด และมิได้เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดจะนำมาปรับบทลงโทษจำเลยด้วยหาได้ไม่เมื่อศาลอุทธรณ์มิได้แก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นในเรื่องนี้ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 780/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรมเดียวปล้นทรัพย์หลายหลัง-การใช้'วัตถุระเบิด'คือการลงมือทำให้เกิดระเบิด ไม่ใช่แค่ขู่
จำเลยปล้นทรัพย์ 3 บ้านติดต่อกันอยู่ใกล้กัน 10วาเศษ3 หลัง ได้ทรัพย์จากบ้านแรกแล้วคุมตัวผู้เสียหายเจ้าของบ้านไปบ้านที่ 2 ยังไม่ค้นหาทรัพย์คุมตัวผู้เสียหายจากบ้านที่ 2 ไปค้นหาทรัพย์ บ้านที่ 3 ก่อน แล้วจึงย้อนกลับมาค้นหาทรัพย์ในบ้านที่ 2 ทั้งโจทก์บรรยายฟ้องก็บรรยายรวมกันมาเป็นคราวเดียวกันว่า ปล้นผู้เสียหาย4คนได้ทรัพย์สินไปรวมราคา 22,480 บาท ไม่ได้แยกว่าทรัพย์สินอะไรเป็นของผู้เสียหายคนใดการกระทำผิด ของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
คำว่าใช้วัตถุระเบิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340วรรคสี่ หมายถึงลงมือใช้เพื่อให้เกิดการระเบิด เช่นอาวุธปืนก็ต้องลงมือยิง เพียงใช้ขู่ให้เกิดความกลัว ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้ตามมาตรานี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 780/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์หลายกรรม ศาลฎีกาวินิจฉัยเป็นกรรมเดียว และการใช้ 'วัตถุระเบิด' ตามกฎหมาย
จำเลยปล้นทรัพย์ 3 บ้านติดต่อกันอยู่ใกล้กัน 10 วาเศษ 3 หลัง ได้ทรัพย์จากบ้านแรกแล้วคุมตัวผู้เสียหายเจ้าของบ้านไปบ้านที่ 2 ยังไม่ค้นหาทรัพย์คุมตัวผู้เสียหายจากบ้านที่ 2 ไปค้นหาทรัพย์บ้านที่ 3 ก่อน แล้วจึงย้อนกลับมาค้นหาทรัพย์ในบ้านที่ 2 ทั้งโจทก์บรรยายฟ้องก็บรรยายรวมกันมาเป็นคราวเดียวกันว่าปล้นผู้เสียหาย 4 คน ได้ทรัพย์สินไปรวมราคา 22,480 บาท ไม่ได้แยกว่าทรัพย์สินอะไรเป็นของผู้เสียหายคนใด การกระทำผิดของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
คำว่าใช้วัตถุระเบิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ หมายถึงลงมือใช้เพื่อให้เกิดการระเบิด เช่นอาวุธปืนก็ต้องลงมือยิง เพียงใช้ขู่ให้เกิดความกลัว ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้ตามมาตรานี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำให้เกิดระเบิดโดยประมาท หรือเจตนาฆ่าตัวตาย จนทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย เป็นความผิดอาญา
ปกติลูกระเบิดเป็นอาวุธร้ายแรง เมื่อถอดสลักลูกระเบิดหรือสลักนิรภัยออกแล้วย่อมจะต้องระเบิดขึ้นทำอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้จำเลยทำให้เกิดระเบิดโดยเจตนาฆ่าตัวตายเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหายย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 222
of 15