พบผลลัพธ์ทั้งหมด 233 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องคดีอาญา: วันเวลากระทำผิดเป็นรายละเอียดที่แก้ได้ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้
การขอแก้วันเวลากระทำผิดอันจำเป็นต้องกล่าวในฟ้อง ตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 158(5) นั้น เป็นการแก้รายละเอียด ซึ่งมาตรา 164 อนุญาตให้แก้ได้ มิให้ถือว่า ทำให้จำเลยเสียเปรียบเว้นแต่จำเลยได้หลงข้อต่อสู้
สืบพะยานโจทก์ไปได้ 2 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้วันกระทำผิดในฟ้อง เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ย่อมแก้ได้
สืบพะยานโจทก์ไปได้ 2 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้วันกระทำผิดในฟ้อง เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ย่อมแก้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้วันเวลากระทำผิดในฟ้อง ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหากไม่หลงข้อต่อสู้
การขอแก้วันเวลากระทำผิดอันจำเป็นต้องกล่าวในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)นั้น เป็นการแก้รายละเอียด ซึ่งมาตรา 164 อนุญาตให้แก้ได้ มิให้ถือว่า ทำให้จำเลยเสียเปรียบเว้นแต่จำเลยได้หลงข้อต่อสู้
สืบพยานโจทก์ไปได้ 2 ปากโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ย่อมแก้ได้
สืบพยานโจทก์ไปได้ 2 ปากโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ย่อมแก้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องฐานยักยอกต้องชัดเจนว่าจำเลยขายทรัพย์สินแล้ว หากยังไม่ได้ขายถือว่าไม่ได้ยักยอก
คดีหาว่า จำเลยยักยอกแหวนของโจทก์ที่ฝากจำเลยขายนั้นคำฟ้องของโจทก์จะต้องปรากฏให้แจ้งชัดว่า จำเลยได้ขายแหวนที่ได้รับมอบหมายไปจากโจทก์แล้ว มิฉะนั้นจะกล่าวหาว่าจำเลยยักยอกแหวนมิได้
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยรับแหวนไปแล้ว ไม่เอาแหวนหรือเงินมาให้โจทก์ครั้นโจทก์ทวงถามกลับโต้เถียงว่าคืนให้แล้วนั้น เป็นแต่แสดงเหตุที่ทำให้โจทก์รู้สึกตัวว่าถูกโกงเท่านั้น หาใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่ได้ขายแหวน แต่ยักยอกเสีย อันเป็นองค์ความผิดฐานยักยอกแหวนให้แน่ชัดลงไปไม่ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และศาลจะสั่งให้โจทก์แก้ หรือเพิ่มเติมข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ก็ไม่ได้เพราะฟ้องขาดข้อเท็จจริงที่เป็นองค์ความผิด ทั้งโจทก์ก็ไม่ได้ขอแก้ฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยรับแหวนไปแล้ว ไม่เอาแหวนหรือเงินมาให้โจทก์ครั้นโจทก์ทวงถามกลับโต้เถียงว่าคืนให้แล้วนั้น เป็นแต่แสดงเหตุที่ทำให้โจทก์รู้สึกตัวว่าถูกโกงเท่านั้น หาใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่ได้ขายแหวน แต่ยักยอกเสีย อันเป็นองค์ความผิดฐานยักยอกแหวนให้แน่ชัดลงไปไม่ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และศาลจะสั่งให้โจทก์แก้ หรือเพิ่มเติมข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ก็ไม่ได้เพราะฟ้องขาดข้อเท็จจริงที่เป็นองค์ความผิด ทั้งโจทก์ก็ไม่ได้ขอแก้ฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย – การยกฟ้องเมื่อศาลประทับฟ้องและดำเนินกระบวนการไปแล้ว
ฟ้องที่มิได้ลงชื่อโจทก์นั้นเป็นฟ้องไม่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 (7)
ศาลชั้นต้นได้สั่งประทับฟ้องที่ไม่ถูกต้องไว้ และดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพะยานโจทก์ไปแล้ว คงเหลือแต่พนักงานสอบสวนอีกปากเดียว ความจึงปรากฎจากคำร้องของจำเลยว่าโจทก์ไม่ได้ลงชื่อในฟ้อง ดังนี้จึงมีวิธีที่ศาลจะปฏิบัติตามมาตรา 161 ได้อีกทางเดียวคือให้ยกฟ้องเสีย.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2492)
ศาลชั้นต้นได้สั่งประทับฟ้องที่ไม่ถูกต้องไว้ และดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพะยานโจทก์ไปแล้ว คงเหลือแต่พนักงานสอบสวนอีกปากเดียว ความจึงปรากฎจากคำร้องของจำเลยว่าโจทก์ไม่ได้ลงชื่อในฟ้อง ดังนี้จึงมีวิธีที่ศาลจะปฏิบัติตามมาตรา 161 ได้อีกทางเดียวคือให้ยกฟ้องเสีย.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หากศาลดำเนินกระบวนการสืบพยานไปแล้ว ต้องยกฟ้อง
ฟ้องที่มิได้ลงชื่อโจทก์นั้นเป็นฟ้องไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7)
ศาลชั้นต้นได้สั่งประทับฟ้องที่ไม่ถูกต้องไว้ และดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปแล้ว คงเหลือแต่พนักงานสอบสวนอีกปากเดียว ความจึงปรากฏจากคำร้องของจำเลยว่าโจทก์ไม่ได้ลงชื่อในฟ้องดังนี้จึงมีวิธีที่ศาลจะปฏิบัติตามมาตรา 161 ได้อีกทางเดียวคือให้ยกฟ้องเสีย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/92)
ศาลชั้นต้นได้สั่งประทับฟ้องที่ไม่ถูกต้องไว้ และดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปแล้ว คงเหลือแต่พนักงานสอบสวนอีกปากเดียว ความจึงปรากฏจากคำร้องของจำเลยว่าโจทก์ไม่ได้ลงชื่อในฟ้องดังนี้จึงมีวิธีที่ศาลจะปฏิบัติตามมาตรา 161 ได้อีกทางเดียวคือให้ยกฟ้องเสีย(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/92)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตแก้ฟ้องระหว่างพิจารณาคดี: แก้ไขสถานที่เกิดเหตุไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาเรียกได้ว่าอยู่ในระหว่างพิจารณา อาจสืบพยานของศาลเพิ่มเติมได้
โจทก์ยื่นคำขอแก้ฟ้อง เมื่อเสร็จการสืบพยานและถึงวันนัดพิพากษา ดังนี้เรียกว่า ขอแก้ไขระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำผิดที่ตำบลบางแค อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดพระนคร เมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว นัดฟังคำพิพากษา โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่า เกิดเหตุที่ ตำบลบางแค อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี ดังนี้จำเลยย่อมรู้และเข้าใจได้ เพราะจำเลยรู้จักสถานที่ ไม่มีเหตุที่จะสงสัยว่าจำเลยเข้าใจผิดหรือหลงข้อต่อสู้ในเรื่องดำบลที่เกิดเหตุ หรือเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ชอบที่จะอนุญาตให้แก้ฟ้องได้
โจทก์ยื่นคำขอแก้ฟ้อง เมื่อเสร็จการสืบพยานและถึงวันนัดพิพากษา ดังนี้เรียกว่า ขอแก้ไขระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำผิดที่ตำบลบางแค อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดพระนคร เมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว นัดฟังคำพิพากษา โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่า เกิดเหตุที่ ตำบลบางแค อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี ดังนี้จำเลยย่อมรู้และเข้าใจได้ เพราะจำเลยรู้จักสถานที่ ไม่มีเหตุที่จะสงสัยว่าจำเลยเข้าใจผิดหรือหลงข้อต่อสู้ในเรื่องดำบลที่เกิดเหตุ หรือเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ชอบที่จะอนุญาตให้แก้ฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความคลาดเคลื่อนวันเกิดเหตุในฟ้อง ไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง หากข้อเท็จจริงยังคงสอดคล้องกัน
ฟ้องของโจทก์กล่าวทั้ง วันทางจันทรคติ และทางสุริยคติ แต่วันทางจันทรคติผิดไป แต่ถูกตามวันสุริยคตินั้น ยังไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง อันเป็นเหตุให้ยกฟ้อง
(อ้างฎีกา 745/2489)
(อ้างฎีกา 745/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความคลาดเคลื่อนของวันในฟ้องอาญาไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง หากข้อเท็จจริงโดยรวมยังคงตรงกัน
ฟ้องของโจทก์กล่าวทั้งวันทางจันทรคติและทางสุริยคติ แต่วันทางจันทรคติผิดไป แต่ถูกตามวันสุริยคตินั้น ยังไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องอันเป็นเหตุให้ยกฟ้อง (อ้างฎีกา 745/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมสถานที่เกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหากไม่หลงข้อต่อสู้
โจทก์ยื่นคำร้องเพิ่งเติมสถานที่เกิดการกระทำผิดในฟ้อง เมื่อเจ้าทรัพย์พยานโจทก์กำลังเบิกความ โดยอ้างเหตุว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้สอบสวนมาให้ชัด เพิ่งมาทราบความขณะเมื่อพะยานเบิกความ ดั่งนี้ ถือว่ามิทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 730/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมสถานที่เกิดเหตุในฟ้องไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ อนุญาตให้แก้ไขได้
โจทก์ยื่นคำร้องเพิ่มเติมสถานที่เกิดการกระทำผิดในฟ้องเมื่อเจ้าทรัพย์พยานโจทก์กำลังเบิกความ โดยอ้างเหตุว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้สอบสวนมาให้ชัด เพิ่งมาทราบความขณะเมื่อพยานเบิกความ ดั่งนี้ ถือว่ามิทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ศาลอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้