คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ม. 47 วรรคสี่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11267/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิรับเงินประกันสังคมเกินจำนวน แม้ผู้ประกันตนไม่ทราบ และสำนักงานฯ ไม่แจ้ง การใช้สิทธิภายใน 1 ปี เริ่มเมื่อทราบสิทธิ
บทบัญญัติมาตรา 47 วรรคสี่ แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 กำหนดระยะเวลาให้ผู้ประกันตนเรียกเอาเงินสมทบในส่วนของผู้ประกันตนที่นายจ้างส่งให้แก่สำนักงานประกันสังคมเกินจำนวนที่ต้องชำระคืนภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่นำส่งเงินสมทบหรือภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับแจ้งให้มารับคืนนั้น เป็นกำหนดระยะเวลาเร่งรัดให้ผู้ประกันตนใช้สิทธิขอรับเงินสมทบในส่วนของผู้ประกันตนที่นายจ้างเป็นผู้นำส่งให้แก่สำนักงานประกันสังคมเกินจำนวนที่ต้องชำระคืนโดยเร็ว ผู้ประกันตนจึงต้องได้ทราบว่านายจ้างนำส่งเงินสมทบดังกล่าวเกินจำนวนที่ต้องชำระด้วยหรือผู้ประกันตนต้องได้รับแจ้งให้มารับเงินนั้น เมื่อโจทก์ไม่เคยทราบมาก่อนว่านายจ้างนำส่งเงินสมทบในส่วนของผู้ประกันตนเกินจำนวนที่ต้องชำระและจำเลยไม่เคยแจ้งให้โจทก์มารับเงินดังกล่าว แต่โจทก์เพิ่งทราบว่านายจ้างนำส่งเงินสมทบในส่วนของผู้ประกันตนเกินจำนวนที่ต้องชำระในวันที่โจทก์มายื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และโจทก์ได้ขอรับเงินสมทบที่นายจ้างนำส่งเกินดังกล่าวคืนในวันเดียวกันนั้น กรณีจึงต้องถือว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิเรียกเอาเงินส่วนของผู้ประกันตนที่นายจ้างนำส่งเกินคืนภายในกำหนดหนึ่งปีตามนัยแห่งบทบัญญัติดังกล่าวแล้ว เงินนั้นยังไม่ตกเป็นของกองทุนประกันสังคม จำเลยต้องคืนเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10188/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกคืนเงินสมทบประกันสังคมเกินเวลา 1 ปี: การแจ้งสิทธิและเจตนาของผู้ประกันตน
มาตรา 47 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 กำหนดระยะเวลาให้ผู้ประกันตนเรียกเอาเงินสมทบที่นายจ้างส่งให้แก่สำนักงานประกันสังคมเกินจำนวนที่ต้องชำระคืนภายใน 1 ปี นับแต่วันที่นำส่งเงินสมทบหรือภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับแจ้งให้มารับคืนนั้น เป็นกำหนดระยะเวลาเร่งรัดให้ผู้ประกันตนใช้สิทธิขอรับเงินสมทบที่นายจ้างนำส่งเกินจำนวนที่ต้องชำระคืนโดยเร็ว เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทำงานกับนายจ้าง 2 ราย โดยนายจ้างทั้งสองรายต่างหักค่าจ้างของโจทก์นำส่งเงินสมทบในส่วนของผู้ประกันตนให้แก่จำเลยเกินจำนวนที่โจทก์ต้องชำระ และจำเลยไม่ได้แจ้งให้โจทก์มารับเงินคืน ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทราบมาก่อนว่าเงินสมทบที่นายจ้างทั้งสองนำส่งให้แก่จำเลยเกินจำนวนที่โจทก์ต้องชำระ ต้องถือว่าโจทก์เพิ่งทราบว่านายจ้างทั้งสองนำส่งเงินสมทบในส่วนของผู้ประกันตนเกินในวันที่โจทก์ยื่นคำขอรับเงินที่เกินนั้น อันเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องเอาเงินส่วนของผู้ประกันตนที่นายจ้างนำส่งเกินคืนภายในกำหนด 1 ปี ตามนัยแห่งบทบัญญัติดังกล่าวแล้ว เงินนั้นยังไม่ตกเป็นของกองทุนประกันสังคม