คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 163

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 309 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831-1833/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษจำคุกต่อจากคดีอื่น ต้องมีคำขอตั้งแต่ในฟ้อง หรือก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เกี่ยวกับกำหนดเวลาจำคุกผู้กระทำผิดตามคำพิพากษานั้นกฎหมายอาญา มาตรา 72 บัญญัตินับแต่วันต้องคุมขัง เว้นแต่ในคำพิพากษาจะสั่งเป็นอย่างอื่น เช่นสั่งให้นับแต่วันคดีถึงที่สุดเป็นต้น
แต่ถ้าจะสั่งให้นับต่อจากคดีเรื่องอื่นก็จำต้องมีคำขอเช่นนั้น ซึ่งโดยปกติโจทก์ต้องขอมาในฟ้อง ถ้าจะขอภายหลังก็ต้องขอก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 แม้ มาตรา 215 จะให้นำบทบัญญัติที่ว่าด้วยการพิจารณาและว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้นมาบังคับในชั้นศาลอุทธรณ์ด้วยโดยอนุโลมก็ดี มาตรา 163 ก็อยู่ในลักษณะฟ้องคดีอาญาและไต่สวนมูลฟ้องหาได้อยู่ในลักษณะการพิจารณาไม่ จึงอาศัยความในมาตรานี้นับโทษต่อให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831-1833/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษจำคุกต่อจากคดีอื่น ต้องมีคำขอในฟ้องหรือก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เกี่ยวกับกำหนดเวลาจำคุกผู้กระทำผิดตามคำพิพากษานั้น ก.ม.อาญา ม.32 บัญญัตินับแต่วันต้องคุมขัง เว้นแต่ในคำพิพากษาจะสั่งเป็นอย่างอื่น เช่นสั่งให้นับแต่วันคดีถึงที่สุดเป็นต้น
แต่ถ้าจะสั่งให้นับต่อจากคดีเรื่องอื่นก็จำต้องมีคำขอเช่นนั้น ซึ่งโดยปกติโจทก์ต้องขอมาในฟ้อง ถ้าจะขอภายหลังก็ต้องขอก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นก็ตาม ป.วิ.อาญา ม.163 แม้ ม.215 จะให้นำบทบัญญัติที่ว่าด้วยการพิจารณาและว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้นมาบังคับในชั้นศาลอุทธรณ์ด้วยโดยอนุโลมก็ดี ม.163 ก็อยู่ในลักษณะฟ้องคดีอาญาและไต่สวนมูลฟ้องหาได้อยู่ในลักษณะการพิจารณาไม่ จึงอาศัยความในมาตรานี้นับโทษต่อให้ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1743/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องและการรับสารภาพ: ศาลอนุญาตได้หากจำเลยมีสิทธิถอนคำรับสารภาพภายหลัง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือมิฉนั้นก็ฐานรับของโจรแต่ไมได้ระบุ ก.ม. อาญา ม.321 ลง
ในคำขอให้ลงโทษท้ายฟ้อง จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร โจทก์จึงขอเพิ่มเติม ม.321 ลงในท้ายคำขอให้ลงโทษ เช่นนี้ศาลอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1743/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องอาญาและการรับสารภาพ: ศาลอนุญาตเพิ่มเติมฟ้องได้หากจำเลยมีสิทธิถอนคำรับสารภาพ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือมิฉะนั้นก็ฐานรับของโจรแต่ไม่ได้ระบุกฎหมายอาญา มาตรา 321ลงในคำขอให้ลงโทษท้ายฟ้อง จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร โจทก์จึงขอเพิ่มเติม มาตรา 321 ลงในท้ายคำขอให้ลงโทษเช่นนี้ศาลอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: เหตุสมควร & ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนเพราะพยานโจทก์ทุกปากในชั้นสอบสวนว่าเกิดเหตุเวลา 19.00 น. แต่ชั้นศาลพิจารณาพยานโจทก์ทุกปากให้การว่าเกิดเหตุเวลา 17.00 น.เศษโจทก์จึงขอแก้เวลาเกิดเหตุอันเป็นรายละเอียดซึ่งต่อสู้แถลงในฟ้องก่อนศาลพิพากษาดังนี้เมื่อไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหลงข้อต่อสู้ย่อมแก้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องคดีอาญา: เหตุผลสมควร, ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ, อนุญาตได้ก่อนมีคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนเพราะพยานโจทก์ทุกปากในชั้นสอบสวนว่าเกิดเหตุเวลา 19.00 น. แต่ชั้นศาลพิจารณาพยานโจทก์ทุกปากให้การว่าเกิดเหตุเวลา 17.00 น. เศษ โจทก์จึงขอแก้เวลาเกิดเหตุอันเป็นรายละเอียดซึ่งต่อสู้แถลงในฟ้องก่อนศาลพิพากษาดังนี้เมื่อไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหลงข้อต่อสู้ย่อมแก้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการสืบพยานและการพิจารณาคำร้องแก้ไขฟ้อง: ศาลต้องพิจารณาก่อนพิพากษา
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยต่อสู้ว่าเป็นคนไทย ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์โต้แย้งแถลงว่า ประเด็นตกหน้าที่จำเลยนำสืบก่อน ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยนำพยานเข้าสืบก่อน โจทก์ไม่ยอมนำพยานเข้าสืบ และจะสืบต่อเมื่อจำเลยนำสืบพยานเรียบร้อยแล้ว และก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องศาลชั้นต้นสั่งเพียงว่า "รวม" ดังนี้หาควรที่จะพิพากษาคดีเสียก่อนไม่ศาลควรสั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเสียก่อน แล้วสั่งเรื่องหน้าที่นำสืบต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการนำสืบพยานและผลกระทบต่อการพิจารณาคดี: การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องต้องทำก่อนพิพากษา
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยต่อสู้ว่าเป็นคนไทยครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์โต้แย้งแถลงว่า ประเด็นตกหน้าที่จำเลยนำสืบก่อนขอให้ศาลสั่งให้จำเลยนำพยานเข้าสืบก่อน โจทก์ไม่ยอมนำพยานเข้าสืบ และจะสืบต่อเมื่อจำเลยนำสืบพยานเรียบร้อยแล้ว และก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องศาลชั้นต้นสั่งเพียงว่า 'รวม' ดังนี้หาควรที่จะพิพากษาคดีเสียก่อนไม่ศาลควรสั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเสียก่อน แล้วสั่งเรื่องหน้าที่นำสืบต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอแก้ฟ้องอาญาต้องมีเหตุอันควร การอ้างเพียงว่าฟ้องไม่สมบูรณ์ไม่พอ
โจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา แต่มิได้อ้างเหตุที่ขอแก้ฟ้องเสียเลย กล่าวแต่ว่า ฟ้องโจทก์ขาดข้อความบาง ประการ, ดังนี้ ย่อมไม่มีเหตุที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าควรให้แก้ฟ้องหรือไม่ ศาลย่อมยกคำร้องขอแก้ฟ้องนั้นได้เลยทีเดียว./
(อ้างฎีกาที่ 774/2481, และ ที่ 1110/2492).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอแก้ฟ้องอาญาต้องมีเหตุผลรองรับ มิใช่เพียงระบุว่าฟ้องไม่สมบูรณ์ ศาลมีอำนาจยกคำร้องได้
โจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญาแต่มิได้อ้างเหตุที่ขอแก้ฟ้องเสียเลย กล่าวแต่ว่าฟ้องโจทก์ขาดข้อความบางประการดังนี้ ย่อมไม่มีเหตุที่จะให้ศาลวินิจฉัยว่าควรให้แก้ฟ้องหรือไม่ศาลย่อมยกคำร้องขอแก้ฟ้องนั้นได้เลยทีเดียว (อ้างฎีกาที่ 774/2481, และที่1110/2492)
of 31