พบผลลัพธ์ทั้งหมด 233 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องคดีอาญาที่จำเลยต่อสู้คดีแล้ว และการนำสืบข้อเท็จจริงต่างจากฟ้องเดิม
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำผิดในวันใดวันหนึ่งแน่นอน จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ ครั้นเมื่อสืบพยานโจทก์หมดแล้ว โจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า เมื่อระหว่างวันหนึ่งถึงอีกวันหนึ่ง วันเวลาใดไม่ปรากฎชัดจำเลยได้กระทำผิด ดังนี้ ไม่ใช่เป็นการขอเพิ่มเติม แต่เป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 158(5),164 เมื่อจำเลยปฏิเสธฟ้องเดิมและได้ต่อสู้คดีในการสืบพยานโจทก์ตลอดมาจนหมดพยาน จึงถือได้ว่าจำเลยได้หลงต่อสู้คดีไปตามที่โจทก์ฟ้องผิดวันนั้นแล้ว ควรต้องยกคำร้องขอแก้ฟ้องนั้นและถือตามฟ้องเดิม
ดังนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำผิดก่อนวันตามฟ้องเดิมถึง 2 วัน ข้อเท็จจริงที่ปรากฎในการพิจารณา จึงต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสำคัญ ชอบที่จะยกฟ้องเสียตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 192
ดังนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำผิดก่อนวันตามฟ้องเดิมถึง 2 วัน ข้อเท็จจริงที่ปรากฎในการพิจารณา จึงต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสำคัญ ชอบที่จะยกฟ้องเสียตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอแก้ฟ้องคดีอาญา: แก้ไขวันเกิดเหตุเมื่อสืบพยานแล้ว ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
การขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อสืบพยานโจทก์ไปแล้ว 3 ปากโดยอ้างเหตุผลในคำร้องขอแก้ฟ้องว่า เพราะรายงานการสอบสวนของพนักงานบกพร่องทำให้อัยการโจทก์เข้าใจผิด ถือได้ว่ามีเหตุสมควรและเป็นการขอแก้รายละเอียดในฟ้อง เมื่อไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้คดีแล้ว โจทก์ย่อมขอแก้ได้
(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้น เมื่อปรากฎว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้กับปรากฎว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้ว ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมด และจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย
(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้น เมื่อปรากฎว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้กับปรากฎว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้ว ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมด และจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องคดีอาญา: การแก้วันเกิดเหตุที่ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้
การขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อสืบพยานโจทก์ไปแล้ว 3 ปาก โดยอ้างเหตุผลในคำร้องขอแก้ฟ้องว่าเพราะรายงานการสอบสวนของพนักงานสอบสวนบกพร่องทำให้อัยการโจทก์เข้าใจผิดถือได้ว่ามีเหตุสมควรและเป็นการขอแก้รายละเอียดในฟ้อง
เมื่อไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้คดีแล้วโจทก์ย่อมขอแก้ได้(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้นเมื่อปรากฏว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้ก็ปรากฏว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมดและจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย
เมื่อไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้คดีแล้วโจทก์ย่อมขอแก้ได้(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้นเมื่อปรากฏว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้ก็ปรากฏว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมดและจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมวันเวลาทำผิดในฟ้องอาญา: ศาลอนุญาตได้หากไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
การขอเพิ่มเติมฟ้องอ้างเหตุความพลั้งเผลอถือว่ามีเหตุสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 วรรคแรก
การขอเพิ่มเติมวัน เวลาทำผิดในฟ้องเดิมเป็นการขอเพิ่มเติมรายละเอียดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา164 การขอเพิ่มเติมรายละเอียดที่มิได้กล่าวไว้เช่นนี้ ไม่ว่าทำในระยะใดในระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น มิให้ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ในข้อนั้น ก็ให้รับคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์
การขอเพิ่มเติมวัน เวลาทำผิดในฟ้องเดิมเป็นการขอเพิ่มเติมรายละเอียดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา164 การขอเพิ่มเติมรายละเอียดที่มิได้กล่าวไว้เช่นนี้ ไม่ว่าทำในระยะใดในระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น มิให้ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ในข้อนั้น ก็ให้รับคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1743/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องอาญาและการรับสารภาพ: ศาลอนุญาตเพิ่มเติมฟ้องได้หากจำเลยมีสิทธิถอนคำรับสารภาพ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือมิฉะนั้นก็ฐานรับของโจรแต่ไม่ได้ระบุกฎหมายอาญา มาตรา 321ลงในคำขอให้ลงโทษท้ายฟ้อง จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร โจทก์จึงขอเพิ่มเติม มาตรา 321 ลงในท้ายคำขอให้ลงโทษเช่นนี้ศาลอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1743/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องและการรับสารภาพ: ศาลอนุญาตได้หากจำเลยมีสิทธิถอนคำรับสารภาพภายหลัง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือมิฉนั้นก็ฐานรับของโจรแต่ไมได้ระบุ ก.ม. อาญา ม.321 ลง
ในคำขอให้ลงโทษท้ายฟ้อง จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร โจทก์จึงขอเพิ่มเติม ม.321 ลงในท้ายคำขอให้ลงโทษ เช่นนี้ศาลอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมได้
ในคำขอให้ลงโทษท้ายฟ้อง จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร โจทก์จึงขอเพิ่มเติม ม.321 ลงในท้ายคำขอให้ลงโทษ เช่นนี้ศาลอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาข่มขืน การเพิ่มเติมฟ้อง และการที่พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนก่อนการร้องทุกข์
โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานเอาคดีขึ้นว่ากล่าว แต่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนความผิดของจำเลยคดีมีมูลไว้ชั้นหนึ่งแล้วนั้น ถือว่าเป็นฟ้องที่ชอบแล้ว
การที่โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องภายหลังจากโจทก์สืบพยานไปแล้ว 5 ปาก เพื่อเป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดซึ่งมิได้กล่าวไว้ในฟ้องให้ชัดแจ้งขึ้นเท่านั้น ตามรูปเรื่องแห่งคดีเห็นได้ว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ในข้อที่มิได้กล่าวไว้นั้นศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้.
การที่โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องภายหลังจากโจทก์สืบพยานไปแล้ว 5 ปาก เพื่อเป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดซึ่งมิได้กล่าวไว้ในฟ้องให้ชัดแจ้งขึ้นเท่านั้น ตามรูปเรื่องแห่งคดีเห็นได้ว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ในข้อที่มิได้กล่าวไว้นั้นศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาโดยไม่ระบุการร้องทุกข์ และการเพิ่มเติมฟ้องภายหลัง ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานและเจตนาของจำเลย
โจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานเอาคดีขึ้นว่ากล่าว แต่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนความผิดของจำเลยคดีมีมูลไว้ชั้นหนึ่งแล้วนั้น ถือว่าเป็นฟ้องที่ชอบแล้ว
การที่โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องภายหลังจากโจทก์สืบพยานไปแล้ว 5 ปากเมื่อเป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดซึ่งมิได้กล่าวไว้ในฟ้องให้ชัดแจ้งขึ้นเท่านั้นตามรูปเรื่องแห่งคดีเห็นได้ว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ในข้อที่มิได้กล่าวไว้นั้นศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้
การที่โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องภายหลังจากโจทก์สืบพยานไปแล้ว 5 ปากเมื่อเป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดซึ่งมิได้กล่าวไว้ในฟ้องให้ชัดแจ้งขึ้นเท่านั้นตามรูปเรื่องแห่งคดีเห็นได้ว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ในข้อที่มิได้กล่าวไว้นั้นศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับการสืบพยานและการพิจารณาคำร้องแก้ไขฟ้อง: ศาลต้องพิจารณาก่อนพิพากษา
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยต่อสู้ว่าเป็นคนไทย ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์โต้แย้งแถลงว่า ประเด็นตกหน้าที่จำเลยนำสืบก่อน ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยนำพยานเข้าสืบก่อน โจทก์ไม่ยอมนำพยานเข้าสืบ และจะสืบต่อเมื่อจำเลยนำสืบพยานเรียบร้อยแล้ว และก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องศาลชั้นต้นสั่งเพียงว่า "รวม" ดังนี้หาควรที่จะพิพากษาคดีเสียก่อนไม่ศาลควรสั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเสียก่อน แล้วสั่งเรื่องหน้าที่นำสืบต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับการนำสืบพยานและผลกระทบต่อการพิจารณาคดี: การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องต้องทำก่อนพิพากษา
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยต่อสู้ว่าเป็นคนไทยครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์โต้แย้งแถลงว่า ประเด็นตกหน้าที่จำเลยนำสืบก่อนขอให้ศาลสั่งให้จำเลยนำพยานเข้าสืบก่อน โจทก์ไม่ยอมนำพยานเข้าสืบ และจะสืบต่อเมื่อจำเลยนำสืบพยานเรียบร้อยแล้ว และก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องศาลชั้นต้นสั่งเพียงว่า 'รวม' ดังนี้หาควรที่จะพิพากษาคดีเสียก่อนไม่ศาลควรสั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเสียก่อน แล้วสั่งเรื่องหน้าที่นำสืบต่อไป