คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อิศรภักดีธรรมวิเทต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 557 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหย่าจากพฤติการณ์ประพฤติชั่วร้าย: การลักพาและมีสัมพันธ์กับผู้เยาว์
ได้เสียเป็นสามีภรรยากันโดยทางลักพาเมื่อหญิงอายุได้ 15 ปีแล้วเข้ามากินอยู่ที่บ้านบิดามารดาของภรรยา ไม่ทันไรก็ลักพาน้องสาวภรรยาอายุ 15 ปีไปอีก ดังนี้ถือได้ว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้หญิงฟ้องหย่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหย่าจากพฤติกรรมประพฤติชั่วร้าย การลักพาและแต่งงานกับน้องสาวภรรยาเป็นเหตุให้หย่าได้
ได้เสียเป็นสามีภรรยากันโดยทางลักพาเมื่อหญิงอายุได้ 15 ปีแล้ว เข้ามากินอยู่ที่บ้านบิดามารดาของภรรยา ไม่ทันไรก็ลักพาน้องสาวภรรยาอายุ 15 ปีไปอีก ดังนี้ถือได้ว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้หญิงฟ้องหย่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 642/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฉุดคร่าห์ - ความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา แม้มิได้จดทะเบียน - ไม่เป็นความผิดอาญา
ชายฉุดคร่าห์หญิงที่เคยอยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยาแต่มิได้จดทะเบียน โดยเข้าใจว่า ผู้เสียหายยังเป็นภรรยาอยู่ ดังนี้ไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 642/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฉุดคร่าเมื่อจำเลยเชื่อว่าผู้เสียหายเป็นภรรยา แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ไม่ถือเป็นความผิดอาญา
ชายฉุดคร่าหญิงที่เคยอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาแต่มิได้จดทะเบียนโดยเข้าใจว่า ผู้เสียหายยังเป็นภรรยาอยู่ ดังนี้ ไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไถ่ที่ดินแม้เวลาล่วงเลย: สัญญาให้ไถ่ได้ย่อมไม่ขาดอายุความ ตราบเท่าที่ผู้ให้จำนองยังไม่ได้ฟ้องบังคับคดี
มอบที่นาให้ผู้ให้กู้โดยมีข้อสัญญาว่า ถ้าไม่ไถ่ในกำหนด ให้หลุดเป็นสิทธิแก่ผู้ให้กู้แต่ถ้าผู้กู้มีเงินมาไถ่ก็ยอมให้ไถ่ ดังนี้แม้เวลาล่วงเลยมากว่า 10 ปี ผู้กู้ก็ขอไถ่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการไถ่ที่ดินแม้เวลาล่วงเลยนาน สัญญาไม่ระงับสิทธิของผู้กู้
มอบที่นาให้ผู้ให้กู้โดยมีข้อสัญญาว่า ถ้าไม่ไถ่ในกำหนด ให้หลุดเป็นสิทธิ์แก่ผู้ให้กู้ แต่ถ้าผู้กู้มีเงินมาไถ่ก็ยอมให้ไถ่ดังนี้ แม้เวลาล่วงเลยมากว่า10 ปี ผู้กู้ก็ขอไถ่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยและการห้ามฎีกาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าเช่าที่ค้างชำระจากจำเลยเป็นเงิน 590.40 บาทจำเลยให้การว่าค้างชำระ 57.60 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างแก่โจทก์เป็นเงิน 246.80 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ชำระเพียง 57.60 บาท ดังนี้เป็นแก้ไขเล็กน้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยและการห้ามฎีกาข้อเท็จจริงในคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าเช่าที่ค้างชำระจากจำเลยเป็นเงิน 590.40 บาท จำเลยให้การว่าค้างชำระ 57.60 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างแก่โจทก์เป็นเงิน 246.80 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ชำระเพียง 57.60 บาท ดังนี้เป็นแก้ไขเล็กน้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ ความผิดร้ายแรง และระยะเวลาพ้นโทษ
จำเลยพ้นโทษครั้งที่ 1 มาเกินกว่า 5 ปีแล้ว ก็ลงโทษฐานกักกันได้
จำเลยพ้นโทษครั้งสุดท้ายแล้ว โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานกักกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำ โดยไม่จำกัดระยะเวลาหลังพ้นโทษครั้งแรก หรือการฟ้องคดีต่อเนื่อง
จำเลยพ้นโทษครั้งที่ 1 มาเกินกว่า 5 ปีแล้ว ก็ลงโทษฐานกักกันได้
จำเลยพ้นโทษครั้งสุดท้ายแล้วโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานกักกันได้
of 56