พบผลลัพธ์ทั้งหมด 233 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องเพิ่มเติมในคดีอาญา: การกล่าวอ้างการกระทำผิดใหม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยทุจริต ยักยอกเงินผลประโยชน์และเงินประเภทต่างๆ ของเทศบาลรวมเงิน 33,449 บาท 42 สตางค์ จำเลยให้การปฏิเสธ สืบพยาน 4 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องโดยแยกลักษณะประเภทเงิน และจำนวนเงินเพิ่มขึ้นอีก 155,079 บาท 76 สตางค์ และจำนวนเงินตามรายการที่เพิ่มเติมขึ้นใหม่ไม่ได้แจ้งข้อหาให้จำเลยทราบ และสอบสวนในข้อหาใหม่ดังนี้ คำร้องขอแก้ฟ้องของโจทก์เป็นการกล่าวอ้างการกระทำผิดของจำเลยขึ้นใหม่จำเลยไม่มีโอกาสซักค้านพยานโจทก์ที่สืบไปแล้วถึงการกระทำที่จำเลยถูกกล่าวหาขึ้นใหม่จึงทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องไม่ได้ เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 164 ตอนต้นของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องที่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ: ศาลไม่อนุญาตหากเป็นการกล่าวอ้างการกระทำผิดใหม่
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยทุจริต ยักยอกเงินผลประโยชน์และเงินประเภทต่าง ๆ ของเทศบาลรวมเงิน 33,449 บาท 42 สตางค์ จำเลยให้การปฏิเสธ สืบพยาน 4 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องโดยแยกลักษณะ ประเภทเงิน และจำนวนเงินเพิ่มขึ้นอีก 155,079 บาท 76 สตางค์ และจำนวนเงินตามรายการที่เพิ่มเติมขึ้นใหม่ ไม่ได้แจ้งข้อหาให้จำเลยทราบ และสอบสวนในข้อหาใหม่ดังนี้ คำร้องขอแก้ฟ้องของโจทก์เป็นการกล่าวอ้างการกระทำผิดของจำเลยขึ้นใหม่ จึงทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติม ฟ้องไม่ได้ เป็นการต้องห้ามตาม มาตรา 164 ตอนต้นของ ป.วิ.อ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องที่ขาดการลงชื่อ - ศาลมีอำนาจสั่งให้แก้ไขได้หากไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
สืบพยานโจทก์ได้ 1 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลว่า คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ โจทก์ยังมิได้ลงชื่อ ทั้งเป็นสำเนาด้วย โจทก์ขอส่งคำขอท้ายฟ้องอันแท้จริงใหม่ ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลย จำเลยว่าแล้วแต่ศาลจะสั่ง ดังนี้ ศาลชั้นต้นจะสั่งยกคำร้องของโจทก์ หาชอบไม่น่าจะเป็นความพลั้งเผลอของผู้ที่กลัดคำฟ้อง กลัดสับสนกันไป หากศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์จัดทำใหม่ให้ถูกต้อง ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียหายในการดำเนินคดี หรือต่อสู้คดีแต่ประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องที่ขาดการลงชื่อ: ศาลมีอำนาจสั่งให้แก้ไขเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปได้
สืบพยานโจทก์ได้ 1 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลว่าคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ โจทก์ยังมิได้ลงชื่อทั้งเป็นสำเนาด้วย โจทก์ขอส่งคำขอท้ายฟ้องอันแท้จริงใหม่ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลยจำเลยว่าแล้วแต่ศาลจะสั่งดังนี้ศาลชั้นต้นจะสั่งยกคำร้องของโจทก์ หาชอบไม่ น่าจะเป็นความพลั้งเผลอของผู้ที่กลัดคำฟ้องกลัดสับสนกันไป หากศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์จัดทำใหม่ให้ถูกต้อง ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียหายในการดำเนินคดีหรือต่อสู้คดีแต่ประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การเพิ่มเติมรายละเอียดฟ้องไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยสมคบกันใช้แหทำการประมงจับสัตว์น้ำในหนองนกกก อันเป็นหนองหวงห้ามและสาธารณประโยชน์รักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย(มิได้ระบุในฟ้องว่า หนองนั้นเป็นหนองประเภทที่ทางการประกาศหวงห้ามไว้สำหรับรักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำตามกฎหมายและไม่มีสำเนาประกาศนั้นติดท้ายฟ้อง) ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุมหรือไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด
ก่อนสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องข้างต้นว่าหนองดังกล่าวเป็นหนองที่ทางการได้ประกาศหวงห้ามไว้สำหรับรักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำตามกฎหมายดังปรากฏตามสำเนาประกาศท้ายคำร้องเช่นนี้ เป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดเพื่อให้ฟ้องเดิมชัดเจนขึ้นเท่านั้นเมื่อฟ้องเดิมของโจทก์เป็นฟ้องอันชอบแล้ว การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องดังคำร้องที่โจทก์ยื่นเข้ามานี้ ศาลจะให้แก้หรือไม่ ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง ความประสงค์ของโจทก์ก็คงจะเพื่อได้ส่งสำเนาประกาศที่หวงห้ามจับสัตว์น้ำประกอบฟ้อง แต่ข้อนี้ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะแม้โจทก์จะไม่ได้ส่งสำเนาประกาศ แต่เมื่อโจทก์ได้ระบุมาในฟ้องเดิมแล้วว่า เป็นที่หวงห้ามรักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำ โจทก์ก็ย่อมนำสืบได้ในทางพิจารณาอยู่ในตัวแล้ว คำร้องแก้ฟ้องของโจทก์จึงมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีแต่อย่างใดเมื่อโจทก์ต้องการจะแก้ฟ้องศาลก็ชอบที่จะให้โจทก์แก้ได้ตามความประสงค์
ก่อนสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องข้างต้นว่าหนองดังกล่าวเป็นหนองที่ทางการได้ประกาศหวงห้ามไว้สำหรับรักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำตามกฎหมายดังปรากฏตามสำเนาประกาศท้ายคำร้องเช่นนี้ เป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดเพื่อให้ฟ้องเดิมชัดเจนขึ้นเท่านั้นเมื่อฟ้องเดิมของโจทก์เป็นฟ้องอันชอบแล้ว การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องดังคำร้องที่โจทก์ยื่นเข้ามานี้ ศาลจะให้แก้หรือไม่ ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง ความประสงค์ของโจทก์ก็คงจะเพื่อได้ส่งสำเนาประกาศที่หวงห้ามจับสัตว์น้ำประกอบฟ้อง แต่ข้อนี้ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะแม้โจทก์จะไม่ได้ส่งสำเนาประกาศ แต่เมื่อโจทก์ได้ระบุมาในฟ้องเดิมแล้วว่า เป็นที่หวงห้ามรักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำ โจทก์ก็ย่อมนำสืบได้ในทางพิจารณาอยู่ในตัวแล้ว คำร้องแก้ฟ้องของโจทก์จึงมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีแต่อย่างใดเมื่อโจทก์ต้องการจะแก้ฟ้องศาลก็ชอบที่จะให้โจทก์แก้ได้ตามความประสงค์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การเพิ่มเติมรายละเอียดฟ้องไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยสมคบกันใช้แหทำการประมงจับสัตว์น้ำในหนองนกกก อันเป็นหนองหวงห้ามและสาธารณประโยชน์รักษาพืชพันธ์สัตว์น้ำโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย (มิได้ระบุในฟ้องว่า หนองนั้นเป็นหนองประเภทที่ทางการประกาศหวงห้ามไว้สำหรับรักษาพืชพันธ์สัตว์น้ำตามกฎหมายและไม่มีสำเนาประกาศนั้นติดท้ายฟ้อง) ก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุมหรือไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด
ก่อนสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องข้างต้นว่า หนองดังกล่าว เป็นหนองที่ทางการได้ประกาศหวงห้ามไว้สำหรับรักษาพืชพันธ์สัตว์น้ำตามกฎหมายดังปรากฏตามสำเนาประกาศท้ายคำร้อง เช่นนี้ เป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดเพื่อให้ฟ้องเดิมชัดเจนขึ้นเท่านั้น เมื่อฟ้องเดิมของโจทก์เป็นฟ้องอันชอบแล้ว การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องดังคำร้องที่โจทก์ยื่นเข้ามานี้ ศาลจะให้แก้หรือไม่ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง ความประสงค์ของโจทก์ก็คงจะเพื่อได้ส่งสำเนาประกาศที่หวงห้ามจับสัตว์น้ำประกอบฟ้อง แต่ข้อนี้ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะแม้โจทก์จะไม่ได้ส่งสำเนาประกาศ แต่เมื่อโจทก์ได้ระบุมาในฟ้องเดิมแล้วว่า เป็นที่หวงห้ามรักษาพืชพันธ์สัตว์น้ำ โจทก์ก็ย่อมนำสืบได้ในทางพิจารณาอยู่ในตัวแล้ว คำร้องแก้ฟ้องของโจทก์จึงมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีแต่อย่างใด เมื่อโจทก์ต้องการจะแก้ฟ้องศาลก็ชอบที่จะให้โจทก์แก้ได้ตามความประสงค์
ก่อนสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องข้างต้นว่า หนองดังกล่าว เป็นหนองที่ทางการได้ประกาศหวงห้ามไว้สำหรับรักษาพืชพันธ์สัตว์น้ำตามกฎหมายดังปรากฏตามสำเนาประกาศท้ายคำร้อง เช่นนี้ เป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดเพื่อให้ฟ้องเดิมชัดเจนขึ้นเท่านั้น เมื่อฟ้องเดิมของโจทก์เป็นฟ้องอันชอบแล้ว การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องดังคำร้องที่โจทก์ยื่นเข้ามานี้ ศาลจะให้แก้หรือไม่ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง ความประสงค์ของโจทก์ก็คงจะเพื่อได้ส่งสำเนาประกาศที่หวงห้ามจับสัตว์น้ำประกอบฟ้อง แต่ข้อนี้ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะแม้โจทก์จะไม่ได้ส่งสำเนาประกาศ แต่เมื่อโจทก์ได้ระบุมาในฟ้องเดิมแล้วว่า เป็นที่หวงห้ามรักษาพืชพันธ์สัตว์น้ำ โจทก์ก็ย่อมนำสืบได้ในทางพิจารณาอยู่ในตัวแล้ว คำร้องแก้ฟ้องของโจทก์จึงมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีแต่อย่างใด เมื่อโจทก์ต้องการจะแก้ฟ้องศาลก็ชอบที่จะให้โจทก์แก้ได้ตามความประสงค์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้อง, การตรวจสถานที่เกิดเหตุ, และขอบเขตการฎีกาในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ขอแก้ฟ้องโดยเพิ่มวันกระทำผิด เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้วเป็นแต่แก้รายละเอียด จำเลยไม่หลงต่อสู้ ศาลอนุญาต
จำเลยขอให้ศาลไปดูที่เกิดเหตุ ศาลเห็นไม่จำเป็นก็งดได้ฎีกาในข้อที่เป็นดุลพินิจของศาล เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง
จำเลยขอให้ศาลไปดูที่เกิดเหตุ ศาลเห็นไม่จำเป็นก็งดได้ฎีกาในข้อที่เป็นดุลพินิจของศาล เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278-279/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกง, ปลอมหนังสือ, การรวมกระทงโทษ และการบังคับคดีนอกฟ้อง: ข้อพิพาทเรื่องการหลอกลวงทางการค้าและการกำหนดโทษ
การรวมกระทงลงโทษ เมื่อรวมโทษทุกกระทงเข้าด้วยกันแล้วจะลงโทษเกินกว่าอัตราขั้นสูงได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมุตขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา225(4)และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องแม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมุตขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา225(4)และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องแม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278-279/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารทางการค้า: การรวมกระทงลงโทษและการคำนวณค่าเสียหาย
การรวมกระทงลงโทษ เมื่อรวมโทษทุกกระทงเข้าด้วยกันแล้ว จะลงโทษเกินกว่าอัตราขั้นได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมติขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตาม ก.ม.อาญา ม.225(4) และ ป.ม.อาญา ม.266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21 ป.พ.พ.
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง แม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
การที่จำเลยเขียนชื่อและประทับตราชื่อห้างร้านที่ไม่มีตัวจริงแต่เป็นห้างร้านที่สมมุตขึ้นและใช้ชื่อและประทับตราที่สมมติขึ้นในการออกเช็คสั่งจ่ายหรือสลักหลังเช็คที่ไม่มีห้างร้านตัวจริง เป็นผิดฐานปลอมหนังสือทั้งฉบับ
เช็คเป็นใบสั่งให้จ่ายเงินตาม ก.ม.อาญา ม.225(4) และ ป.ม.อาญา ม.266(4) โดยอยู่ในลักษณะ 21 ป.พ.พ.
คำร้องขอแก้ฟ้องที่ศาลไม่ได้สอบถามคู่ความและมีคำสั่งอย่างไรนั้น ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง แม้ศาลจะได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม และศาลย่อมชี้ขาดคดีนอกฟ้องตามคำร้องที่ไม่ได้สอบถามและมีคำสั่งประการใดนี้ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องที่จำเลยหลงต่อสู้คดี และการยกฟ้องเมื่อข้อเท็จจริงจากการสืบพยานต่างจากฟ้อง
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำผิดในวันใดวันหนึ่งแน่นอนจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ครั้นเมื่อสืบพยานโจทก์หมดแล้วโจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า เมื่อระหว่างวันหนึ่งถึงอีกวันหนึ่งวันเวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยได้กระทำผิดดังนี้ ไม่ใช่เป็นการขอเพิ่มเติม แต่เป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5),164
เมื่อจำเลยปฏิเสธฟ้องเดิมและได้ต่อสู้คดีในการสืบพยานโจทก์ตลอดมาจนหมดพยาน จึงถือได้ว่าจำเลยได้หลงต่อสู้คดีไปตามที่โจทก์ฟ้องผิดวันนั้นแล้วควรต้องยกคำร้องขอแก้ฟ้องนั้นและถือตามฟ้องเดิม
ดังนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำผิดก่อนวันตามฟ้องเดิมถึง 2 วันข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสำคัญ ชอบที่จะยกฟ้องเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192
เมื่อจำเลยปฏิเสธฟ้องเดิมและได้ต่อสู้คดีในการสืบพยานโจทก์ตลอดมาจนหมดพยาน จึงถือได้ว่าจำเลยได้หลงต่อสู้คดีไปตามที่โจทก์ฟ้องผิดวันนั้นแล้วควรต้องยกคำร้องขอแก้ฟ้องนั้นและถือตามฟ้องเดิม
ดังนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำผิดก่อนวันตามฟ้องเดิมถึง 2 วันข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสำคัญ ชอบที่จะยกฟ้องเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192