พบผลลัพธ์ทั้งหมด 557 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอาศัย, การใช้สิทธิเกินขอบเขต, และหน้าที่นำสืบในคดีแพ่ง
ผู้อาศัยซึ่งชนะคดีผู้ให้อาศัยย่อมได้รับสิทธิตามคำพิพากษาโดยไม่จำเป็นต้องขอให้ศาลบังคับเสมอไป และใช้ยันคู่กรณีได้ โดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสิทธินั้น จำเลยมีสิทธิอาศัยใช้ลานนวดข้าวในที่ดินของโจทก์ เพียงแต่จำเลยขุดหลุม ปิดประตูและรื้อรั้วดังนี้ เป็นการใช้สิทธิอาศัยเกินขอบเขตต์ไปบ้างเล็กน้อยยังไม่เป็นปฏิปักษ์แก่กรรมสิทธิในที่ดินของโจทก์อันเป็นเหตุให้ระงับตัดสิทธิอาศัยของจำเลยได้โจทก์รับตามรายงานพิจารณาว่าจะเป็นผู้นำสืบก่อนแล้วจะมาโต้แย้งหน้าที่นำสืบในภายหลังไม่ได้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผู้อาศัยใช้สิทธิเกินขอบเขตต์ จำเลยให้การปฏิเสธดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิในที่ดินจากการซื้อทอดตลาด: ผู้ซื้อย่อมไม่ได้รับกรรมสิทธิในที่ดินของผู้อื่น แม้ประกาศจะระบุชัดเจน
ประกาศขายทอดตลาดอันดับ 2 กล่าวถึงที่ดินและความกว้างยาวทุกด้านประกาศอันดับ 3 กล่าวถึงห้องแถวที่ขายซึ่งระบุว่าปลูกอยู่ในที่อันดับ 2 และว่าอยู่ในที่ดินของโจทก์ด้วย จำเลยรับซื้อทอดตลาดทั้งสองอันดับดังนี้แม้จะปรากฎว่าที่ของโจทก์ในเขตต์อันดับ 2 จำเลยก็เอาที่ของโจทก์ไม่ได้ เพราะรู้ได้ตามอันดับ 3 แล้วว่าที่เป็นของโจทก์.
โจทก์ทำให้ประกาศขายทอดตลาดมีปัญหา จำเลยจึ่งจะเอาที่ของโจทก์ดังนี้นับว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดอยู่ด้วยศาลไม่ให้โจทก์ได้ค่าเสียหายได้.
โจทก์ทำให้ประกาศขายทอดตลาดมีปัญหา จำเลยจึ่งจะเอาที่ของโจทก์ดังนี้นับว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดอยู่ด้วยศาลไม่ให้โจทก์ได้ค่าเสียหายได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ซื้อทอดตลาดต้องทราบขอบเขตที่ดิน หากรู้ว่าเป็นที่ดินของผู้อื่น แม้จะซื้อได้ก็ไม่มีสิทธิ
ประกาศขายทอดตลาดอันดับ 2 กล่าวถึงที่ดินและความกว้างยาวทุกด้านประกาศอันดับ 3 กล่าวถึงห้องแถวที่ขายซึ่งระบุว่าปลูกอยู่ในที่อันดับ 2 และว่าอยู่ในที่ดินของโจทก์ด้วย จำเลยรับซื้อทอดตลาดทั้งสองอันดับ ดังนี้แม้จะปรากฏว่าที่ของโจทก์อยู่ในเขตอันดับ 2 จำเลยก็เอาที่ของโจทก์ไม่ได้ เพราะรู้ได้ตามอันดับ 3 แล้วว่าที่เป็นของโจทก์
โจทก์ทำให้ประกาศขายทอดตลาดมีปัญหา จำเลยจึงจะเอาที่ของโจทก์ดังนี้นับว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดอยู่ด้วย ศาลไม่ให้โจทก์ได้ค่าเสียหายได้
โจทก์ทำให้ประกาศขายทอดตลาดมีปัญหา จำเลยจึงจะเอาที่ของโจทก์ดังนี้นับว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดอยู่ด้วย ศาลไม่ให้โจทก์ได้ค่าเสียหายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชักลากไม้โดยได้รับอนุญาตทางวาจาและการกระทำโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดอาญา
จำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ทำไม้ได้ จำเลยได้ทำการชักลากไม้มาก่อนที่เจ้าพนักงานป่าไม้ได้ตีตราอนุญาต โดยจำเลยได้รับคำสั่งอนุญาตด้วยวาจาจากเจ้าพนักงานให้ชักลากไม้มาก่อนแล้วจะตีตราให้ภายหลังซึ่งเป็นวิธีการที่เคยปฏิบัติกันมา ถือว่าจำเลยได้กระทำการไปโดยสุจริต ไม่เป็นบังอาจหรือเจตนาที่จะกระทำความผิดทางอาญา จำเลยจึงไม่ควรรับอาญา ไม้ของกลางไม่ริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยสุจริตตามคำสั่งเจ้าพนักงาน แม้ขัดกฎกระทรวง ไม่เป็นความผิดอาญา
จำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตได้ทำไม้ได้ จำเลยได้ทำการชักลากไม้มาก่อนที่เจ้าพนักงานป่าไม้ได้ดีตีตราอนุญาต โดยจำเลยได้รับคำสั่งอนุญาตด้วยวาจาจากเจ้าพนักงานให้ชักลากไม้มาก่อนแล้วจะตีตราให้ภายหลังซึ่งเป็นวิธีการที่เคยปฏิบัติกันมา ถือว่าจำเลยได้กระทำการไปโดยสุจริต ไม่เป็นบังอาจหรือเจตนาที่จะกระทำความผิดทางอาญา จำเลยจึงไม่ควรรับอาญา ไม้ของกลางไม่ริบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 309/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในเคหะสถานต้องพิสูจน์ว่าสถานที่นั้นใช้เป็นที่อยู่อาศัย
เคหะสถานนั้นหมายถึงสถานที่ซึ่งเป็นที่คนอยู่อาศัย แม้แต่ห้องเรือนก็จะต้องปรากฏว่าใช้เป็นที่คนอยู่อาศัย จึงจะถือว่าเป็นเคหะสถาน ฎีกาที่ 590/2471 ฎีกาที่810/2479 และที่ 515/2486
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปลักทรัพย์ในห้องเรือนของผู้เสียหายโดยมิได้ระบุหรือทำให้เข้าใจว่าห้องเรือนนั้นใช้เป็นที่สำหรับคนอยู่อาศัยไม่เป็นลักทรัพย์ในเคหะสถาน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปลักทรัพย์ในห้องเรือนของผู้เสียหายโดยมิได้ระบุหรือทำให้เข้าใจว่าห้องเรือนนั้นใช้เป็นที่สำหรับคนอยู่อาศัยไม่เป็นลักทรัพย์ในเคหะสถาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 309/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในเคหะสถานต้องพิสูจน์ว่าสถานที่นั้นใช้เป็นที่อยู่อาศัย
เคหะสถานนั้นหมายถึงสถานที่ซึ่งเป็นที่ตนอยู่อาศัย แม้แต่ห้องเรือนก็จะต้องปรากฎว่าใช้เป็นที่คนอยู่อาศัย จึงจะถือว่าเป็นเคหะสถาน
ฎีกาที่ 590/2471 ฎีกาที่ 810/2479 และที่ 515/2486
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปลักทรัพย์ในห้องเรือนของผู้เสียหายโดยมิได้ระบุหรือทำให้เข้าใจว่าห้องเรือนนั้นใช้เป็นที่สำหรับคนอยู่อาศัย ไม่เป็นลักทรัพย์ในเคหะสถาน.
ฎีกาที่ 590/2471 ฎีกาที่ 810/2479 และที่ 515/2486
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปลักทรัพย์ในห้องเรือนของผู้เสียหายโดยมิได้ระบุหรือทำให้เข้าใจว่าห้องเรือนนั้นใช้เป็นที่สำหรับคนอยู่อาศัย ไม่เป็นลักทรัพย์ในเคหะสถาน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อสันนิษฐานทางกฎหมายเรื่องเงินตราและการหักล้างได้
ข้อสันนิษฐานของกฎหมายที่ว่าถ้ามีสตางค์เกิน 30 บาท ให้ถือว่าไว้เกินสมควรนั้น ไม่ใช่ข้อสันนิษฐานเด็ดขาด ย่อมนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้ได้.
พฤตติการณ์ที่ถือว่าผู้เข้าหุ้นทำการค้าขายกับพวกอีก 4 คนในระยะ 3-4 วันได้สตางค์มา 45 บาท 46 สตางค์ยังไม่ทันแบ่งกัน ไม่เป็นการเกินสมควร.
พฤตติการณ์ที่ถือว่าผู้เข้าหุ้นทำการค้าขายกับพวกอีก 4 คนในระยะ 3-4 วันได้สตางค์มา 45 บาท 46 สตางค์ยังไม่ทันแบ่งกัน ไม่เป็นการเกินสมควร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อสันนิษฐานเรื่องการมีเงินเกินสมควร สามารถหักล้างได้
ข้อสันนิษฐานของกฎหมายที่ว่าถ้ามีสตางค์เกิน 30 บาท ให้ถือว่ามีไว้เกินสมควรนั้น ไม่ใช่ข้อสันนิษฐานเด็ดขาด ย่อมนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้ได้
พฤติการณ์ที่ถือว่าผู้เข้าหุ้นทำการค้าขายกับพวกอีก 4 คนในระยะ 3-4 วันได้สตางค์มา 45 บาท 46 สตางค์ยังไม่ทันแบ่งกัน ไม่เป็นการเกินสมควร
พฤติการณ์ที่ถือว่าผู้เข้าหุ้นทำการค้าขายกับพวกอีก 4 คนในระยะ 3-4 วันได้สตางค์มา 45 บาท 46 สตางค์ยังไม่ทันแบ่งกัน ไม่เป็นการเกินสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องชัดแจ้งฐานลักทรัพย์/รับของโจร แม้มีข้อความคลุมเครือ แต่จำเลยไม่โต้แย้ง ถือเป็นฟ้องไม่เคลือบคลุม
ฟ้องโจทก์บรรยายอย่างแจ้งชัดแล้วว่าจำเลยกับพวกกระทำความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร แม้ในตอนท้ายของคำฟ้องโจทก์จะกล่าวว่าจำเลยกับพวกนำเรือไปบรรทุกเหล็กที่จำเลยลักมาโดยมิได้กล่าวถึงเรื่องรับของโจรก็ตามฟ้องโจทก์ก็มีความหมายว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรแล้ว เมื่อจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้แสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม