คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา: วิเศษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 543/2481

ฎีกาต้องห้าม – การคัดค้านซ้ำข้อที่เคยยกขึ้นในศาลอุทธรณ์

จำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 10 ปี ศาลอุทธรณ์ได้ให้จำคุกจำเลย 5 ปี ดังนี้เป็นแก้น้อย ฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2481

การจำกัดสิทธิในการฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายในคดีอาญาที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุก

คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันลงโทษจำคุกจำเลย 4 +ให้เพิ่มโทษกักกันอีก 3 + จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงมิได้
(หมายเหตุ คดีนี้ในตัวฎีกาจำเลยคัดค้านฉะเพาะ+ลักทรัพย์ ฉะนั้นในคดี+ถือเอาว่าตัดสินฉะเพาะ+ลักทรัพย์)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2481

พยายามลักทรัพย์จนถูกขัดขวางและทำร้ายเจ้าพนักงาน: ความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์

เข้าไปถึงประตูห้องนอนบนเรือนเขาแล้วเอาไฟ+ฉายดูประตูนั้นด้วยเจตนาจะลักทรัพย์ตำรวจเข้าจับกุมจำเลย ๆ ต่อสู้ทำร้ายตำรวจบาดเจ็บดังนี้ ต้องมีผิดฐานพยายาม+ทรัพย์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำคุกจำเลย 4 ปี 5 เดือน + วัน เมื่อพ้นโทษแล้วให้ส่งตัวไปกักกันมีกำหนด + ปีดังนี้ จำเลยฎีกา+ข้อเท็จจริงฉะเพาะ+กักกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 522/2481

ความผิดฐานประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ: การระบุความประมาทในฟ้อง

ฟ้องว่าจำเลยขับรถผิดทาง เป็นเหตุให้ชนเชือกผู้โดยสานรับบาดเจ็บขอให้ลงโทษตาม ม.338(2) ดังนี้ ถือว่าฟ้องไม่ระบุความผิดตามมาตรา 338 ข้อ 2 จะลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ไม่ได้ การแปลฟ้องนั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2481

คำพูดดูหมิ่นเหยียดหยามถึงมารดา ถือเป็นหมิ่นประมาทซึ่งหน้า

ว่าเขาซึ่งหน้าว่า "กูจะไปฟ้องหีแม่มัน" ต้องมีความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2481

สิทธิของโจทก์ร่วม: การไม่แจ้งฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และผลกระทบต่อการพิจารณาของศาลฎีกา

ในคดีที่เจ้าทุกข์เป็นโจทก์ร่วมกับอัยยการ ศาลชั้นต้นไม่ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้เจ้าทุกข์ผู้เป็นโจทก์ฟัง เมื่ออัยยการฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็ตัดสินคดีระหว่างอัยยการกับจำเลยไปโดยไม่กล่าวถึงข้อบกพร่อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2481

สมคบคิดปล้นทรัพย์: การกระทำร่วมกันและเจตนาในการร่วมกระทำผิด

พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นการสมคบกันกระทำผิด+มีดนั่งอยู่กับพวกผู้ร้าย+เจ้าทุกข์เดินมา ผู้ร้ายเข้าตีแล้วแย่งเอาสายสร้อย+หนีไปก็วิ่งตามไปด้วยดังนี้ ถือว่าได้สมคบกับผู้ร้ายในการปล้นรายนี้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2481

การกู้เงินโดยแสดงตนเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของตนเพื่อประกันหนี้ เป็นการฉ้อโกง

ไปกู้เงินเขาแล้วเอาที่นามอบให้ไว้เป็นประกันเงินกู้โดยบอกเขาว่าที่นาเป็นกรรมสิทธิของตน แต่ความจริงนาเป็นของมารดาตนและยังมิได้ยกให้โดยเด็ดขาดดังนี้ ต้องมีความผิดฐานฉ้อโกง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 486/2481

การทำร้ายร่างกายโดยไม่มีเหตุวิวาท ถือเป็นกิริยาบังอาจ มีความผิดอาญา

+เท้าเตะเขาโดยไม่ปรากฎว่ามีการวิวาทหรือสมัคร์ใจวิวาททำร้ายกันมา+ต้น เรียกว่าเป็นกิริยาบังอาจต้องมีความผิดตามมาตราข้างต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2481

แก้ไขโทษจำคุกจากศาลชั้นต้นเป็นศาลอุทธรณ์ จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงแต่ศาลฎีkayืนตาม

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือนตาม ม.245 ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก 2 ปีตาม ม.244,60 ดังนี้เป็นแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา วิเศษ

คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วิเศษ